เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม

มูหัรรอม เดือนที่ถูกหวงห้ามในการทำสงคราม!!

0 ทัศนะต่างๆ 00.0 / 5

มูหัรรอม เดือนที่ถูกหวงห้ามในการทำสงคราม!!


เรียบเรียง:เชคยูซุฟ เพชรกาหรีม
____________
“มุหัรรอม”คือหัวใจหลักของผู้ที่มีใจรัก ในอะฮลุลบัยต์ เมื่อพูดถึงเดือน”มุหัรรอม” ได้มีริวายัตเรื่องเล่าไว้อย่างมากมายในหลักฐานทั้งของชีอะฮ์และซุนนีย์ว่าเดือนดังกล่าวมีเหตุการณ์ต่างๆมากมายที่ได้เกิดขึ้น และเพื่อให้ได้เป็นบทเรียนในเชิงศึกษาโดยเฉพาะบทเรียนเกี่ยวกับ “อาชูรอ” สิบวันของ มุหัรรอมนั้น ถือได้ว่าเป็นบทเรียนอันล้ำค่าที่จะทำให้พวกเราได้เข้าใจถึง”วัฒธนธรรม”ของชนอาหรับในยุคนั้น
ที่สำคัญไปกว่านั้นในเดือนดังกล่าวจากเหตุการณ์ที่ได้เกิดขึ้นนั้นคือการห้ามไม่ให้ทำในสิ่งที่อิสลามได้ห้ามเอาไว้ เช่นการทำสงครามหรือการฆ่าฟันการหลั่งเลือดเป็นต้น แต่อิสลามพยายามสอนให้รู้ว่าในเดือนดังกล่าวควรที่จะต้องประกอบอะหม้าลอิบาดัตที่ทรงคุณค่ายิ่งและมีรางวัลตอบแทนอย่างมากมายมหาศาล ณ พระองค์ ไม่ว่าจะเป็นการถือศิลอด การนมาซ การไม่นอนในยามค่ำคืนรวมไปถึงการวิงวอน และการำลึกถึงการจากไปของท่าน ฮุเซน(อ)และครอบครัวของท่าน...
#ความสำคัญของเดือนนี้มาดูริวายัตที่ได้กล่าวเอาไว้คือ....
 عن اميرالمؤمنين عليه السلام في حديث: ان رسول الله صلي الله عليه و آله و سلم لما ثقل في مرضه، قال: ان السنة اثني عشر شهرا، منها اربعة حرم.
قال ثم قال بيده: فذلک رجب مفرد، و ذو القعده و ذوالحجة و المحرم ثلاثة متواليات
 ท่านอลี(อ) ได้กล่าวไว้ว่า "ขณะเมื่อท่านนบี ศ ได้ป่ายหนัก ท่านนบีได้กล่าวว่า ในแต่ละปีจำนวนเดือนนั้นประกอบด้วยสิบสองเดือน และในสิบสองเดือนมีอยู่สี่เดือนที่ถูกหวงห้าม จากนั้นท่านได้ชี้ให้เห็นว่าเดือนที่ต้องห้ามทั้งสี่เดือนคือ เราะญับ ซิลเกาะฮดะฮ ซิลอัจญ และมุหัรรอม" ที่เรียงกันตามลำดับ
عن النبي صلي الله عليه و آله و سلم انه قال: تصلي اول ليلة من المحرم رکعتين، تقراء في الاولي فاتحة الکتاب و سورة الأنعام و في الرکعة الثانية فاتحة الکتاب و سورة يس.
 ท่านนบี(ศ) กล่าวว่า"ให้ปฏิบัตินมาซในค่ำคืนแรกของ มุหัรรอมสองรอกะอัต รอกะอัตแรกให้อ่าน ฟาติหะฮและซูเราะออันอาม และรอกะอัตที่สองอ่าน ซูเราะฟาติหะฮและยาซีน"
 عن النبي صلي الله عليه و آله و سلم انه قال: ان في المحرم ليلة شريفة و هي اول ليلة، من صلي فيها مأة رکعة الحمد و قل هو الله احد و يسلم آخر کل تشهد، و صام صبيحة اليوم و هو اول يوم من المحرم کان ممن يدوم عليه الخير سنة و لايزال محفوظا من الفتنة الي القابل، و ان مات ذلک صار الي الجنة ان شاءالله.
ท่านนบี(ศ) กล่าวว่า "ในเดือนมุหัรรอม เป็นค่ำคืนที่ประเสริฐ คืนนั้นคือค่ำคืนแรก ใครก็ตามที่ละมาซในค่ำคืนแรกร้อยรอกาอัต ซึ่งในละแต่รอกะกาอัต อ่านฟาติหะฮ อิคลาศ จบด้วยการสลาม และในวันรุ่งขึ้นเขาได้ถือศิลอด(วันแรกมุหัรรอม) เขาจะมีแต่ความสุขตลอดทั้งปีจนกระทั้งถึงปีถัดไป และหากเขาได้เสียชีวิตไปในวันนั้น อินชาอัลลอฮเขาจะได้เข้าสวรรค์”
عن النبي صلي الله عليه و آله و سلم انه قال: من صام يوما من المحرم فله بکل يوم ثلاثون يوما.
นบี(ศ)กล่าวว่า "ใครที่ได้ถือศิลอดเพียงหนึ่งวันในเดือนมุหัรรอม เขาจะได้รับผลตอบแทนเท่ากับได้ถือศิลอดถึงสามสิบวันของแต่ละวัน"
 قال علي عليه السلام: ان استطعت ان تحافظ علي ليلة الفطر و ليلة النحر و اول من المحرم و ليلة عاشورا و اول ليلة من رجب و ليلة النصف من شعبان، فافعل و اکثر فيهن من الدعاء و الصلاة و تلاوة القرآن.
ท่าน อลี(อ) กล่าวว่า "หากท่านมีความสามารถท่านต้องไม่นอนในค่ำคืน อีดฟิฏรี อีดกรุบาน คืนแรกของมุหัรรอม คืนอาชูรอ คืนแรกของเดือน รอญับ และคืนนิศฟูชะฮบาน และจงพยายามในการอ่านดุอาห์ นมาซ และอ่านกรุอานให้เยอะๆในคืนดังกล่าว"
 عن الريان بن شبيب قال: دخلت علي الرضا عليه السلام في اول يوم من المحرم فقال: يا ابن شبيب اصائم؟ فقلت: لا. فقال: ان هذا اليوم هو اليوم الذي دعا فيه زکريا عليه السلام ربه فقال: رب لي من لدنک ذرية طيبة انک سميع الدعا،
 จากท่านรัยยาน บิน ชะบีบ กล่าวว่า "ในวันแรกของเดือนมุหัรรอมฉันได้มาหาท่านอิมามริฏอ(อ) ท่านอิมาม(อ)ได้กล่าวถามฉันว่า วันนี้ท่านถือศิลอดหรือไม่? ฉันตอบว่าเปล่า อิม่ามกล่าวต่อว่า แท้จริงแล้ววันนี้ เป็นวันที่ท่านนบีซะกะรียาได้ร้องขอต่อพระองค์จากการต้องการมีบุตรว่า โอ้พระองค์ ท่านคือพระผู้สร้างทุกสิ่ง ท่านโปรดประทานบุตรที่ดีแก่ฉันสักคนด้วยเถิด เพราะท่านคือผู้ที่ได้ยินทุกเสียงเรียกร้อง จากนั้นพระองค์ก็ทรงตอบรับในการร้องขอของซะกะรียา และได้สั่งไปยังมาละอิกะฮให้นำข่าวการตอบรับไปยังซะการียา ในขณะที่ซะการียายืนนมาซอยู่ที่เมียะรอบ มาลาอิกะฮก็ได้ลงมา และกล่าวกับซะการียาว่า พระองค์ตอบรับคำของท่านแล้ว แล้วพระองค์จะประทานบุตรแก่เจ้า นามว่า ยะห์ยา”
ดังนั้นใครก็ตามที่ได้ถือศิลอดในวันนี้ และได้ร้องขอต่อพระองค์(ในสิ่งที่ต้องการ)พระองค์จะตอบรับคำขอของเขา เหมือนที่พระองค์ตอบรับคำขอของซะการียา...
#ส่วนเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นในช่วงสิบวันของเดือนมุหัรรอมนั้น มีเหตุการณ์ต่างๆมากมายอีกเช่นกันที่เกิดขึ้นกับอะลุลบัยตของท่านนบี(ศ)ในเดือนดังกล่าวแต่เหตุการณ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดจะเห็นได้ว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับการเสียชีวิตของซัยยิดุช ชุฮาดา อิมาม ฮุเซน(อ) และพวกพ้อง ซึ่งถูกเรียกเหตุการณ์นี้ว่าวีรกรรมแห่งกัรบาลา เริ่มตั้งแต่การเดินทางมาของท่านสู่แผ่นดินกัรบาลา การส่งจดหมายของท่านไปยังชาวกุฟะฮ การมาของ อุมัร อิบนิ ซะฮยังกัรบะลา การสั่งหารอิมาม(อ) การพบปะของอิมามกับอิบนิ ซะฮ รวมถึงการห้ามในการใช้ประโยชน์จากแม่น้ำต่ออิมามและพวกพ้อง การขอยืดเยื้อเวลาในการต่อสู้ การมารวมตัวของเหล่าทหารเพื่อสกัดขั้นอิมาม คุฏเบาะฮของอิมามต่อบรรดาสาวกของท่าน การพูดคุยกับครอบครัวของท่าน การสนทนาระหว่างซัยหนับกับอิมาม ทั้งหมดนี้มันเกิดขึ้นที่แผ่นดินที่มีชื่อว่ากัรบะลาทั้งนั้น รวมไปถึงการเสียชีวิตของท่าน การเสียชีวิตของท่านอับบาส การเสียชีวิตของท่านอลี อักบัร การเสียชีวิตของกอซิม บินฮะซัน และอลี อัสกัร การเสียชีวิตของ อับดุลลอฮ บินฮะซัน อะบีบ บิน มะศอฮิร อะซะดี และมุสลิม เอาซะญะฮ การเสียชีวิตของหุร รัยยาฮี และญูนบ่าวผู้เป็นสุดที่รักของอบูซัร ฆัฟฟารี และสาวกคนอื่นๆของท่านอีกมากมา เท่านั้นยังไม่พอการกลับมาของม้าซุญนาสุดที่รักของท่านอิมามสู่กระโจมที่ชุ่มไปด้วยเลือด การโอดร้องของสตรีและเด็กๆที่กระโจม การปล้นสดมทรัพย์สินในกระโจมของบรรดาสตรีของเหล่าทรราช การขโมยเสื้อผ้าและเครื่องประดับบนเรือนร่างของอิมาม การเผ่ากระโจมลูกหลานของท่าน การวิ่งหนีอย่างกระจัดกระจายเพื่อเอาชีวิตรอดของลูกหลานอิมาม การเสียชีวิตของลูกเล็กๆของท่านข้างกระโจม การตัดศรีษะของท่านและสาวกของท่าน และ...
ทั้งหมดนี้คือเหตุการณ์ที่ได้เกิดขึ้นในแผ่นดินกัรบะลาเดือนมุหัรรอมทั้งสิ้น และเท่านั้นยังไม่พอ พวกเขายังได้เอาศรีษะของท่านอิมามเสียบประจานที่ปลายหอก การนำพาเชลยที่เหลือสู่เมืองกุฟะฮในสถานะเป็นเชลยสงคราม การนำพาสู่มัจญลิสที่น่าหวาดกลัวของอิบนี ซิยาด การกักขังเฉลยในคุกเมืองกุฟะฮ และการนำพาเฉลยสู่เมืองชามเป็นลำดับ...
ทั้งหมดได้เกิดขึ้นที่ “กัรบาลา”ในเดือนมุหัรรอมทั้งนั้น มาดูรายเหตุการณ์ประจำวันแบบสรุปในแต่วันว่าเรื่องราวเกิดอะไรขึ้นบ้าง?
#เริ่มย่างเข้าวันที่หนึ่งมุหัรรอม...
เป็นวันเริ่มแห่งการไว้อาลัยกับอิมามฮุเซน (อ)และลูกหลานแห่งท่านศาสดา ซึ่งเป็นวันที่เหล่ามวลมลาอิกะฮและบรรดาอัมบิยาฮ รวมไปถึงชีอะห์ที่รักท่านทั้งหลายต้องไว้อาลัย และมันเป็นวันที่โศกเศร้าของสรรพสิ่งทั้งโลก เหตุเพราะว่าเริ่มตั้งแต่วันแรกของมุหัรรอมจนถึงวันที่สิบเป็นวันที่ตัวของท่านอิมามและครอบครัวของท่านตกอยู่ในภาวะที่ถูกขดขี่เป็นอย่างมากเป็นวันที่เจ็บปวดอย่างมากสำหรับพวกเขาเหล่านั้น
และวันดังกล่าวเป็นวันที่เริ่มไว้อาลัยสำหรับผู้คนที่มีความเชื่อและศรัทธารักในตัวท่านและทำให้รู้จักถึงตัวตนของท่านมากยิ่งขึ้นในการยืนหยัดต่ออิสลาม การเข้าร่วมมัจญลิสของท่านไม่ว่าในมัสยิด หรืออุซัยนิยะฮ การร้องให้หลั่งน้ำตาให้แก่พวกท่าน ถือเป็นหน้าที่ของทุกคนที่ต้องแสดงมันออกมาในยุคที่ท่านอิมามซะมาน(อ)ยังเร้นกาย
อิมาม ริฎอ (อ)กล่าวเรื่องนี้แก่ รัยยาน บินชะบีบ ว่า” โอ้รัยยาน ประชาชนอาหรับในยุค ญะอีล(โง่เขลา)กับการทำสงครามในเดือนมุหัรรอมถือว่าต้องห้าม แต่ทว่าประชาชาติเหล่านั้นได้ละทิ้งข้อห้ามนี้ไปเสียแล้วสิ่งที่นบีห้ามเอาไว้เขาไม่รักษา พวกเขาเห็นว่าเลือดของพวกเราเป็นที่อนุมัติในเดือนนี้ พวกเขาได้เข่นฆ่าพวกเรา พวกเขาจับสตรีและเด็กๆเป็นเฉลย และเผ่ากระโจม และนำบุคคลที่เหลือไปเป็นเชลยอย่างน่าสงสารพวกเขาไม่ทำตามในสิ่งที่นบีได้ห้ามเอาไว้”
โอ้บุตรของชะบีบ “หากท่านจะร้องให้ จงร้องให้แก่ฮุเซนเถิด พวกเขาได้ฆ่าท่าน เหมือนกับการฆ่าแกะตัวหนึ่ง สิบแปดคนจากครอบครัวของท่านที่ถูกสังหารพร้อมกับท่านในขณะที่ไม่มีใครคอยช่วยเหลือพวกเขาเลย ชั้นฟ้าทั้งเจ็ดและผืนแผ่นดินยังต้องหลั่งน้ำตาให้แก่พวกเขา”
โอ้บุตรของชะบีบ “หากต้องการได้อยู่ในสวรรค์พร้อมกับพวกเรา ก็จงไว้อาลัยและเสียใจในการถูกสังหารของพวกเขาเถิด และจงมอบความรักแด่พวกเขาเยอะๆ เพราะพระองค์จะมอบความรักเท่ากับความรักที่ท่านมีต่อพวกเขาในวันนั้น(กียามัต)”
#ช่วงวันที่หนึ่งและสองมุหัรอม...
ในปีอิจเราะฮที่หกสิบเอ็ด ท่านอิมาม และครอบครัวพร้อมบรรดาสาวกเดินทางเข้าสู่แผ่นดินกัรบาลา ในขณะที่ม้าของท่านไม่กล้าแม้กระทั้งจะเดินต่อไปข้างหน้า จนทำให้ท่านอิมามแปลกใจและถามขึ้นว่า ที่นี่เป็นที่ใด? ชื่อของสถานที่นี้คืออะไร? อิมามได้ยินเสียงตอบออกมาว่า ที่นี่คือ กอริฏียะฮ มีชื่ออะไรอีกไหม? พวกเขาตอบว่า ชาฏิอิล ฟุรอต ชื่ออื่นมีอีกไหม? พวกเขากล่าวขึ้นมาว่า กัรบาลา เมื่อได้ยินชื่อนี้ทำให้สีหน้าของท่านอิมามได้เปลี่ยนไป รู้สึกท่านโศกเศร้าไม่น้อยและท่านก็ได้หลั่งน้ำตาออกมา และท่านก็กล่าวขึ้นว่า”สาบานต่อพระองค์ นี่คือแผ่นดินที่มีชื่อว่ากัรบาลา และที่นีคือสถานที่ๆพี่น้องของเราถูกฆ่า ที่นี่คือสตรีและเด็กๆของเราถูกจับให้เป็นเชลย โอ้สหายรักทั้งหลายที่นี่คือ สถานที่ฝังศพของพวกเรา”
#เหตุการณ์วันที่สามมุหัรรอม...
ในวันที่สามอิมามได้ร่างจดหมายขึ้นมาฉบับหนึ่งเพื่อที่จะส่งไปยังผู้ปกครองเมืองกุฟะฮโดยให้ท่าน เกส บิน มุซะฮฮัร ซัยดาวี นำพาไปให้จนในที่สุด เกส คนนี้ก็ได้ถูกจับและถูกฆ่าในที่สุด แต่ก่อนที่เกสจะถูกฆ่าเกสได้ทำการสาปแช่งยะซีด และบุตรของซิยาด
และในวันนี้อีกเช่นกัน ที่ อุมัร อิบนิ ซะฮ พร้อมกำลังพลเกือบหกพันคนมาเพื่อต้องการที่จะปลิดชีพอิมามและพวกเขาก็ได้ทำการปิดล้อมอิมามเอาไว้อีกรายงานบอกว่าอุมัร อิบนิ ซะฮเข้ามากัรบาลาในวันที่สี่..
#วันที่สี่และห้ามุหัรรอม...
ในมัสยิด กุฟะฮ ได้ถูกเรียงร้องขึ้น ให้ประชาชนต่อต้านในการมาของอิมามให้มากที่สุดโดยคำฟัตวาของ ซะเริยะห กอซี ได้เรียกร้องให้นำไปสู่การฆ่าอิมาม และอย่าให้การสนับสนุนอิมามเป็นอันขาดเรื่องนี้ดำเนินไปจนถึงวันที่หกของมุหัรรอม
#วันที่หกมุหัรรอม
ในค่ำคืนที่หกนี้อิมามได้ให้ ฮะบีบ บิน มะศอฮีร อะซะดีย์ กลับไปที่เผ่าของตนเพื่อเรียกร้องพรรคพวกให้มาช่วยเหลืออิมาม แต่เหตุการณ์ที่คาดไม่ถึงก็มา เมื่อพวกสอดแนมของ อุมัร อิบนิ ซะฮได้รู้ข่าวและได้แจ้งให้ อุมัร อิบนิ ซะฮ ได้รับทราบ จนทำให้ อุมัร อิบนิ ซะอ ส่งทหารของตนไปสกัดกั้นและเกิดการสู่รบกันขึ้นจนทำให้บางส่วนจากพรรคพวกของ ฮะบีบ ต้องเสียชีวิต ส่วนตัวฮะบีบต้องกลับมาหาอิมามและเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในระหว่างทางให้อิมามได้รับทราบในขณะเดียวกันอุมัร อิบนิ ซะฮ ก็ได้ส่งทหารของตนอีกสามพันกว่านายไปคุมลำน้ำ อัลฟุรอต
ในวันนั้นมีทหารมากมายที่อยู่ตรงข้ามกับสถานที่พักของอิมามและพร้อมที่จะจู่โจมเสมอเมื่อนายสั่ง
#วันที่แปดมุหัรรอม...
แม่น้ำอัลฟุรอตได้ถูกปิด และห้ามไม่ให้อิมามและสมาชิกในครอบครัว รวมไปถึงสาวกของท่านใช้น้ำนั้นอย่างเด็ดขาด ในขณะที่ในแค้มของอิมามน้ำก็เริ่มหมดเช่นกัน
#วันที่เก้ามุหัรรอม...
ทหารของอุมัรเริ่มทำการปิดล้อมแค้มที่พักของอิมาม เรื่องนี้อิมามศอดิกกล่าวไว้ในเหตุการณ์วันนั้นว่า ในวันที่เก้า บุตร ของมัรญานะอและอุมัร อิบนิซะฮ พร้อมทหาร ได้ทำการปิดล้อมแค้มของอิมาม เพื่อกดดันให้อิมามและพรรคพวกยอมบัยอัตจำนนต่อยะซีด และไม่มีใครที่จะกล้าออกมาจากเมืองกุฟะฮเพื่อที่จะช่วยเหลืออิมามได้แม้แต่คนเดียว...
ในขณะที่ ชิมร์ ได้ถือจดหมายมาฉบับหนึ่งมายังที่แค้มของท่านอิมามเพื่อเรียกร้องให้อิมามได้ บัยอัตต่อยะซีด อิมามได้ส่ง อับบาสออกไปเพื่อเจรจา ในระหว่างที่กำลังเจรจา ชิมร์ได้กล่าวกับอับบาส ว่าท่านไม่เกี่ยวโปรดออกไปห่างๆและท่านจะปลอดภัยหากท่านไม่ยุ่งเกี่ยวเรื่องนี้ อับบาส กล่าวขึ้นมาทันใดว่า ท่านจะให้ความปลอดภัยแก่ฉัน ในขณะที่ท่านกำลังจะฆ่า ฮุเซน บุตรแห่งรอซูลลุลลอฮ?!!
เช่นกันในช่วงบ่ายของวันที่เก้า ในขณะที่ อุมัร อิบ นิซะฮ และพรรคพวกพร้อมที่จะทำการสู้รบกับอิมามทุกขณะ อิมามได้ส่งอับบาสออกไปอีกครั้ง เพื่อทำการเจรจาในการสู้รบให้ยืดเวลาออกไปสักนิดก่อน เพราะท่านต้องการที่จะอยู่เพื่อทำอิบาดัตต่อพระองค์ ในขณะที่พวกเขาไม่ให้โอกาศแก่อิมาม แต่สุดท้ายพวกเขาให้ตามที่อิมามร้องขอ...
ในวันเดียวกัน อิมามได้อ่านคุฎเบาะฮ แก่บรรดาสาวกของท่านทั้งหลาย...
#คืนที่สิบ(อาชูรอ)...
อิมามได้รวบรวมครอบครัวและสาวกของท่านทุกคน และท่านกล่าวว่าจากนี้เป็นต้นไปพวกท่านทุกคนมีอิสระ พวกท่านจะไปไหนก็ได้ หรือจะหนีออกไปก็ได้เพื่อไม่ให้ตัวของพวกท่านต้องถูกฆ่า ฉันจะไม่บังคับกับพวกท่าน แต่สุดท้ายแล้วผู้ที่มีใจรักในตัวของท่านอิมามก็คงอยู่และพร้อมที่พลีชีพพร้อมๆกับอิมาม ในขณะที่ ซัยหบับผู้เป็นน้องสาวเมื่อได้ยินคำกล่าวของท่านอิมามผู้เป็นพี่ชาย ทำให้น้ำตาของนางต้องไหลรินออกมา จนอิมามผู้เป็นพี่ชายต้องเข้ามาปลอบประโลม....
 #วันอาชูรอ....
หลังบ่ายของวันที่สิบ อิมามและสาวกของท่านอีกหลายคน ได้ถูกทำชะฮาดัต ในสภาพที่พวกเขานั้นหมดเรี่ยวแรง และไม่ได้ดื่มน้ำแม่แต่หยดเดียว มีมะลักถึงสี่พันองค์ลงมาที่แผ่นดินผืนนั้นเพื่ออาลัยแก่ท่าน และในวันดังกล่าวการคงอยู่ในสภาพที่หิวกระหายเป็นการดียิ่งสำหรับผู้มีใจรักแด่ท่านอิมาม ส่วนสาวกของท่านที่เสียชีวิตในวันนั้นมีท่านฮะบีบ บิน มะซออีร,มุสลิม บิน เอาซะยะฮ,โฮร รัยยานี
ญูน เมาลา อะบีซาร กอฟฟารี,อลี อักบัรกอซิม บินฮะซัน,อับดุลลอฮ บินฮะซัน
และคนอื่นๆอีกมากมายซึ่งท่านสามารถศึกษาทางประวัติศาสตร์ถึงเรื่องราวของเดือนมูหัรรอมได้...
**เนื่อหาเป็นเพียงแค่พอสังเขปเท่านั้นที่สามารถสร้างความเข้าใจและสร้างความรักที่มีต่ออะลุลบัตย์ให้มากยิ่งขึ้น ยังจะมีตำรามากมายที่กล่าวถึงเรื่อวนี้เอาไว้ และมีรายงานที่ต่างกันออกไป แต่เนื้อหาคือหนึ่งเดียว...

กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วย

ความคิดเห็นของผู้ใช้งานทั้งหลาย

ไม่่มีความคิดเห็น
*
*

เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม