เอโดอาร์โด ทายาทมหาเศรษฐีชาวอิตาลีที่เข้ารับชีอะห์ ตอนที่ 20

 

เอโดอาร์โด “ทายาทมหาเศรษฐีชาวอิตาลี”  ชะฮีดผู้มอบชีวิตให้ศาสนา (เรื่องเล่าผ่านวิถีชีวิตของ “เอโดอาร์โด (ชะฮีด มะห์ดี) ” ทายาทมหาเศรษฐีชาวอิตาลีที่เข้ารับชีอะห์)

 

บิดามารดาของเอโดอาร์โด ได้ทำการกดดันเขามากขึ้นกว่าเดิม  หรือตามที่พวกเขาได้เคยกล่าวไว้คือ เพื่อทำให้เอโดอาร์โดตกต่ำ

บัญชีธนาคารของเอโดอาร์โดทั้งหมดถูกอายัต พร้อมทั้งยึดเงินทองทั้งหมดที่มีอยู่  เป็นการกระทำเพื่อกดดันขั้นสูงสุดและบีบคั้นให้เอโดอาร์โด ไม่ให้มีการเคลื่อนไหวต่อไป  จนถึงขั้นที่ไม่มีเงินแม้แต่จะขึ้นรถแท็กซี่  

ผู้ที่ได้ยินเรื่องราวเหล่านี้อาจจะไม่เชื่อ เป็นไปได้หรือที่ทายาทมหาเศรษฐีเจ้าของบริษัทรถยนต์ยักษ์ใหญ่ระดับโลก ไม่มีเงินขึ้นแท็กซี่..... แต่ก็เป็นไปแล้ว

บิดามารดาของเอโดอาร์โด ไม่หยุดเพียงแค่นั้น  พวกเขาได้ทำการกักตัวเอโดอาร์โดในวิลล่าของเขา  และให้ยามคอยเฝ้าดูตลอดเวลา เพื่อไม่ให้เขาออกมาจากบ้านพัก และไม่ให้มีการติดต่อไปมากับมุสลิม  อีกทั้งยังพูดกำชับกับยามรักษาความปลอดภัยด้วยว่า  “หากเอโดอาร์โด ร้องขอที่จะออกไปข้างนอก อย่าอนุญาตเป็นอันขาด  และสามารถทุบตีเขาได้เลย หากฝ่าฝืน”

  บิดามารดาของเอโดอาร์โด จะกระทำทุกวิธีทางในการควบคุมตัวเขา  กดขี่รังแก จำกัดบริเวณ กดดันและบีบบังคับต่างๆนานา  ดูถูกเหยียดหยาม และกระทำทุกอย่างที่เขานึกจะทำต่อเอโดอาร์โด

แต่เอโดอาร์โด กลับนิ่งเฉย ไม่ตอบโต้ใดๆกับบิดามารดาของเขา มิหนำซ้ำยังเคารพและให้เกียรติเสมอ  เพราะเขาได้ยินหลักคำสอนของอิสลาม ว่าด้วยการเคารพบิดาและมารดา

ในยามค่ำคืน เขาจะอ่านคัมภีร์อัลกุรอานใต้แสงเทียน  เนื่องด้วยไม่สามารถที่จะเปิดไฟได้ เพราะหากเปิดไฟสว่างแล้ว ยามจะรู้ทันที และจะรายงานต่อบิดามารดาของเขาให้ได้รับรู้

การกดดันมีเพิ่มมากขึ้นทุกวัน แต่เอโดอาร์โด กลับรู้สึกว่ายิ่งใกล้ชิดอัลลอฮฺมากขึ้น  รู้สึกว่ามีความผูกพันกับอัลลอฮฺมากขึ้น ราวกับว่าได้สัมผัสกับพระองค์

บิดาของเอโดอาร์โด ซึ่งเคยบอกกับเขามาก่อนหน้านี้แล้วว่า จะตัดออกจากกองมรดก ก็กำลังครุ่นคิดอยู่ว่าหากทำเช่นนั้นจริง พวกเขาจะตอบกับสาธารณชนอย่างไร  ไม่รู้ว่าจะหาข้ออ้างใดให้กับประชาชน  เขาไม่ต้องการให้มรดกและทรัพย์สมบัติตกเป็นของเอโดอาร์โด  คิดหนัก  จนได้ทำการปรึกษาหารือกับหลายๆคน จนสุดท้ายก็ได้รับคำตอบ....

เอโดอาร์โด ถูกพาตัวไปยังโรงพยาบาลจิตเวชในประเทศสวิส  โดยอ้างว่าเขามีอาการทางจิต และจิตหลอน.... ดังนั้นแผนดังกล่าวถือว่ามีความแยบยลและสามารถตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี เพราะไม่มีบิดาคนไหนที่จะยอมมอบทรัพย์สินและมรดกให้กับลูกที่เป็นคนบ้าและเป็นโรคจิต

ส่วนเจ้าหน้าที่พยาบาลที่คอยดูแลเอโดอาร์โด ล้วนเป็นชาวยิวไซออนิสต์ทั้งหมด  นับจาก ผอ. แพทย์ จนถึง พยาบาลและเจ้าหน้าที่  พวกเขาต้องการให้เอโดอาร์โดเป็นคนบ้าจริงๆ ด้วยการจ่ายยากล่อมประสาททีละนิดทีละน้อยเพื่อทำให้เขากลายเป็นคนจิตหลอนและประสาทในที่สุด

หลังจากที่เอโดอาร์โด อยู่ในโรงพยาบาลหลายวัน ได้รับรู้ว่าชาวยิวไซออนิสต์เป็นผู้อยู่เบื้องหลังในเรื่องนี้ จึงคิดหาทางหนีออกจากโรงพยาบาล

จนในที่สุด เอโดอาร์โดก็สามารถหลบหนีออกมาจากโรงพยาบาลได้สำเร็จ ด้วยวิธีการที่แยบยลและซับซ้อน  เมื่อออกจากโรงพยาบาลแล้วก็รีบไปหาสหายของเขาที่เป็นชาวอิหร่าน พร้อมเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และหลังจากนั้นก็ได้เดินทางไปยังอิหร่านอีกครั้งด้วยการช่วยเหลือของสหายของเขา.....

โปรดติดตามตอนที่ 21

ขอขอบคุณ เฟสบุ๊ค SaiyidSulaiman Husaini