เอโดอาร์โด ทายาทมหาเศรษฐีชาวอิตาลีที่เข้ารับชีอะห์ ตอนที่ 23

 

เอโดอาร์โด ทายาทมหาเศรษฐีชาวอิตาลีที่เข้ารับชีอะห์ ตอนที่ 23

 

เอโดอาร์โด “ทายาทมหาเศรษฐีชาวอิตาลี”  ชะฮีดผู้มอบชีวิตให้ศาสนา (เรื่องเล่าผ่านวิถีชีวิตของ “เอโดอาร์โด (ชะฮีด มะห์ดี) ” ทายาทมหาเศรษฐีชาวอิตาลีที่เข้ารับชีอะห์)

 

กอดีรีย์ ได้เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับสงครามแปดปีระหว่างอิรัก-อิหร่าน ให้กับเอโดอาร์โดได้รับฟัง  ซึ่งในสงครามนั้น มีชะฮีดที่มาจากกลุ่มชนที่หลากหลายและทุกรูปแบบ  ชะฮีดที่เคยเป็นนักเลงมาก่อน ชะฮีดที่เคยเป็นเพลย์บอยมาก่อน แต่ทว่าพวกเขาได้ทำการเตาบัตตัว และสุดท้ายก็ได้เป็นชะฮีด


ได้เล่าเรื่องราวของชะฮีดที่มาจากครอบครัวมหาเศรษฐี  ที่ไม่ได้เคร่งครัดในศาสนา แต่ลูกชายของเขาได้สละเรื่องราวทางโลก(ดุนยา) ออกห่างจากความร่ำรวยของบิดา มุ่งหาชีวิตที่สวยงามและนิรันดร์ ด้วยการเป็นชะฮีดในแนวทางของพระองค์  


เมื่อได้เล่าประวัติของชะฮีดผู้นี้  เอโดอาร์โดได้เพ่งมองมายังฉัน จากนั้นได้ทำการคิดใคร่ครวญอย่างหนัก เอโดอาร์โด ชื่นชอบและหลงใหลในตัวของชะฮีด เมห์ดี บากิรี   ฉันได้เล่าคำพูดหนึ่งของชะฮีด เมห์ดี บากีรี ที่เคยพูดว่า “ ใจฉันปรารถนาที่จะมีร่างกายที่ปลิวว่อน กระจัดกระจาย ไร้ร่องรอยใดๆ เพื่อมิให้ศพของฉันถูกกินเนื้อที่บนแผ่นดินของพระองค์แม้แต่หนึ่งตารางเมตร”  ซึ่งเป็นคำพูด ที่โดนใจเอโดอาร์โดอย่างมาก  เขาจึงพูดกับฉันว่า  “ชะฮีด เมห์ดี บากิรี ต้องมีความลุ่มลึกในเรื่องอิรฟานอย่างมากถึงได้กล่าวประโยคนี้”


ฉันจำไม่ได้ว่า เรากำลังพูดคุยกันในประเด็นไหน  แต่จู่ๆระหว่างนั้น เอโดอาร์โด ได้หันมายังฉัน และพูดว่า  ฉันมีความแปลกใจเสียเหลือเกิน ในอิหร่านนั้น เมื่อท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้ชี้แนะในบางประเด็นที่สำคัญ  แต่ดูเหมือนว่า บุคคลจำนวนหนึ่งไม่ค่อยเชื่อฟังท่านสักเท่าไหร่ ไม่ให้ความสำคัญต่อคำพูดของท่าน แต่กลับกระทำตามความคิดของตนเอง”


ในวันนั้น ฉันไม่รู้ว่า เขาหมายถึงผู้ใด แต่ทว่าหลังจากนั้นไม่นาน ฉันพอที่จะคาดคะเนได้ว่าเขาคนนั้นคือใคร


ในระหว่างการสนทนาพูดคุย เอโดอาร์โดได้เผยอยิ้ม และพูดว่า กอดีรีย์  คุณทราบไหมว่า สองชั่วโมงที่ฉันมาหาคุณที่นี่นั้น ฉันได้แอบหนีออกมาจากบ้านพักโดยที่ยามรักษาความปลอดภัยที่บิดาของฉันกำชับให้คอยสอดส่องฉันนั้น ไม่รับรู้เลย


ฉันจึงเข้าใจได้ว่า ครอบครัวของเอโดอาร์โดยังการทำบีบบังคับและจำกัดบริเวณเขาอยู่อีก   ฉันได้พูดกับเอโดอาร์โด ว่า  ฉันสามารถที่จะได้พบเจอคุณได้อีกหรือไม่?  เอโดอาร์โดเผยอยิ้ม ใบหน้าที่ถอดสีอย่างเห็นได้ชัด แล้วพูดว่า  “บางที กว่าจะถึงวันนั้น เราอาจจะไม่ได้พบกันอีก  บางทีพวกเขาอาจจะกำจัดฉันไปแล้วก็เป็นได้”
ในยามที่เราจะกล่าวคำอำลา  ฉันได้ยื่นมือแก่เอโดอาร์โด  ซึ่งใจฉันรู้สึกหวิวๆ เหมือนกับว่า เขาต้องจากฉันไปตลอดชีวิต และราวกับว่าเป็นการจากลาครั้งสุดท้าย   ฉันได้พูดกับเพื่อนๆที่ด้านหลังว่า นี่ดูสิ เห็นนูรรัศมีกำลังลอยขึ้นสู่ฟากฟ้า เมื่อเพื่อนๆได้ยินคำพูดของฉัน ก็ได้หันมามองแล้วถามว่า ขอโทษด้วยครับ  เราไม่เข้าใจความหมาย คุณหมายความว่าอย่างไร?  ฉันตอบพวกเขาว่า สมัยที่อยู่ในสนามสงคราม ทุกครั้งก่อนที่บรรดานักรบจะเป็นชะฮีด พวกเราจะพูดว่า เห็นนูรรัศมีกำลังลอยขึ้นสู่ฟากฟ้า   


เอโดอาร์โด หันมามองฉันและพูดว่า  ถ้าเป็นเช่นนั้น บางทีในอนาคตอันใกล้นี้ นูรของฉันจะลอยขึ้นสู่ฟากฟ้าเช่นกัน   และเขาได้นิ่งเงียบ  ถัดจากนั้นเขาพูดว่า  ไม่ๆ... ฉันคงไม่มีนูรรัศมีเช่นนั้นหรอกที่จะขึ้นๆลงๆและลอยสู่ฟากฟ้า....


โปรดติดตามตอนที่ 24

ขอขอบคุณ เฟสบุ๊ค SaiyidSulaiman Husaini