เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม

เหตุผลว่าทำไมพวกเรา(อิมามียะฮ์)จึงต้องแสดงความโศกเศร้าในเดือนมูฮัรรอมและซอฟัร?

0 ทัศนะต่างๆ 00.0 / 5

เหตุผลว่าทำไมพวกเรา(อิมามียะฮ์)จึงต้องแสดงความโศกเศร้าในเดือนมูฮัรรอมและซอฟัร?

 

เพราะในเดือนมูฮัรรอมเป็นเดือนแห่งความอาดูรอย่างแท้จริง

 

อิมามศอดิก กล่าวว่า:

شيعتنا جزء منا، خلقوا من فضل طينتنا، يسوؤهم ما يسوؤنا و يسرهم ما يسرنا.

 

"ชาวชีอะห์ทั้งหลายเป็นส่วนหนึ่งของพวกเราพวกเขาถูกสร้างมาจากส่วนหนึ่งจากรัศมีของพวกเราสิ่งใดที่ทำให้พวกเรามีความทุกข์ใจพวกเขาก็จะไม่สบายใจไปด้วยและสิ่งใดที่ทำให้เรามีความสุขใจพวกเขาจะมีความสุขเช่นกัน"
อ้างอิง:
الأمالي للشيخ الطوسي، ص299 - بحار الأنوار للعلامة المجلسي، ج65، ص24 - بشارة المصطفى لمحمد بن علي الطبري، ص303

 

อิมามริฎอ กล่าวแก่ชะบีบ ตอนหนึ่งว่า:

يا بن شبيب! إن سرك أن تكون معنا في الدرجات العلى من الجنان، فاحزن لحزننا و أفرح لفرحنا.

 

"โอ้ชะบีบ หากต้องการที่จะอยู่ร่วมกับพวกเราในสวงสรรค์ในวันพรุ่งนี้(โลกหน้า)ก็จงแสดงความอาลัยในช่วงวันแห่งความทุกข์ของพวกเรา และเวลาที่พวกเรามีความสุขก็จงแสดงความสุขออกไปเถิด"
อ้างอิง:
الأمالي للشيخ الصدوق، ص193 - عيون أخبار الرضا (ع) للشيخ الصدوق، ج2، ص269 - وسائل الشيعة (چاپ آل البيت) للحر العاملي، ج14، ص503

 

เดือนมูฮัรรอมเป็นเดือนแห่งความทุกข์โศกของบรรดาอะลุลบัยต์.

อิมามริฎอ กล่าวว่า:

کان أبي إذا دخل شهر المحرم لا يري ضاحکا و كانت الكآبة تغلب عليه حتى تمضي عشرة أيام، فإذا كان يوم العاشر كان ذلك اليوم يوم مصيبته و حزنه و بكائه.

 

"บิดาของฉัน(อิมามกาซิม)เมื่อเดือนมูหัรรอมมาถึงจะไม่มีรอยยิ้มบนใบหน้าและริมฝีปากของท่านให้เห็นเลยไม่มีใครเห็นท่านในสภาพที่รื่นเริง ท่านมีความทุกข์และโศกเศร้าทุกวันที่ผ่านไปก็ยิ่งทำให้บิดาของฉันยิ่งเศร้ามากยิ่งขึ้นและเมื่อถึงวันที่สิบเป็นวันที่บิดาของฉันร้องให้เป็นอย่างหนัก"

อ้างอิง:
الأمالي لشيخ الصدوق، ص191 - وسائل الشيعة (چاپ آل البيت) للحر العاملي، ج14، ص505 - إقبال الأعمال للسيد ابن طاووس، ج3، ص28

 

อิมามริฎอยังกล่าวถึงเรื่องนี้ต่ออีกว่า:

إن المحرم شهر کان اهل الجاهلية يحرمون فيه القتال، فاستحلت فيه دماؤنا و انتهكت فيه حرمتنا و سبيت فيه ذرارينا و نساؤنا و أضرمت النيران في مضاربنا و انتهبت ما فيه من ثقلنا و لم يرعوا لرسول الله (صلى الله عليه و آله) حرمة في أمرنا. إن يوم الحسين أقرح جفوننا و أسبل دموعنا و أذل عزيزنا، بأرض كرب و بلاء، أورثتنا الكرب و البلاء إلى يوم الانقضاء، فعلى مثل الحسين فليبك الباكون، فإن البكاء يحط الذنوب العظام.

 

"เดือนมูฮัรรอมในยุคสมัยแห่งความโง่เขลา(ญาฮิลียะฮยุคก่อน)นั้นเป็นเดือนที่ประชาชนให้เกียรติเป็นอย่างมากพวกเขาจะไม่แสดงความรื่นเริงในเดือนดังกล่าว(แต่ในยุคหลัง)เดือนนี้ชาวบนีอุมัยยะฮได้ทำให้เลือดพวกเราเป็นที่อนุมัติพวกเขาได้ทำลายเกียรติยศและเหยียบย่ำศักร์ศรีของพวกเราอย่างย่อยยับ ทำให้(สตรีและเด็ก)ต้องถูกจับให้เป็นเชลย ในเดือนนี้พวกเขาทำการเผ่ากระโจมที่พักของพวกเรา...เป็นวันที่พวกเราโศกเศร้าเป็นย่างนักเพราะฮูเซนถูกฆ่า พวกเราร้องให้หลั่งน้ำตาแก่ท่านเพราะการร้องให้ให้กับฮูเซนนั้นสามารถลบล้าบบาปใหญ่ได้"

อ้างอิง:
الأمالي للشيخ الصدوق، ص190 - إقبال الأعمال للسيد ابن طاووس، ج3، ص28 - بحار الأنوار للعلامة المجلسي، ج44، ص283

เมื่ออิมามซัจญาดถูกถามว่าทำไมท่านต้องร้องให้มากมายขนาดนั้นเหมือนกับว่าท่านต้องจากโลกนี้ไป?! อิมามตอบว่า:

لا تلوموني، فإن يعقوب فقد سبطا من ولده، فبكى حتى ابيضت عيناه و لم يعلم أنه مات و نظرت أنا إلى أربعة عشر رجلا من أهل بيتي ذبحوا في غداة واحدة، فترون حزنهم يذهب من قلبي أبدا؟

"อย่าซ้ำเติมฉันเลย นบียะกูบได้เสียบุตรชาย(ห่างไกล)ไปคนหนึ่งท่านร้องไห้จนตาของท่านบอดเพราะความรักและคิดถึงในขณะที่ท่านเองก็ยังไม่รู้ว่าบุตรยังมีชีวิตอยู่หรือตายไปแล้ว แต่สำหรับฉันฉันได้เห็นสิบสี่คนที่เป็นที่รักยิ่งของฉันที่ถูกเฉือดอย่างทรมานในเวลาเดียวกันต่อหน้าต่อตา พวกเจ้าจะไม่ให้ฉันเสียใจหรือร้องให้กระนั้นเลยเหรอ?!!"

อ้างอิง:
تهذيب الكمال للمزي، ج20، ص399 - البداية و النهاية لإبن كثير، ج9، ص125 - تاريخ مدينة دمشق لإبن عساكر، ج41، ص386 - كشف الغمة للإربلي، ج2، ص314 - أعيان الشيعة للسيد محسن الأمين، ج1، ص636 - شرح إحقاق الحق للسيد المرعشي، ج12، ص92

ฉะนั้นอย่าได้ไปสงสัยเลยว่า เดือนมูหัรรอมเป็นเดือนแห่งความโศกเศร้าอย่างแท้จริงเป็นเดือนแห่งความทุกข์โศกของอะลุลบัยต์หากพวกเราต้องการพิสูจน์ตัวเองถึงความรักที่มีอะลุลบัยต์ว่ามีสักขนาดไหนก็ขอให้พวกเราจงแสดงความอาลัยและร้องให้แก่พวกเขาเถิด!อย่างแสดงความดีใจหรือรื่นเริงในเดือนดังกล่าวเลย!!"

ต่อมาในเดือนศอฟัร ในวันที่ 1 เป็นวันที่อะลุลบัยต์ บรรดาชุฮาดา(ศรีษะ)ถูกนำพาเข้าสู่เมืองชาม บางรายงานจากประวัติศาสตร์บันทึกว่า:

اتخذ بني الاميه هذا اليوم عيدا ابتهاجا لقتل الحسين و وصول رأسه إلي الشام.

 

"ประชาชนชาวเมืองชามในวันที่หนึ่งซอฟัรพวกเขาได้กำหนดให้เป็นแห่งการรื่นเริงแห่งเฉลิมฉลองเนื่องด้วยอิมามฮูเซนถูกสังหารและเป็นวันที่ศรีษะของท่สนถูกนำพาเข้าสู่เมืองชาม"

อ้างอิง:
توضيح المقاصد، ص5 - مصباح کفعمي، ج2، ص596

"ในวันที่ 3 ซอฟัรเป็นที่เซดต้องเสียชีวิต ทำให้หัวใจของอิมามศอดิกต้องแตกสลายท่านร้องให้เป็นอย่างหนัก"

อ้างอิง:
عيون اخبار الرضا (ع)، ج2، ص228 - بحار الأنوار للعلامة المجلسي، ج46، ص175

วันที่ 5 เป็นวันที่แก้วตาดวงใจของอิมามฮูเซนต้องถูกทำชะฮาตัดนั้นก็คือรุกัยยะฮการเสียชีวิตของเด็กน้อยทำให้ใครหลายคนหลั่งน้ำตาไว้ไม่อยู่แม้กระทั้งผู้เป็นเหตุในการเสียชีวิตของนาง

อิมามซัจญาดเองร้องให้อย่างหนัก และเมื่อถูกถามว่าทำไม่ท่านต้องร้องให้มากขนาดนี้ท่านตอบว่า ฉันสงสารหลานของฉันฉันนึกถึงวันนั้นครั้งใด ในวันนั้นเด็กน้อยผู้นี้(รุกัยยะฮ)ได้เอามือของฉันไปจับที่หน้าท้องของเขา แล้วกล่าวถามฉันว่า ท่านอาที่รักในเมืองชามนี้ยังมีเด็กคนอื่นอีกไหมที่หิวมากกว่าฉัน?!!"

และในวันที่ 8 ศอฟัรเป็นวันที่อิมามฮะซัน มัจญตะบาต้องสังเวยชีวิตด้วยยาพิษย่างทรมานเช่นกัน

อ้างอิง:
مصباح کفعمي، ج2، ص598 - بحار الأنوار للعلامة المجلسي، ج44، ص134

ในวันที่ 20 ซอฟัรเป็นวันเฉลยแห่งกัรบาลาดลับมาสู่กัรบาลาอีกครั้งเพื่อมาซิยาเราะฮอิมามฮูเซนอีกครั้งก่อนกลับสู่มะดีนะฮ.

อ้างอิง:
مصباح المتهجد للشيخ الطوسي، ص188 - تهذيب الأحکام للشيخ الطوسي، ج6، ص52 - المزار للشيخ المفيد، ص53

และในวันที่ 24 ศอฟัร เป็นที่สาวกบางคนทำให้หัวใจนบีต้องเจ็บช้ำอีกครั้ง เมื่อท่านป่วยท่านสั่งให้สาวกทำในสิ่งที่ท่านต้องการ:

هلموا اکتب لکم کتابا لن تضلوا بعدي أبدا.

ท่านสั่งเพื่อให้เอา(กระดาษ-ปากกา)เพื่อท่านจะบันทึกสิ่งสำคัญอย่าให้ใครได้หลงทางหลังจากท่าน แต่ทว่าสาวกไม่ยอมปฏิบัติตามในสิ่งที่ท่านต้องการทำให้นบีต้องกริ้วเป็นอย่างมากและท่านได้ไล่สาวกกลุ่มนั้นออกจากบ้านไป

และในวันที่ 28 ของศอฟัร เป็นที่วิญญานอันบริสุมธของท่นนบีกลับคืนสู่พระผู้เป็นเจ้าอย่างสงบ
 อ้างอิง:
الإرشاد للشيخ المفيد، ج1، ص189 - تهذيب الأحکام للشيخ الطوسي، ج6، ص2 - كشف الغمة للإربلي، ج1، ص16

บางรายงานบันทึกไว้ว่าอิมามฮะซันเสียชีวิตในวันที่ 28 ศอฟัรเช่นกัน

อ้างอิง:
مسار الشيعة للشيخ المفيد، ص72 - مصباح المتهجد للشيخ الطوسي، ص790

และวันที่ 30 ศอฟัร เป็นที่อิมามริฎอเสียชีวิต
อ้างอิง:

الکافي للکليني، ج1، ص486 - اعلام الوري للشيخ الطبرسي، ج2، ص41 - بحار الأنوار للعلامة المجلسي، ج49، ص292

จึงอย่าได้ถามว่าทำไมในเดือนมูหัรรอมและศอฟัรพวกเรา(อิมามียะฮ)ต้องใส่สีดำต่องร้องให้แสดงความอาลัยมากกว่าแสดงความสุขและร่าเริง เพราะเดือนดังกล่าวเป็นเดือนแห่งความอาดูรของบรรดาอะลุลบัยต์ นั่นเอง.

บทความโดย เชคยูซุฟ เพชรกาหรีม

กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วย

ความคิดเห็นของผู้ใช้งานทั้งหลาย

ไม่่มีความคิดเห็น
*
*

เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม