เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม

ความสัมพันธ์ระหว่างอาหารกับพฤติกรรมของมนุษย์

0 ทัศนะต่างๆ 00.0 / 5

ความสัมพันธ์ระหว่างอาหารกับพฤติกรรมของมนุษย์

 

หนึ่งในปัจจัยหลักสำหรับการพัฒนาและการขัดเกลาคุณธรรม จริยธรรมและศีลธรรม คือประเภทของอาหารในด้านของการเป็นที่อนุมัติ (ฮะล้าล) และต้องห้าม (ฮะรอม) ตามศาสนบัญญัติ อาหารต่างๆ ที่หลากหลาย ชนิดของอาหารที่จะบริโภค ถือเป็นประเด็นที่สำคัญที่สุดที่จะส่งผลกระทบต่อจิตวิญญาณและคุณลักษณะต่างๆ ทางด้านจิตใจของมนุษย์ วิธีการในการบริโภคอาหารสามารถนำพามนุษย์ไปสู่ความผาสุกอันเป็นิรันดร์หรือความอับโชคอันเป็นนิรันดร์ได้ ด้วยเหตุนี้บรรดานักวิชาการด้านจริยศาสตร์ (อิลมุลอัคลาก) จึงให้ความสำคัญต่อประเด็นนี้เป็นอย่างมาก และถือว่าการระมัดระวังในเรื่องนี้คือปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญที่สุดของการย่างก้าวไปสู่ความสมบูรณ์ (กะมาล)

 

       ศาสนาแห่งพระผู้เป็นเจ้าคือศาสนาหนึ่งเดียวกัน และเป้าหมายก็คือเป้าหมายเดียวกัน นับจากศาสดาท่านแรกซึ่งได้แก่ท่านศาสดาอาดัม (อ.) จวบจนถึงศาสดาแห่งยุคสุดท้ายของโลก ซึ่งได้แก่ท่านศาสดามุฮัมมัด (ซ็อลฯ) ศาสดาทั้งปวงเหล่านั้นคือผู้เรียกร้องเชิญชวนไปสู่แนวทางหนึ่งเดียวกัน เป็นผู้ชี้ให้เห็นถึงเป้าหมายหนึ่งเดียวกัน ศาสดาทั้งหมดเหล่านั้นได้ย่างก้าวและเดินไปบนเส้นทางหนึ่งเดียวกัน ในยุคสมัยต่างๆ พวกท่านได้เรียกร้องเชิญชวนมนุษยชาติให้ก้าวเดินไปในเส้นทางหนึ่งเดียวกัน ไม่มีความแตกต่างใดๆ ในแนวทางของพวกท่าน

 

       โอ้ผู้อ่านที่มีเกียรติทั้งหลาย! หากพวกท่านปรารถนาที่จะสัมผัสกับเส้นทางดังกล่าว ท่านทั้งหลายก็จงกำหนดเอา “ตักวา” (ความยำเกรงและการสำรวมตนต่อพระผู้เป็นเจ้า) เป็นแบบแผนในการปฏิบัติของท่านเถิด เพื่อพวกท่านจะได้รับความปลอดภัยจากการลงโทษของพระผู้เป็นเจ้า

 

       โองการจำนวนหนึ่งของคัมภีร์อัลกุรอาน ในการกระทำความดีงามหรือการห้ามจากพฤติกรรมต่างๆ ที่น่าเกลียดนั้น มาหลังจากคำสั่งและคำแนะนำให้ใช้ประโยชน์จากอาหารต่างๆ ที่ฮะล้าล (อนุมัติตามบัญญัติของศาสนา) และมีความสะอาดบริสุทธิ์ ซึ่งเป็นเครื่องแสดงให้เห็นว่าอาหารที่ฮะล้าล (อนุมัติตามบัญญัติของศาสนา) และสะอาดบริสุทธิ์นั้น มีส่วนสัมพันธ์โดยตรงต่อพฤติกรรมที่ดีงามและไม่ดีงามของมนุษย์

 

       ตัวอย่างเช่น พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงสูงส่ง ทรงตรัสว่า

 


یا أَیُّهَا الَّذینَ آمَنُوا کُلُوا مِنْ طَیِّباتِ ما رَزَقْناکُمْ وَ اشْکُرُوا لِلَّهِ إِنْ کُنْتُمْ إِیَّاهُ تَعْبُدُون

 

“บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย จงบริโภคสิ่งที่เราได้ให้เป็นปัจจัยยังชีพแก่พวกเจ้า จากสิ่งดีๆ ทั้งหลาย และจงขอบคุณอัลลอฮ์เถิด หากพวกเจ้าเป็นผู้เคารพภักดีเฉพาะพระองค์เท่านั้น” (1)

 

      ในโองการนี้ ภายหลังจากคำแนะนำสั่งเสียในเรื่องของการเลือกรับประทานจากอาหารและเนี๊ยะอ์มัตที่สะอาดบริสุทธิ์แล้ว ได้ออกค่ำสั่งให้ขอบคุณต่อพระผู้เป็นเจ้า

 

ในอีกโองการหนึ่งพระองค์ทรงตรัสว่า

 


وَ کُلُوا مِمَّا رَزَقَکُمُ اللَّهُ حَلالاً طَیِّباً وَ اتَّقُوا اللَّهَ الَّذی أَنْتُمْ بِهِ مُۆْمِنُون

 

“และพวกเจ้าจงบริโภคสิ่งอนุมัติที่ดี จากสิ่งที่อัลลอฮ์ได้ทรงให้เป็นปัจจัยชีพแก่พวกเจ้า และจงยำเกรงอัลลอฮ์ผู้ซึ่งพวกเจ้าเป็นผู้ศรัทธาต่อพระองค์เถิด” (2)

 

      ท่านทั้งหลายจงพิจารณาดูเถิดว่า การอธิบายของโองการนี้เป็นไปในลักษณะที่ว่า เมื่อเราได้อ่านทำให้สัมผัสได้ถึงความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งระหว่าง “การกิน” (จงบริโภค) และ “การมีความยำเกรงต่อพระผู้เป็นเจ้า” (และจงยำเกรงอัลลอฮ์)

 

      ในอีกโองการหนึ่งพระองค์ทรงตรัสว่า

 

یا أَیُّهَا النَّاسُ کُلُوا مِمَّا فِی الْأَرْضِ حَلالاً طَیِّباً وَ لا تَتَّبِعُوا خُطُواتِ الشَّیْطانِ إِنَّهُ لَکُمْ عَدُوٌّ مُبین

 

“โอ้มวลมนุษย์เอ๋ย! พวกเจ้าจงบริโภคสิ่งอนุมัติที่ดีจากสิ่งที่อยู่ในแผ่นดิน และจงอย่าตามย่างก้าวทั้งหลายของซาตาน (ชัยฏอน) แท้จริงมันคือศัตรูที่ชัดแจ้งของพวกเจ้า” (3)

 

ในโองการนี้ก็เช่นเดียวกัน ความสัมพันธ์ระหว่างการบริโภคอาหารที่ฮาล้าลและสะอาด กับการออกห่างและการไม่ปฏิบัติตามย่างก้าวและการกระซิบกระซาบของซาตาน (ชัยฏอน) นั้นเป็นสิ่งที่ชัดเจน

 

      ในอีกโองการหนึ่ง พระองค์ทรงตรัสว่า

 


یا ایُّها الرُّسُلُ کُلُوا مِنَ الطَّیِباتِ وَ اعْمَلُوا صالِحاً

 

“โอ้บรรดาศาสนทูตเอ๋ย! พวกเจ้าจงบริโภคจากสิ่งต่างๆ ที่สะอาดบริสุทธิ์ (ฮะล้าล) และจงกระทำความดีเถิด” (4)

 

      นักอรรถาธิบายคัมภีร์อัลกุรอานบางท่านก็เห็นถึงความสำคัญในประเด็นเหล่านี้เช่นกันที่ว่า การกล่าวถึงสองประเด็นนี้ คือการบริโภคอาหารที่สะอาดบริสุทธิ์และการกระทำความดีติดตามกันมานั้น เป็นหลักฐานบ่งชี้ถึงความสัมพันธ์ในลักษณะหนึ่งของสิ่งทั้งสองนี้ และชี้ให้เห็นว่าอาหารชนิดต่างๆ นั้น มีผลทางด้านพฤติกรรมและจริยธรรมที่แตกต่างกันไป อาหารที่ฮะล้าล (อนุมัติตามศาสนบัญญัติ) และสะอาดบริสุทธิ์ จะทำให้จิตใจและจิตวิญญาณสะอาดบริสุทธิ์ จะเป็นบ่อเกิดของการกระทำที่ดีงาม จะทำให้มนุษย์เกิดความพร้อมที่จะปฏิบัติความดีงาม ส่วนอาหารที่ต้องห้าม (ฮะรอม) และไม่สะอาดบริสุทธิ์ จะทำให้จิตใจและจิตวิญญาณของมนุษย์เกิดความมัวหมอง จะผลักไสเขาไปสู่ทิศทางของความชั่วร้ายทางด้านพฤติกรรมและศีลธรรม และจะเป็นสาเหตุของการกระทำที่ไม่ดีงาม (5)

 

       ในโองการอื่นๆ ของคัมภีร์อัลกุรอาน พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงสูงส่ง ได้ทรงกล่าวถึงชาวยิวกลุ่มหนึ่งซึ่งพวกเขามีประพฤติกรรมที่น่าเกลียดและไม่ถูกต้อง อย่างเช่น การสอดแนมหาข่าวเพื่อทำลายอิสลาม และการบิดเบือนข้อเท็จจริงต่างๆ ของคัมภีร์แห่งพระผู้เป็นเจ้า โดยที่พระองค์ได้ทรงตรัสเกี่ยวกับพวกเขาว่า

 

أُولَٰئِكَ الَّذِينَ لَمْ يُرِدِ اللَّهُ أَن يُطَهِّرَ قُلُوبَهُمْ لَهُمْ فِي الدُّنْيَا خِزْيٌ وَلَهُمْ فِي الْآخِرَةِ عَذَابٌ عَظِيمٌ

 

“ชนเหล่านี้แหละคือผู้ที่อัลลอฮ์ไม่ทรงประสงค์ที่จะทำให้หัวใจของพวกเขาสะอาด โดยที่พวกเขาจะได้รับความอัปยศในโลกนี้ และพวกเขาจะได้รับการลงโทษอันมหันต์ในปรโลก” (6)

 

       แล้วพระองค์ก็ทรงตรัสในโองการต่อไปโดยทันทีว่า

 


سَمَّاعُونَ لِلْکَذِبِ اکَّالُونَ لِلسُّحْتِ

 

“พวกเขาเป็นผู้ชอบฟังคำพูดมุสา (และ) ชอบบริโภคสิ่งต้องห้าม” (7)

 

      สำนวนของโองการทั้งสองนี้ชี้ให้เห็นว่า ความสกปรกและความมืดมนของหัวใจของพวกเขาเป็นผลมาจากพฤติกรรมต่างๆ อย่างเช่น การปฏิเสธโองการต่างๆ ของพระผู้เป็นเจ้า และการบริโภคทรัพย์สินที่ต้องห้าม (ฮะรอม) อย่างเป็นอาจิณ (8)

 

     และในโองการหนึ่ง พระองค์ทรงกล่าวเกี่ยวกับสุราและการพนันว่า

 

إِنَّما یُریدُ الشَّیْطانُ أَنْ یُوقِعَ بَیْنَکُمُ الْعَداوَةَ وَ الْبَغْضاءَ فِی الْخَمْرِ وَ الْمَیْسِرِ وَ یَصُدَّکُمْ عَنْ ذِکْرِ اللَّهِ وَ عَنِ الصَّلاةِ فَهَلْ أَنْتُمْ مُنْتَهُون

 

“อันที่จริงมารร้าย (ชัยฏอน) นั้น เพียงต้องการที่จะให้เกิดการเป็นศัตรูกันและเกลียดชังกันระหว่างพวกเจ้าในสุราและการพนันเท่านั้น และมัน (ต้องการ) จะหันเหพวกเจ้าออกจากการรำลึกถึงอัลลอฮ์และการนมาซ แล้วพวกเจ้าจะยุติไหม” (9)

 

     โองการนี้ชี้ให้เห็นว่า อาหารและเครื่องดื่มต่างๆ ที่ต้องห้าม (ฮะรอม) อย่างเช่น สุรา มีผลกระทบในการก่อรูปขึ้นของความต่ำทรามทางด้านพฤติกรรมและศีลธรรมได้อย่างแท้จริง อย่างเช่น ความก้าวร้าว ความเกลียดชังและการเป็นศัตรู

 

     บรรดาศาสดาแห่งพระผู้เป็นเจ้าได้ปฏิบัติตามคำแนะนำของพระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงสูงส่ง ในการดำเนินชีวิตและในการบริโภคอาหารของพวกท่าน ทั้งนี้เนื่องจากการบริโภคอาหารนั้นมีผลกระทบโดยตรงต่อพฤติกรรมและจิตวิญญาณของมนุษย์ ดังนั้นผู้ที่ทำหน้าที่ในการชี้นำมวลมหาประชาชนนั้น พวกเขาจะต้องมีความระมัดระวังอย่างแท้จริงในการบริโภคอาหารของตนเอง

 

เชิงอรรถ :

 

(1) อัลกุรอานบทอัลบากอเราะฮ์ โองการที่ 172
(2) อัลกุรอานบทอัลมาอิดะฮ์ โองการที่ 88
(3) อัลกุรอานบทอัลบากอเราะฮ์ โองการที่ 168
(4) อัลกุรอานบทอัลมุอ์มินูน โองการที่ 51
(5) ฮุซัย นี, ฮุเซน บินอะห์มัด, ตัฟซีรอิซนาอะชะรีย์, เล่มที่ 9, หน้าที่ 145 ; มะการิม ชีราซี และทีมงาน, ตัฟซีรนะมูเนะฮ์, เล่มที่ 14, หน้าที่ 255 ; มุห์ซิน กิรออะตี, เล่มที่ที่ 8, หน้าที่ 106
(6) อัลกุรอานบทอัลบากอเราะฮ์ โองการที่ 41
(7) อัลกุรอานบทอัลบากอเราะฮ์ โองการที่ 42
(8) ดู : มะการิมชีราซี และทีมงาน, จริยธรรมในคัมภีร์อัลกุรอาน, เล่มที่ 1, หน้าที่ 208
(9) อัลกุรอานบทอัลมาอิดะฮ์ โองการที่ 91

 

บทความ : เชคมุฮัมมัดนาอีม ประดับญาติ

 

กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วย

ความคิดเห็นของผู้ใช้งานทั้งหลาย

ไม่่มีความคิดเห็น
*
*

เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม