เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม

บริบทที่ยิ่งใหญ่ที่สุดจากขบวนการปฏิวัติแห่งกัรบาลา

0 ทัศนะต่างๆ 00.0 / 5

บริบทที่ยิ่งใหญ่ที่สุดจากขบวนการปฏิวัติแห่งกัรบาลา

 

 เรื่องราวแห่งกัรบาลามีมิติต่างๆอย่างมากมาย เพื่อชี้ว่า กัรบาลา ไม่ใช่เรื่องของการฟันดาบแล้วหลั่งเลือดเพียงอย่างเดียว และแม้นกัรบาลาอาจจะเริ่มในรูปลักษณะของสงคราม แต่ความจริงแล้ว มันไม่ได้มีบริบทของสงครามเพียงอย่างเดียว

ทว่าบริบทที่แท้จริง บริบทที่ยิ่งใหญ่แห่งวีรกรรมนี้ เป็นการนำมนุษย์เข้าสู่อูบูดียะฮ์ต่ออัลลอฮ์ (ซบ.) อย่างแท้จริงและอย่างสมบูรณ์

อูบูดียะฮ์ คือ การเคารพภักดีต่ออัลลอฮ์ (ซบ.) เป็นหนึ่งเดียวอย่างแท้จริงและอย่างสมบูรณ์

 อูบูดียะฮ์ คือ การดำเนินชีวิตของเราทั้งชีวิต (รีฎอ รอฎี)พึงพอใจในสิ่งที่เอกองค์อัลลอฮ์ (ซบ.) เป็นผู้กำหนด และดำเนินชีวิตตามพระประสงค์ของพระองค์ (ซบ.) ด้วยความยินดี นั่นเอง

ข้อพิจารณา:  มีคำว่า “ด้วยความยินดี”
คำถาม จะมีใครสักกี่คนบนโลกนี้ที่ดำเนินขีวิตตามพระประสงค์ของอัลลอฮ(ซบ) ด้วยความยินดี ด้วยความสุขใจ ด้วยความพึงพอใจ พร้อมที่จะปฏิบัติทุกคำสั่งของพระองค์ ถึงแม้นว่ามันจะลำบากกายและลำบากใจขนาดไหน แต่เขาก็พร้อมที่จะปฏิบัติ

เพราะการปฏิบัติในเรื่องราวของศาสนานั้น มี 2 สิ่งที่เป็นควาามลำบาก ซึ่งในอัลกุรอ่านก็ใช้คำนี้ตลอดมา (บะซา อิวัฎฎ็อรรอ…)

๑. การลำบากใจ เช่น ถูกรบกวนใจ …
๒.ลำบากกาย เช่น ถูกทุบตี ถูกเฆี่ยน ถูกฆ่า ถูกคุมขัง ถูกจับกุม

เห็นได้ว่า ทั้ง 2 ความลำบาก อยู่ในคำว่า “ฎ็อรรอ” ฉะนั้น การนับถือศาสนาจะถูกทดสอบด้วย 2 สิ่งนี้

 บงบอกว่า ปราศจากอูบูดียะฮ์ที่แท้จริง มนุษย์ไม่มีทางที่จะรอดพ้น และชี้ไปที่บทเรียนแห่งกัรบาลาที่ยิ่งใหญ่ที่สุด คือ บทเรียนแห่งอูบูดียะฮ์นี้ และเป็นบทเรียนที่สูงกว่าทุกๆ อูบูดียะฮ์ที่มีมาในโลกนี้ อินชาอัลลอฮ์ในคืนต่อไป เราจะมาอธิบายว่ามันสูงส่งกว่าทุกๆ อูบูดียะฮ์อย่างไร

ดังนั้น อย่าได้สรุปศาสนา ด้วยกับการละหมาดครบห้าเวลา ส่วนกรณี ผู้ที่ไม่ละหมาดนั้น คงไม่ต้องไม่ต้องกล่าวถึงแล้ว เพราะไม่มีใครโชคร้ายเท่าพวกนี้อีกแล้ว เพราะเขาเกิดมาเสียชาติเกิด และอย่าได้คิดว่าเราคลุมฮิญาบแล้ว ส่วนคนที่ไม่คลุมฮิญาบก็เช่นกัน คงไม่ต้องเอ่ยถึง เพราะศาสนาไม่ได้สรุปเรื่องราวต่างๆเหล่านี้เพียงเท่านั้น

และเมื่อใดก็ตาม หากเราสรุปการทำอิบาดัต การเคารพภักดีอัลลอฮ์ (ซบ.) ในแบบดังกล่าวข้างต้น พึงรู้เถิดว่า การละหมาด ที่เราก้มๆเงยๆนั้น ไม่มีอะไรที่ต่างกันระหว่างเรากับอิบลิสเลย

และยิ่งหากเราเข้าไปในรายละเอียดการทำอิบาดัต จะพบว่า อิบลิสดีกว่าเรา เพราะอิบลิสทำอิบาดัตมากกว่าเราถึง 6,000 ปี และแน่นอนมนุษย์ไม่มีใครอายุถึง 6,000 ปี อย่างมากแค่ 100 ปี หลังจากนี้ ที่อยู่รอดก็เหลือน้อยแล้ว

ดังนั้น อย่าได้สรุปศาสนาอยู่ที่เพียงการทำละหมาดครบ หรือไม่กินเหล้า หรือคลุมฮิญาบ ฯลฯ เพราะความดีของศาสนาต้องดูที่องค์รวมทั้งหมด

ตัวอย่าง : ผู้ศรัทธาที่แท้จริงต้องอยู่ในแถวหน้าของทุกสนาม

เป็นที่น่าแปลกในเรื่องการบริจาค เรามักจะอยู่แถวหลัง ในขณะเวลาละหมาดทุกคนกลับอยากยืนอยู่แถวหน้า อาจเป็นเพราะไม่ต้องเสียเงินเสียทองและดูเท่ห์

เห็นได้ว่า ลักษณะนี้ ไม่ใช่การนับถือศาสนาที่แท้จริง

ดังนั้น ในเรื่องการบริจาค เราต้องเปลี่ยนแปลงตนเอง ด้วยการพยายามอยู่แถวหน้าของการบริจาคให้ได้ รวมไปถึงองค์รวมเมื่อพูดถึงบริบทของสิ่งหนึ่งที่อิสลามกำหนด (หากทำได้)ผู้ศรัทธาที่แท้จริง จะต้องอยู่ในแถวหน้าของทุกสนามนั่นเอง

 

บางส่วนจากการบรรยายมัจลิสมูฮัรรอมโดย ฮุจญตุลอิสลามฯ ซัยยิดสุไลมาน ฮูซัยนี

กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วย

ความคิดเห็นของผู้ใช้งานทั้งหลาย

ไม่่มีความคิดเห็น
*
*

เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม