ความลับแห่ง “ริฎวาน”
บุรุษไร้เงา มันสมองของฮิซบุลลอฮ์
ประวัติและเรื่องเล่าของขุนพลแห่งกองกำลังขบวนการต่อสู้อิสลาม ชะฮีด อิมาด มุฆนิยะห์
ตอนที่​ 9
  (ความเพียรพยายามที่แสนลำบาก –เล่าโดยมารดา ของ อิมาด มุฆนิยะห์ )
ในเดือนเมษายน ปี 1975  เกิดสงครามกลางเมืองในเลบานอน โดยจุดเริ่มต้นของสงครามนั้นเกิดขึ้นจาก จัตุรัส อัลระบีด ใน พื้นที่ อัลระมานะห์ ซึ่งห่างจากร้านอาหารของบิดา อิมาด ราวห้าสิบเมตร  ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว จากจุดนี้นี่เองที่ ประกายแห่งความเป็นทหารของ อิมาด ได้ถูกจุดขึ้นมา
สถานที่แห่งนี้ เป็นปัจจัยปูทางสำหรับอิมาด ในการรู้จักกลุ่มขบวนการต่างๆ รู้จักแนวคิดและอุดมการณ์ต่างๆที่มีอยู่ในเลบานอน  ทว่าการรู้จักและใกล้ชิดเหล่านี้มิได้เป็นเหตุให้อิมาดเข้าร่วมกับกลุ่มขบวนการเหล่านี้ไม่  อิมาดเหมือนกับเยาวชนหนุ่มสาวคนอื่นๆที่ก้าวผ่านกลุ่มขบวนการหนึ่งไปยังอีกกลุ่มขบวนการหนึ่งสำหรับการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในภาคสนามจริง  และโดยธรรมชาติของบุคคลที่มีอายุเพียงเท่านั้น ก็จะเข้ามีส่วนร่วมในการปะทะด้วยการสร้างป้อมปราการเพื่อปกป้องพลเรือนและประชาชนผู้บริสุทธิ์จากการตกเป็นเป้าและเหยื่อของนักแม่นปืน
หลังจากนั้น อิมาด ก็ได้เข้าร่วมเป็นหน่วยอาสาสมัครรักษาความปลอดภัยของขบวนการต่อสู้ปาเลสไตน์ และจากคืนนั้นเองที่อิมาดได้ยินเรื่องราวต่างๆของปาเลสไตน์   อิมาดได้กล่าวว่า มันช่างเป็นความโปรดปรานที่ดียิ่งสำหรับเขาที่ได้เข้าร่วมในสงครามครั้งนี้  แต่สำหรับฉันแล้ว ฉันยังคงตามหาอิมาดจากกลุ่มขบวนการต่าวๆ อย่างวุ่นวาย เพื่อที่จะห้ามปรามเขาไม่ให้เข้าไปมีส่วนร่วมในขบวนการ  ตามหาด้วยความยากลำบาก จนในคืนหนึ่ง ฉันก็ได้พบกับเขา แล้วนำพาเขากลับมาบ้าน  แต่เช้าวันต่อมาเขาก็ได้ออกจากบ้านไปอีก และตราบใดที่ฉันไม่ได้ตัวเขากลับมา ฉันคงจะตามหาเขาตลอดทั้งคืน โดยที่ไม่ได้กลับบ้านเช่นกัน
อิมาดและเพื่อนๆของเขาได้จัดตั้งกลุ่มเล็กๆขึ้นมา ในเขตพื้นที่ “ชัยยาห์” เพื่อคอยให้การปกป้องและสนับสนุนผู้ถูกกดขี่  พวกเขาจะทำการอิบาดะห์และนมาซที่นั่น ในสมัยนั้น มีกาปรากฏตัวของผู้นับถือศาสนาและผู้มีแนวคิดต่างๆ เช่น คอมมิวนิสต์ คริสต์เตียนและอื่นๆ การให้ความสำคัญต่อประเด็นศาสนาถือเป็นเรื่องที่ยากลำบากมาก
วันหนึ่ง กลุ่มของเขาได้เกิดปะทะและขัดแย้งกับคนกลุ่มหนึ่งเกี่ยวกับประเด็นศาสนา  กลุ่มเยาวชนของอิมาดที่ยึดถือในแนวทางศาสนานั้นมีเพียงน้อยนิด  แต่อิมาด ด้วยวัย 20 ปี สามารถยืนหยัดต่อกรกับพวกเขาที่มีจำนวนมากได้อย่างยอดเยี่ยม และสร้างความปราชัยให้กับกลุ่มคนดังกล่าว
หลังจากเหตุการณ์นี้  ในทุกพื้นที่ของกรุงเบรุต เมื่อเยาวชนผู้ศรัทธาเกิดปะทะและเกิดขัดแย้งกัน  ก็จะมีอิมาดเข้ามาช่วยคลี่คลายปัญหา และด้วยการปรากฏตัวของเขา อีกทั้งคุณลักษณะแห่งความกล้าหาญของเขาที่มีอยู่ ทำให้ฝ่ายตรงกันข้ามต้องยอมรับความพ่ายแพ้ไปในที่สุด
วันหนึ่งเกิดเหตุปะทะกันระหว่างกลุ่มเยาวชนผู้ศรัทธากับคนกลุ่มหนึ่ง และกลุ่มคนดังกล่าวก็ได้ใชอาวุธปืนต่อสู้ ทำให้เยาวชนผู้ศรัทธาก็ได้จับอาวุธออกมาต่อสู้เช่นกัน  ซึ่งอิมาดก็เช่นเดียวกัน ได้หยิบปืนและออกจากบ้านอย่างรวดเร็วในสภาพที่ตัวเขาลืมสวมใส่รองเท้า  ฉันเห็นเขาวิ่งออกจากบ้านในสภาพเท้าเปล่า และเมื่อฉันเห็นเช่นนั้น จึงหยิบรองเท้าของเขาแล้วก็วิ่งตามไป
ฉันวิ่งผ่านมาสองซอย ก็ได้มาเจอกับเขา  ฉันกล่าวกับเขาในสถานการณ์ที่ตกอยู่ในอันตราย ว่า  โอ้ลูกรัก ทำไมเจ้าไม่สวมใส่ร้องเท้าออกมา ? เจ้่าอาจจะโดนเศษกระเบื้อง เศษกระจก บาดเท้าก็ได้ และจะเป็นเหตุให้เจ้าไม่สามารถให้การช่วยเหลือใดๆเลยในการต่อสู้ครั้งนี้
อิมาด เผยอยิ้ม และได้หยิบรองเท้ามาใส่  ราวกับว่า สิ่งที่เป็นอันตรายหนึ่งเดียวที่ได้คุกคามเขาในวันนั้นคือ การไม่สวมใสรองเท้านั่นเอง จากนั้น ฉันก็ได้เดินทางกลับบ้าน
อิมาดมีความเพียรพยายามอย่างมาก เพื่อให้บรรลุเป้าหมายทางศาสนา ด้วยการวางแผนการต่างๆด้วยความรอบคอบ ขบคิดอยู่ตลอดเวลา และสิ่งเหล่านี้ เป็นสิ่งที่อยู่ในตัวของ อิมาด ตั้งแต่เยาว์วัย....
ติดตามตอนที่10

บทความโดย ซัยยิดสุไลมาน ฮุซัยนี