การรำลึกถึงมุศีบัตของบรรดาอัซฮาบและครอบครัวของอะบาอับดิลลาฮิลฮุเซน

การรำลึกถึงมุศีบัตของบรรดาอัซฮาบและครอบครัวของอะบาอับดิลลาฮิลฮุเซน

 

อีกหนึ่งประเด็นที่ควรจะต้องกล่าว คือ การรำลึกถึงมุศิบัตของบรรดาอัซฮาบและครอบครัวของอะบาอับดิลลาฮิลฮุเซน(อ.)ซึ่งเราจะกล่าวถึงพวกเขาทุกวัน โดยปกติแล้ววันที่หนึ่งมุฮัรรอม จะทำการกล่าวถึงผู้ส่งสาสน์ของอิมามฮุเซน(อ)และถือเป็นชะฮีดท่านเเรกแห่งกัรบะลา

ชาวกูฟะห์ผู้ไร้ยางอายได้เขียนจดหมายเป็นจำนวนมากถึงท่านอิมามฮุเซน(อ.)และขอให้ท่านอิมาม(อ.)เดินทางมากูฟะห์ศูนย์กลางการปกครองของอมีรุลมุอฺมินีน อะลี(อ.)บิดาของท่าน
เดิมทีกูฟะห์เป็นเพียงชานเมืองทางทหารที่พึ่งถูกจัดตั้งและไร้รากฐานแต่ท่านอะมีรุลมุอฺมินีนอะลี(อ.)ได้จัดวางให้ที่นี่เป็นเมืองหลวงแห่งการปกครองของท่านเนื่องจากท่านต้องการให้อยู่ใกล้กับชาวอิหร่าน
แนวคิดนี้ถือเป็นแนวคิดที่ที่มีความก้าวหน้าและยอดเยี่ยมเป็นอย่างมาก
แต่ทว่าในยุคสมัยนั้นมีประเด็นของอาชูรอเกิดขึ้น หมายความว่า ช่วงระยะเวลาก่อนและหลังเหตุการณ์โศกนาฏกรรมอาชูรอ เมืองนี้ได้ถูก
บริหารจัดการโดยชาวอาหรับที่ไร้ยางอายและชั่วร้ายบางคน
นี้เองที่ทำให้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางชาวอาหรับในภูมิภาคนี้

อย่างไรก็ตาม ผู้ส่งสาสน์ของอะบาอับดิลละฮ์(อ) ท่านมุสลิม อิบนิ อะกีล ได้ไปถึงกูฟะฮ์แล้ว
ในช่วงแรกเหล่าบุคคลหลายพันคนที่เขียนจดหมายไปถึงท่านยังคงห้อมล้อมท่านอยู่
ยะซีด(ขอพระองค์ทรงสาปแช่ง)ได้แต่งตั้งอุบัยดิลลาฮฺ อิบนิ ซิยาด(ขอให้พระผู้เป็นเจ้าทรงสาปแช่ง)ชายหนุ่มผู้มีชั้นเชิงทางการเมืองและมีความเจ้าเล่ห์เพทุบายให้เป็นผู้ปกครองเมืองกูฟะฮ์
ทันทีที่เขามาถึงเมืองกูฟะห์ เขาได้ทำให้เหล่าบุคคลที่เคยห้อมล้อมท่านมุสลิมกระจัดกระจายหนีหายไปจากตัวท่านในที่สุดท่านมุสลิมก็เป็นผู้ที่ถูกทอดทิ้งให้เดียวดายในกูฟะห์!

เมื่อเหล่าศัตรูพบที่ซ่อนตัวของท่านมุสลิม
ท่านมุสลิมผู้เดียวดายเกิดความกังวลว่า ขออย่าได้ให้สุดที่รักของฉัน เดินทางมายังสถานที่อันตรายนี้เลย! ซึ่งท่านไม่ได้กังวลในเรื่องของตนเอง(ที่ตนถูกจับได้)และไม่ได้กังวลในเรื่องของภรรยาและบุตรของตนเองด้วย
ความปรารถนาของมุสลิมนั้นคือ : ฉันหวังเหลือเกินที่ฉันจะสามารถส่งข่าวไปยังอิมามฮุเซน(อ.)ว่าให้ยกเลิกการเดินทางในครั้งนี้

ขณะนี้ศัตรูได้ค้นหาสถานที่ซ่อนตัวของมุสลิมพบแล้วและกำลังข่มขู่คุกคามท่าน ความกังวลทั้งหมดของผู้ส่งสาสน์อะบาอับดิลละฮ์ท่านนี้มีเพียงเรื่องเดียวเท่านั้น นั้นก็คือ โอ้ท่าน(อิมาม(อ))โปรดอย่าได้มากูฟะฮ์เลย ฉันกำลังจะเป็นชะฮีดแต่ฉันน่าจะได้แจ้งให้อิมามได้รู้

سَلَامُ اللَّهِ وَ سَلَامُ مَلَائِکَتِهِ الْمُقَرَّبِينَ وَ أَنْبِيَائِهِ الْمُرْسَلِينَ وَ أَئِمَّتِهِ الْمُنْتَجَبِينَ عَلَيکَ يَا مُسْلِمَ بْنَ عَقِيلِ بْنِ أَبِی طَالِبٍ أَشْهَدُ أَنَّکَ وَفَيتَ  بِعَهْدِ اللَّهِ  وَ أَنَّکَ قُتِلْتَ مَظْلُوماً لَعَنَ اللَّهُ مَنْ قَتَلَکَ وَ لَعَنَ اللَّهُ مَنْ أَمَرَ بِقَتْلِکَ

ท่านอิมามริฎอ(อ.)ได้กล่าวว่า
“ตั้งเเต่คืนนี้(คืนแรกมุฮัรรอม)จนถึงวันอาชูรอไม่มีใครเคยได้เห็นรอยยิ้มจากบิดาของฉันเลย”