เอโดอาร์โด ทายาทมหาเศรษฐีชาวอิตาลีที่เข้ารับชีอะห์ ตอนที่ 22

เอโดอาร์โด ทายาทมหาเศรษฐีชาวอิตาลีที่เข้ารับชีอะห์ ตอนที่ 22

 

เอโดอาร์โด “ทายาทมหาเศรษฐีชาวอิตาลี”  ชะฮีดผู้มอบชีวิตให้ศาสนา (เรื่องเล่าผ่านวิถีชีวิตของ “เอโดอาร์โด (ชะฮีด มะห์ดี) ” ทายาทมหาเศรษฐีชาวอิตาลีที่เข้ารับชีอะห์)

 

เอโดอาร์โด เดินทางกลับจากอิหร่านสู่อิตาลี ปฏิกิริยาจากบิดามารดาที่มีต่อเขายิ่งย่ำแย่กว่าเดิม พวกเขามองเอโดอาร์โดเหมือนกับคนแปลกหน้าคนหนึ่ง


คนแปลกหน้าคนนี้ ซึ่งเมื่อก้าวเท้าเข้าไปในบ้านแล้ว ความเลวร้ายต่างๆก็เกิดขึ้นทันที  ถูกบีบบังคับ จำกัดบริเวณ  ถูกจองจำ  ถูกกดขี่ ถูกใส่ร้ายป้ายสี ดูหมิ่นสารพัด และทำลายภาพลักษณ์ของเขาจนย่อยยับ หนังสือพิมพ์ของบิดาของเขาทั้งสองฉบับต่างก็ประโคมโหม เป็นข่าวหน้าหนึ่งเกือบทุกวันว่า “เอโดอาร์โด เป็นโรคจิตประสาท  เป็นคนติดยา เป็นคนป่วย เป็นโรคซึมเศร้า และชอบอยู่คนเดียวตามลำพัง”


แต่เอโดอาร์โด นิ่งเงียบ ไม่ตอบโต้ใดๆ ได้แต่อดทน และอดทน....


นับจากที่เดินทางกลับมาจากอิหร่านครั้งสุดท้าย  เขามีความสนใจในเรื่องตัฟซีรกุรอาน(การอรรถาธิบายอัลกุรอาน) และกุรอานวิทยาอย่างมาก  เขารู้สึกว่ามีความกระหายในเรื่องนี้มากขึ้น


จึงได้ไปเรียนภาษาอาหรับ  เขากล่าวว่า  “สิ่งที่จะช่วยให้ฉันเข้าใจอัลกุรอาน คือ อัลกุรอานฉบับแปล เพราะตัวตนของอัลกุรอานนั้นไม่อาจที่จะเข้าถึงแก่นแท้ได้”  ซึ่งในช่วงปลายๆชีวิตของเขา พอที่จะสนทนาภาษาอาหรับได้ในระดับหนึ่ง


ในช่วงต้นทศวรรษที่เจ็ดสิบ กอดีรีย์ ได้เดินทางจากอิหร่านไปอิตาลี   ได้ไปหาพี่น้องมุสลิมชีอะห์ ซึ่งบางคนเป็นชาวอิหร่าน  หลังจากที่กอดีรีย์ได้สนทนากับพวกเขาเสร็จเรียบร้อย  พวกเขาก็ได้พูดกับ กอดีรีย์ ว่า  “เราไปพบกับชายมุสลิมอีกคนหนึ่งดีไหม ”  กอดีรีย์ ตอบว่า ได้ๆ...  จึงได้มีการนัดพบเจอกัน ณ ภัตรคารแห่งหนึ่ง เมื่อได้ไปถึงที่นั้น  ก็ได้มีชายมุสลิมอายุราว สี่สิบปีเดินเข้ามา  และพวกเขาก็ได้แนะนำให้เขารู้จักกับเอโดอาร์โด ว่า “  นี่คือ เอโดอาร์โด ลูกชายของ  อันเญลลี” มหาเศรษฐีที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัทผลิตรถยนต์ Fiat, Ferrari, Lamborghini, Lancia, Alfa Romeo และ Iveco รวมถึงโรงงานอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนหลายแห่ง ธนาคารเอกชนหลายแห่ง บริษัทออกแบบแฟชั่น นิตยสารแฟชั่น หนังสือพิมพ์และอื่นๆ อีกหลายแห่ง รวมทั้งสโมสรฟุตบอลยูเวนตุส”   เขาได้หันมองไปยังเอโดอาร์โดในสภาพที่แต่งตัวเรียบง่าย สมถะ  แล้วพูดด้วยความฉงนใจ  นี้คือลูกชายของ  อันเญลลี” มหาเศรษฐีที่ยิ่งใหญ่?  เขาเรียบง่ายและติดดิน  มิหนำซ้ำยังเรียบง่ายกว่าเราด้วยซ้ำไป
ในภัตรคาร พวกเราได้สนทนากัน  เอโดอาร์โด ได้พูดว่า  ชีอะห์เป็นนิกายหนึ่งเดียว ไม่มีสอง  สิ่งที่มีอยู่ในหลักคำสอนของชีอะห์ ไม่สามารถพบได้ในนิกายและศาสนาใดๆในโลก  ชีอะห์มีวิลายัตของบรรดาอะห์ลุลบัยต (อ)  (หมายถึงศรัทธาในเรื่องวิลายัต)  คือ วิลายัตของอาลี บิน อบี ฏอลิบ   วิลายัตของอิมามฮุเซ็น บิน อาลี(อ)....และวิลายัตของอิมามมะฮ์ดี (อ) ผู้มาโปรด


เอโดอาร์โด ยังกล่าวเสริมอีกว่า โลกต่างกระหายวัฒนธรรมของอิมามอาลี บิน อบี ฏอลิบ (อ) และลูกหลานผู้บริสุทธิ์ของท่าน  ปัญหาเกิดจากตัวของเราเอง  หากเราสามารถแนะนำและเผยแผ่ชีอะห์ได้อย่างดีต่อประชาคมโลก  ทุกคนล้วนจะเข้ารับชีอะห์”


เอโดอาร์โด ได้ถามกอดีรีย์ ว่า   พี่น้องชีอะห์ในอัฟกานิสถานเป็นอย่างไรบ้าง? พวกเขาอยู่ในสภาพเช่นใด?  ฉันสามารถให้การช่วยเหลือพวกเขาได้อย่างไร?  พี่น้องชีอะห์ในอาเซอร์ไบจาน เป็นอย่างไร?  พวกเขาอยู่ในสภาพและสถานการณ์เช่นไร? ถามสารทุกสุกดิบของพี่น้องชีอะห์ในทุกประเทศด้วยความเป็นห่วงเป็นใยในพวกเขา...


โปรดติดตามตอนที่ 23

ขอขอบคุณ เฟสบุ๊ค SaiyidSulaiman Husaini