เมื่อเราถือว่า เป็นหน้าที่ของอัลลอฮ์(ซ.บ.)ที่พระองค์ทรงเมตตากรุณา ในกรณีที่ส่งมายังมวลมนุษย์ซึ่งบุคคลที่ชี้นำตักเตือน และเรียกร้องเชิญชวนมนุษย์สู่หนทางอันเที่ยงตรงโดยได้ทรงอธิบายความรู้ในทางศาสนาและกำหนดแบบแผนอันแน่นอนตามที่ทรงประสงค์แก่พวกเขาเพื่อเป็น
หลักฐานข้อพิสูจน์ของพระองค์ที่ให้แก่พวกเขาดังโองการที่ว่า :
“ดังนั้น หลักฐานข้อพิสูจน์อันเป็นเหตุผลลึกซึ้งเป็นของอัลลอฮ์”( 1 )
ผู้ชี้นำและผู้ตักเตือนที่ว่านี้คือท่านศาสนทูตมุฮัมมัด(ศ)ซึ่งได้มีปาฏิหารย์มากมายและมีข้อพิสูจน์หลายประการมาสนับสนุนสัจธรรมและคำสอนของท่านและอัล-กุรอานอันทรงเกียรติเล่มนี้
ก็เป็นสิ่งมหัศจรรย์อันอมตะและเป็นข้อพิสูจน์อันเที่ยงธรรมประการหนึ่งของพระองค์ ที่ไม่มีความผิดพลาดใด ๆ ไม่ว่าจะเป็นในยุคปัจจุบันและอนาคตข้างหน้าก็ตามจะล่วงล้ำกล้ำกลายคัมภีร์เล่มนี้ได้
มันเป็นสิ่งที่ถูกประทานจากพระผู้ทรงเกียรติ พระผู้ทรงปัญญาญาณนับเป็นเวลา 14 ศตวรรษล่วงมาแล้วที่พระองค์ทรงท้าทายมนุษยชาติให้นำเสนอคัมภีร์ที่เหมือนกับเล่มนี้มาต่างหากสักเล่มหนึ่ง ต่อจากนั้นเมื่อทรงประจักษ์ถึงความด้อยในสมรรถภาพ และขีดความสามารถของมนุษย์
------------------------------------------------------------------
(1)ซูเราะฮ์ อัล-อันอาม: 149