เอโดอาร์โด ทายาทมหาเศรษฐีชาวอิตาลีที่เข้ารับชีอะห์ ตอนที่ 1

เอโดอาร์โด ทายาทมหาเศรษฐีชาวอิตาลีที่เข้ารับชีอะห์ ตอนที่ 1

 

เอโดอาร์โด “ทายาทมหาเศรษฐีชาวอิตาลี” ชะฮีดผู้มอบชีวิตให้ศาสนา เรื่องเล่าผ่านวิถีชีวิตของ “เอโดอาร์โด (ชะฮีด มะห์ดี) ” ทายาทมหาเศรษฐีชาวอิตาลีที่เข้ารับชีอะห์


9 มิถุนายน 1954 เสียงร้องของทารกน้อยได้ดังออกมาจากเปล เนื่องจากหิวนม จึงได้ถูกอุ้มออกมาจากเปล วางลงบนตักของผู้เป็นมารดา


มารดาได้มองไปยังใบหน้าของลูกน้อย แล้วพึมพำออกมาว่า "โอ้ลูกรัก รีบโตไวๆนะลูก เพราะเมื่อหนูเติบโตเข้าสู่วัย 20 ปี หนูก็จะได้เป็นผู้บริหารบริษัทผลิตรถยนต์ Fiat และกิจการบริษัทอื่นๆทั้งหมดของบิดา


สักครู่หนึ่ง ผู้เป็นบิดาก็เดินมาหาลูกน้อย แล้วก็ได้เอาลูกน้อยจากภรรยาของเขา มาโอบกอดแล้วพูดว่า “การรอให้มีอายุยี่สิบปี ถือว่ามันช้าไป เจ้าต้องเข้ามาบริหารบริษัทของพ่อให้เร็วกว่านี้นะลูกรัก...


คำพูดทั้งหมดล้วนแล้วเกี่ยวข้องกับเงินๆทองๆ ทรัพย์สินศฤงคารทั้งสิ้น”


ในขณะที่ทารกน้อย กำลังร้องไห้ หิวนม....


นี่เป็นลูกคนแรกของครอบครัวมหาเศรษฐีผู้ยิ่งใหญ่ระดับโลก ผู้เป็นบิดาได้ตั้งชื่อเขาว่า “เอโดอาร์โด”


บิดามีชื่อ ว่า “จิอันนี่ อันเญลลี” (Senator Giovanni ‘Gianni’ Agnelli) วุฒิสมาชิกชื่อดัง และเป็นหนึ่งในผู้ที่ร่ำรวยที่สุดและมีอิทธิพลมากที่สุดของอิตาลี
มารดาชื่อ ว่า มาร์ลา อันเญลลี มาจากครอบครัวขุนนางแห่งราชวงศ์อิตาลี


ครอบครัวของ อันเญลลี อาศัยอยู่ในเมืองโตเรน เป็นคฤหาสน์หรูแถบเชิงเขาทางเหนือของเมือง วิลล่า และคฤหาสน์หรูชื่อดังแห่งนี้เป็นที่รู้จักในนาม “วิลล่าแห่งพระอาทิตย์”


เมืองโตเรน เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของอิตาลี มีระยะห่างจากกรุงโรม ราว 7 ชั่วโมง


สมัยหนึ่งปู่ของเขา ได้เปิดบริษัทผลิตรถยนต์ Fiat สองแห่ง ในใจกลางเมืองนี้ ซึ่งเป็นบริษัทผลิตรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดของอิตาลี และติดอันดับหกของโลก


มาบัดนี้บริษัทดังกล่าวได้ตกอยู่ในการดูแลและบริหารของบิดาเอโดอาร์โด และหลังจากนี้ต่อไป ก็จะตกเป็นกรรมสิทธิ์ของเอโดอาร์โด เพียงผู้เดียวในฐานะ ทายาทคนเดียวของครอบครัวนี้


บริษัทผลิตรถยนต์ Fiat มีบริษัทในเครืออีกจำนวนมาก เช่นโรงงานผลิตรถยนต์ , Ferrari, Lamborghini, Lancia, Alfa Romeo และ Iveco รวมถึงโรงงานผลิตชิ้นส่วนอุตสาหกรรมหลายแห่ง ธนาคารเอกชนหลายแห่ง บริษัทออกแบบแฟชั่น นิตยสารแฟชั่น หนังสือพิมพ์และอื่นๆ อีกหลายแห่ง รวมทั้งสโมสรฟุตบอลยูเวนตุส นอกจากนี้ตระกูลอันเญลลี ( Agnelli )ยังเป็นผู้ถือหุ้นคนสำคัญของบริษัทรับเหมาก่อสร้าง สร้างถนน บริษัทผลิตเวชภัณฑ์และบริษัทผลิตเฮลิคอปเตอร์อีกหลายแห่ง และบรรดาผู้เชี่ยวชาญทางด้านเศรษฐกิจได้ประเมินรายได้ต่อปีของตระกูลนี้ว่าสูงถึง 6 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือประมาณสามเท่าจากรายได้การขายน้ำมันของอิหร่าน
ครอบครัว อันเญลลี มีอำนาจและอิทธิพลสูงมากในอิตาลี ไม่เป็นสองรองใคร เป็นการเพียงพอที่จะพิสูจน์ถึงอำนาจและอิทธิพลเหล่านี้ โดยที่สามารถออกคำสั่งให้กับประธานาธิบดีอิตาลี ว่า ให้ทำสิ่งนั้น สิ่งนี้ และอย่าทำสิ่งนั้น สิ่งนี้ ซึ่งประธานาธิบดีอิตาลีต้องยอมทำตามแต่โดยดี โดยทั่วไปแล้ว มีการกล่าวกันว่า ครอบครัวอันเญลลี เป็นผู้ปกครองอิตาลี หาใช่ประธานาธิบดี และคณะมนตรีไม่ และสื่ออิตาลี ตั้งฉายาครอบครัวอันเญลลี ว่า “ครอบครัวแห่งราชวงศ์อิตาลี”


ครั้งหนึ่งประธานาธิบดีอิตาลี ได้ขออนุญาตเข้าพบ กับ จิอันนี่ อันเญลลี (บิดาของ เอโดอาร์โด ซึ่ง )ซึ่งเขาตอบว่า “ฉันไม่ว่าง เพราะต้องเดินทาง”


ประธานาธิบดีอิตาลี พยายามรบเร้า และพูดว่า หากท่านอนุญาต ฉันจะเข้าไปหา และขณะที่ท่านเดินทางนั้น ให้ฉันติดรถไปด้วยเพื่อจะได้พูดคุยเรื่องงาน
จิอันนี่ ตอบตกลง และประธานาธิบดีอิตาลีก็ได้นั่งรถของเขา ส่วนรถประจำตำแหน่งของประธานาธิบดีอิตาลีนั้น คนขับรถก็ได้ขับตามหลังมา ในระหว่างการพูดคุย ประธานาธิบดีอิตาลีได้พูดสิ่งหนึ่งทำให้เขารู้สึกเคือง ไม่พอใจ จึงได้สั่งให้คนขับรถหยุดรถในทันที แล้วพูดกับประธานาธิบดีว่า “จงลงไปจากรถเถิด” และไล่ประธานาธิบดีลงกลางทาง จากนั้นประธานาธิบดีก็ได้ขึ้นรถประจำตำแหน่งกลับบ้าน


โปรดติดตามตอนที่ 2

 

ขอขอบคุณ เฟสบุ๊ค SaiyidSulaiman Husaini