เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม

ทิพย์โอสถ (ตอนที่2) ต้อนรับ "วันตรุษอีดิ้ลฟิตริ"

0 ทัศนะต่างๆ 00.0 / 5


ทิพย์โอสถ (ตอนที่2) ต้อนรับ "วันตรุษอีดิ้ลฟิตริ" 


กุรอานเป็นโอสถทิพย์ให้กับมวลมนุษย์ชาติ

ทำไมเดือนรอมฎอนจึงเรียกร้องเชิญชวนมนุษย์ให้อัญเชิญอัลกุรอาน  แล้วนำผลบุญมากมายมาเป็นของกำนัล  เพราะอัลกุรอานเป็นโอสถทิพย์เป็นยารักษามนุษยชาติ  โรคร้ายทุกโรคจะถูกรักษาให้หายขาดทั้งทางกายและจิตวิญญาณ  นั่นคือจะต้องศึกษาอัลกุรอานในลักษณะเยี่ยงคนป่วยไปหาหมอไม่ใช่เยี่ยงบุคคลที่จองหองคิดว่าหามีโรคอันใดไม่  บุคคลประเภทนี้จะไม่ได้รับรางวัลใดๆ จากอัลกุรอานเลย

พวกเราจะต้องหาตัวยาจากอัลกุรอานให้พบ  ซึ่งอัลกุรอานยืนยันว่า ชื่อหนึ่งของอัลกุรอาน คือ ทิพย์โอสถขนานเอกสำหรับรักษาโรคร้ายทางจิตวิญญาณ  ทุกๆโรคสามารถขจัดได้ด้วยตัวยาจากอัลกุรอาน  ตัวอย่างเช่น  ความโง่ทึบทางการเมืองจะถูกรักษาด้วยตัวบทบัญญัติทางการเมืองที่มีในอัลกุรอาน  ความโง่เขลาทางเศรษฐกิจมีตัวยาที่เป็นบทบัญญัติทางเศรษฐกิจในอัลกุรอาน  การอยู่อย่างไร้จริยธรรมและศีลธรรมก็จะถูกรักษาด้วยตัวยาแห่งจริยธรรมและศีลธรรมด้วยตัวบทในอัลกุรอานด้วยเช่นเดียวกัน

ความโง่เขลาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมนุษย์คือ “ความโง่เขลาของอุดมการณ์ในการดำเนินชีวิต”  ตัวยาที่จะแก้โรคนี้หาย ก็คือบทบัญญัติที่ว่าด้วยอุดมการณ์แห่งการดำเนินชีวิตจากอัลกุรอานนั่นเอง  เพียงแต่มนุษย์จะค้นพบตัวยานี้หรือไม่......  พบแล้วนำไปบริโภคเพื่อรักษาโรคร้ายให้หายขาดหรือไม่.......  อยู่ที่ผู้ป่วยใช้ยาตามแพทย์สั่งหรือไม่.....  นั่นคือปฏิบัติตามโองการแห่งอัลกุรอานหรือไม่.......   ความน่าสงสารและความอัปยศในทุกวันนี้ของสังคมมุสลิมคืออัลกุรอานก็อ่านไม่ได้!!!!!     อ่านได้ก็ไม่เข้าใจ  เข้าใจแล้วก็ไม่ปฏิบัติ  อนิจจามนุษย์ได้ทอดทิ้งอัลกุรอานทิพย์โอสถจากอัลลอฮฺ (ซ.บ.) ไปเสียแล้ว!!!!!  

-เดือนรอมฎอนจึงเปรียบเสมือนยามพฤกษชาติ
 
 เดือนรอมฎอนจึงเปรียบเสมือนยามพฤกษชาติได้เริ่มผลิใบเพื่อออกดอกและผลยังประโยชน์แก่มนุษยชาติต่อไป  อุปมาดั่งคำสอนของอัลลอฮฺ (ซ.บ.)  ที่จะให้พี่น้องมุสลิมต้องศึกษาเรียนรู้อัลกุรอาน  เพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตตามที่พระองค์ทรงปรารถนา    คุณภาพของพี่น้องมุสลิมขึ้นอยู่กับการศึกษาคัมภีร์อัลกุรอานอย่างถ่องแท้แล้วนำไปปฏิบัติ  ท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ็อลฯ) กล่าวว่า  “ประชาชาติที่ประเสริฐของฉัน คือ ผู้ที่ยึดมั่นอัลกุรอานเป็นทางนำ คือ วิถีชีวิตของเขาต้องเป็นคนที่ยึดมั่นอัลกุรอานเป็นทางนำทุกย่างก้าว  ทุกคำพูด ทุกอิริยาบถในการดำเนินชีวิตจะต้องถอดแบบจากคัมภีร์อัลกุรอานมาทั้งสิ้น”
                
เรื่องราวของบรรพชนในอดีต  ในสมัยของท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ็อลฯ) ท่านอิมามอาลี (อ.) ท่านหญิงฟาฏิมะฮฺ (อ.)ในชีวิตประจำวันของท่านนั้น  ท่านจะใช้อัลกุรอานในการสนทนาโต้ตอบ  ถามเป็นอัลกุรอานตอบเป็น        อัลกุรอาน  ทุกบทการสนทนามาจากอัลกุรอาน  นั่นคือเหตุผลหนึ่งที่ประชาชาติในอดีตใช้เวลาเพียงยี่สิบปีก็พิชิตโลกไปได้ครึ่งหนึ่ง และประชาชาติโลกต่างยึดมั่นเอาคัมภีร์อัลกุรอานเป็นทางนำ  ช่างตรงกันข้ามกับมุสลิมในยุคนี้ เขา     เหินห่างอัลกุรอานไปเสียเอง
 
เดือนรอมฎอนอันจำเริญได้จากเราไปแล้วอีกปีหนึ่ง  พวกเราจงอย่าปิดอัลกุรอานแล้วเก็บไว้บนหิ้ง  เพราะรอมฎอนได้เป็นเดือนแห่งการฝึกฝนนิสัยทุกอย่างของเรา  จงเอาความรักที่จะอัญเชิญอัลกุรอานมาอยู่กับเราในทุกๆ เดือน.......   จงเอาความระมัดระวังและการปฏิบัติในเดือนรอมฎอนให้มาปฏิบัติเหมือนทุกๆ เดือน.......  จงเอาความระมัดระวังและวัตรปฏิบัติในเดือนรอมฎอนมาเป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิตเดือนต่อๆไปของเรา.......   ไม่อนุญาตให้ความชั่วมาใกล้กรายจิตวิญญาณของเรา  เดือนรอมฎอนอันจำเริญนั้นได้สอนให้เรา ระมัดระวังสำนึกในความดีงามทั้งหลายทั้งกายและจิตวิญญาณ  อย่าให้ความอวดดี  ความอิจฉาริษยา  ความชั่ว  และบาปทั้งหลายมาพัวพัน  จงห่างไกลจากอบายมุข  และชิดใกล้อยู่กับกุศลกรรมตามสาส์นแห่งอิสลามของพระองค์อัลลอฮฺ (ซ.บ.)

 

 
บทความโดย ฮุจญตุลอิสลามวัลมุสลีมีน ซัยยิด สุไลมาน ฮูซัยนี

 

กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วย

ความคิดเห็นของผู้ใช้งานทั้งหลาย

ไม่่มีความคิดเห็น
*
*

เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม