วจนะของอิมามมุฮัมมัด บากิรเกี่ยวกับเสียงป่าวประกาศที่จะกึกก้องขึ้นในฟากฟ้า

 

ฮะดีษ (วจนะ) อันทรงคุณค่าของท่านอิมามมุฮัมมัดบากิร (อ.) เกี่ยวกับเสียงป่าวประกาศหนึ่งที่จะกึกก้องขึ้นในฟากฟ้าโดยญิบรออีล ซึ่งท่านอิมามกล่าวว่า “ขอพระผู้เป็นเจ้าทรงเมตตาต่อผู้ที่ได้รับคำแนะนำจากเสียงประกาศแห่งฟากฟ้าและตอบรับมัน ทั้งนี้เนื่องจากเสียงประกาศครั้งแรกนั้นเป็นเสียงของญิบรีล รูฮุ้ลอามีน”

         
ท่านอิมามบากิร (อ.) กล่าวว่า

 

“ผู้ประกาศจากฟากฟ้าจะประกาศชื่อของกออิม (มะฮ์ดี (อ.) โดยที่ทุกคนที่อยู่ในทิศตะวันตกและทิศตะวันออกของโลกจะได้ยิน จะไม่มีผู้ที่นอนหลับคนใดเหลืออยู่ นอกจากเขาจะตื่นขึ้น และไม่มีผู้ยืนคนใดเว้นแต่เขาจะนั่งลง และไม่มีผู้นั่งคนใดเว้นแต่เขาจะยืนขึ้น เนื่องจากความสะพรึงกลัวต่อเสียงนั้น ดังนั้นขอพระผู้เป็นเจ้าทรงเมตตาต่อผู้ที่ได้รับคำแนะนำจากเสียงประกาศแห่งฟากฟ้าและตอบรับมัน ทั้งนี้เนื่องจากเสียงประกาศครั้งแรกนั้นเป็นเสียงของญิบรีล รูฮุ้ลอามีน”

         
ต่อจากนั้นท่านอิมาม (อ.) กล่าวว่า “เสียงนั้นจะเกิดขึ้นในค่ำวันศุกร์ที่ 23 ของเดือนรอมฎอน ท่านทั้งหลายอย่าได้คลางแคลงสงสัยในเสียงนั้น จงรับฟังและจงปฏิบัติตาม”

           
และในช่วงท้ายของวันนั้นจะเป็นเสียงของอิบลีส (หัวหน้าซาตานมารร้าย) ผู้ถูกสาปแช่ง มันจะประกาศว่า “พวกท่านทั้งหลายจงรับรู้เถิด! แท้จริงบุคคลผู้นั้นผู้นี้ ได้ถูกฆ่าอย่างอธรรม” เพื่อที่เขาจะทำให้ประชาชนเกิดความคลางแคลงสงสัย และสร้างวิกฤตความขัดแย้งให้เกิดแก่พวกเขา และมากมายเหลือเกินที่ในวันนั้นจะมีผู้คลางแคลงสงสัยและมึนงงสับสน โดยที่เขาจะตกสู่ไฟนรก”

           
ดังนั้นเมื่อพวกท่านได้ยินเสียงประกาศในเดือนรอมฎอน พวกท่านก็อย่าได้คลางแคลงสงสัยในมันเลย เพราะแท้จริงมันคือเสียงของญิบรออีล (ทูตสวรรค์ผู้ซื่อสัตย์) และเครื่องหมายที่บ่งชี้ถึงสิ่งนั้นก็คือ เขาจะประกาศด้วยชื่อของกออิม (มะฮ์ดี) พร้อมด้วยชื่อของบิดาของเขา แม้แต่สาวบริสุทธิ์ที่อยู่ในกระโจมของนางก็จะได้ยินเสียงนั้น และจะส่งเสริมให้บิดาและพี่น้องของนางออกจากบ้านไป (เพื่อร่วมกับท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.))

         
ต่อจากนั้น ท่านอิมาม (อ.) กล่าวว่า “ทั้งสองเสียงนี้จะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ก่อนการมาของกออิม (อ.)”

 

ตัวบทฮะดีษ

 

نادي مناد من السماء . . . باسم القائم ـ عليه السلام ـ فيسمع مَن بالمشرق ومَن بالمغرب، لا يبقى راقدٌ إلاّ استيقظ، ولا قائم إلاّ قعد ولا قاعِد إلاّ قام على رِجْلَيه، فَزَعاً مِن ذلك الصوت، فرحم اللّه من اعتبر بذلك الصوت فأجاب فإنَّ الصوت الأول هو صوت جبرئيل الروح الأمين

ثمّ قال ـ عليه السلام ـ : الصوت في شهر رمضان، في ليله جمعه، ليله ثلاث وعشرين، فلا تشكّوا في ذلك واسمعوا وأطيعوا

وفي آخر النهار، صوت الملعون إبليس، ينادي: ألا! إنّ فلاناً قُتل مظلوماً. ليشكّك النّاس ويفتنهم، فكم في ذلك اليوم مِن شاكّ مُتحيّر قد هوى في النّار

فإذا سمعتم الصوت في شهر رمضان، فلا تشكُّوا فيه، إنّه صوت جبرئيل وعلامة ذلك أنّه ينادي باسم القائم وإسم أبيه حتّى تسمعه العذراء في خِدرها،فتحرّض أباها وأخاها على الخروج

ثمّ قال ـ عليه السلام ـ : لابدّ مِن هذين الصوتين قبل خروج القائم ـ عليه السلام

 

          
ส่วนเสียงที่จะได้ยินในเดือนมุฮัรร็อม และเป็นเดือนที่ท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.ญ.) จะปรากฏตัวขึ้นในนครมักกะฮ์ และเป็นวันแรกแห่งการยืนหยัดขึ้นต่อสู้ของท่านนั้น ญิบรออีลจะลงมาบนแท่นหินหนึ่งในบัยตุ้ลมักดิส (ในช่วงเวลานั้นซุฟยานีกำลังก่ออาชญากรรมที่เลวร้ายที่สุดในหมู่สาธารณะชน) และญิบรออีลก็จะประกาศว่า

 

يا عباد اللّه! اسمعوا ما أقول انّ هذا مهدي آل محمّد خارج من أرض مكّه فأجيبوه

 

“โอ้ปวงบ่าวของอัลลอฮ์! จงฟังสิ่งที่ข้าจะบอกแก่พวกท่าน แท้จริงบัดนี้มะฮ์ดีจากวงศ์วานของมุฮัมมัดได้ปรากฏตัวแล้วจากแผ่นดินมักกะฮ์ ดังนั้นพวกท่านจงตอบรับ (คำสั่งของ) เขาเถิด”

 

(หนังสือ ฆ็อยบะฮ์ อันนุอ์มานี หมวดที่ 14 หน้าที่ 254)

ขอขอบคุณเว็บไซต์ซอฮิบซะมาน