ทิพย์โอสถ (ตอนที่2) ต้อนรับ "วันตรุษอีดิ้ลฟิตริ"
- จัดพิมพ์ใน
-
- ผู้เขียน:
- ฮุจญตุลอิสลามวัลมุสลีมีน ซัยยิด สุไลมาน ฮูซัยนี
ทิพย์โอสถ (ตอนที่2) ต้อนรับ "วันตรุษอีดิ้ลฟิตริ"
กุรอานเป็นโอสถทิพย์ให้กับมวลมนุษย์ชาติ
ทำไมเดือนรอมฎอนจึงเรียกร้องเชิญชวนมนุษย์ให้อัญเชิญอัลกุรอาน แล้วนำผลบุญมากมายมาเป็นของกำนัล เพราะอัลกุรอานเป็นโอสถทิพย์เป็นยารักษามนุษยชาติ โรคร้ายทุกโรคจะถูกรักษาให้หายขาดทั้งทางกายและจิตวิญญาณ นั่นคือจะต้องศึกษาอัลกุรอานในลักษณะเยี่ยงคนป่วยไปหาหมอไม่ใช่เยี่ยงบุคคลที่จองหองคิดว่าหามีโรคอันใดไม่ บุคคลประเภทนี้จะไม่ได้รับรางวัลใดๆ จากอัลกุรอานเลย
พวกเราจะต้องหาตัวยาจากอัลกุรอานให้พบ ซึ่งอัลกุรอานยืนยันว่า ชื่อหนึ่งของอัลกุรอาน คือ ทิพย์โอสถขนานเอกสำหรับรักษาโรคร้ายทางจิตวิญญาณ ทุกๆโรคสามารถขจัดได้ด้วยตัวยาจากอัลกุรอาน ตัวอย่างเช่น ความโง่ทึบทางการเมืองจะถูกรักษาด้วยตัวบทบัญญัติทางการเมืองที่มีในอัลกุรอาน ความโง่เขลาทางเศรษฐกิจมีตัวยาที่เป็นบทบัญญัติทางเศรษฐกิจในอัลกุรอาน การอยู่อย่างไร้จริยธรรมและศีลธรรมก็จะถูกรักษาด้วยตัวยาแห่งจริยธรรมและศีลธรรมด้วยตัวบทในอัลกุรอานด้วยเช่นเดียวกัน
ความโง่เขลาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมนุษย์คือ “ความโง่เขลาของอุดมการณ์ในการดำเนินชีวิต” ตัวยาที่จะแก้โรคนี้หาย ก็คือบทบัญญัติที่ว่าด้วยอุดมการณ์แห่งการดำเนินชีวิตจากอัลกุรอานนั่นเอง เพียงแต่มนุษย์จะค้นพบตัวยานี้หรือไม่...... พบแล้วนำไปบริโภคเพื่อรักษาโรคร้ายให้หายขาดหรือไม่....... อยู่ที่ผู้ป่วยใช้ยาตามแพทย์สั่งหรือไม่..... นั่นคือปฏิบัติตามโองการแห่งอัลกุรอานหรือไม่....... ความน่าสงสารและความอัปยศในทุกวันนี้ของสังคมมุสลิมคืออัลกุรอานก็อ่านไม่ได้!!!!! อ่านได้ก็ไม่เข้าใจ เข้าใจแล้วก็ไม่ปฏิบัติ อนิจจามนุษย์ได้ทอดทิ้งอัลกุรอานทิพย์โอสถจากอัลลอฮฺ (ซ.บ.) ไปเสียแล้ว!!!!!
-เดือนรอมฎอนจึงเปรียบเสมือนยามพฤกษชาติ
เดือนรอมฎอนจึงเปรียบเสมือนยามพฤกษชาติได้เริ่มผลิใบเพื่อออกดอกและผลยังประโยชน์แก่มนุษยชาติต่อไป อุปมาดั่งคำสอนของอัลลอฮฺ (ซ.บ.) ที่จะให้พี่น้องมุสลิมต้องศึกษาเรียนรู้อัลกุรอาน เพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตตามที่พระองค์ทรงปรารถนา คุณภาพของพี่น้องมุสลิมขึ้นอยู่กับการศึกษาคัมภีร์อัลกุรอานอย่างถ่องแท้แล้วนำไปปฏิบัติ ท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ็อลฯ) กล่าวว่า “ประชาชาติที่ประเสริฐของฉัน คือ ผู้ที่ยึดมั่นอัลกุรอานเป็นทางนำ คือ วิถีชีวิตของเขาต้องเป็นคนที่ยึดมั่นอัลกุรอานเป็นทางนำทุกย่างก้าว ทุกคำพูด ทุกอิริยาบถในการดำเนินชีวิตจะต้องถอดแบบจากคัมภีร์อัลกุรอานมาทั้งสิ้น”
เรื่องราวของบรรพชนในอดีต ในสมัยของท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ็อลฯ) ท่านอิมามอาลี (อ.) ท่านหญิงฟาฏิมะฮฺ (อ.)ในชีวิตประจำวันของท่านนั้น ท่านจะใช้อัลกุรอานในการสนทนาโต้ตอบ ถามเป็นอัลกุรอานตอบเป็น อัลกุรอาน ทุกบทการสนทนามาจากอัลกุรอาน นั่นคือเหตุผลหนึ่งที่ประชาชาติในอดีตใช้เวลาเพียงยี่สิบปีก็พิชิตโลกไปได้ครึ่งหนึ่ง และประชาชาติโลกต่างยึดมั่นเอาคัมภีร์อัลกุรอานเป็นทางนำ ช่างตรงกันข้ามกับมุสลิมในยุคนี้ เขา เหินห่างอัลกุรอานไปเสียเอง
เดือนรอมฎอนอันจำเริญได้จากเราไปแล้วอีกปีหนึ่ง พวกเราจงอย่าปิดอัลกุรอานแล้วเก็บไว้บนหิ้ง เพราะรอมฎอนได้เป็นเดือนแห่งการฝึกฝนนิสัยทุกอย่างของเรา จงเอาความรักที่จะอัญเชิญอัลกุรอานมาอยู่กับเราในทุกๆ เดือน....... จงเอาความระมัดระวังและการปฏิบัติในเดือนรอมฎอนให้มาปฏิบัติเหมือนทุกๆ เดือน....... จงเอาความระมัดระวังและวัตรปฏิบัติในเดือนรอมฎอนมาเป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิตเดือนต่อๆไปของเรา....... ไม่อนุญาตให้ความชั่วมาใกล้กรายจิตวิญญาณของเรา เดือนรอมฎอนอันจำเริญนั้นได้สอนให้เรา ระมัดระวังสำนึกในความดีงามทั้งหลายทั้งกายและจิตวิญญาณ อย่าให้ความอวดดี ความอิจฉาริษยา ความชั่ว และบาปทั้งหลายมาพัวพัน จงห่างไกลจากอบายมุข และชิดใกล้อยู่กับกุศลกรรมตามสาส์นแห่งอิสลามของพระองค์อัลลอฮฺ (ซ.บ.)
บทความโดย ฮุจญตุลอิสลามวัลมุสลีมีน ซัยยิด สุไลมาน ฮูซัยนี