บทความ วิเคราะห์สภาพสังคมทางการเมืองของกูฟะฮ์และเหตุหนุนนำสู่การเกิดโศกนาฏกรรมอาชูรอ ตอนที่ 7

บทความ วิเคราะห์สภาพสังคมทางการเมืองของกูฟะฮ์และเหตุหนุนนำสู่การเกิดโศกนาฏกรรมอาชูรอ ตอนที่ 7

 

اعوذ بالله من الشیطان الرجیم. بسم الله الرحمن الرحیم. قال الله الحکیم: ... انّ الله لایغیّر ما بقوم حتّی یغیّروا ما بانفسهم...

การวิเคราะห์สภาพสังคมทางการเมืองของกูฟะห์และเหตุผลหนุนนำสู่การเกิดโศกนาฏกรรมอาชูรออธิบายไปแล้วตามคำกล่าวของท่านอิมามสัจญาด(อ)ที่ได้แบ่งประชาชนของสังคมหนึ่งออกเป็น 6 ชนชั้น คือ สิงโต หม่าป่า สุนัขจิ้งจอก สุนัข สุกรและแกะ

ชนชั้นที่หก

ชนชั้นลำดับที่หกและถือเป็นชนชั้นลำดับสุดท้ายตามมุมมองทางสังคมวิทยาของท่านอิมามซัจญาด(อ.) คือ บรรดาผู้ศรัทธาที่อยู่ท่ามกลางชนชั้นของ สิงโต หมาป่า สุนัขจิ้งจอก สุนัข และสุกร ซึ่งไม่สามารถทำอะไรได้เลยไม่ว่าจะถลกหนังพวกมัน ขย้ำเนื้อและแทะกระดูก แกะถือเป็นสัตว์ที่นิ่ง สงบ และมีประโยชน์อย่างมาก เนื้อ ไขมัน นม หนัง ขน แม้กระทั่งอุจจาระของมันก็สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้จึงทำให้มันมีประโยชน์มากถึงขั้นที่สามารถกล่าวได้ว่า ทุกส่วนของมันมีประโยชน์ทั้งสิ้น

ในริวายัตดังกล่าวผู้ศรัทธาถูกเปรียบเป็นสัตว์ชนิดนี้เพราะเขามีประโยชน์อย่างที่สุดและไม่เป็นอันตรายต่อผู้ใด

มนุษย์ทุกคนปลอดภัยจากการมีจริธรรมที่ดีของเขา ทุกคนได้รับประโยชน์จากความไว้วางใจของเขาและใช้ประโยชน์จากคำแนะนำตักเตือนของเขา
แต่ทว่าแกะที่อยู่ท่ามกลางสัตว์ทั้งห้าชนิด(สิงโต หมาป่า สุนัขจิ้งจอก สุกรและสุนัข)จะทำอย่างไรและใช้ชีวิตอย่างไร?

ริวายัตต่อไปนี้จะอธิบายถึงสภาพของผู้ศรัทธาที่อยู่ในสังคมลักษณะนี้และจะตอบคำถามข้างต้น

قال رسول الله صلی الله علیه و آله: یأْتی عَلَی النَّاسِ زَمانٌ لا یسْلَمُ لِذی دینٍ، دینَهُ الّا مَنْ فَرَّ مِنْ شاهِقٍ الی شاهِقٍ اوْ حِجْرٍ الی حِجْرٍ.

ท่านศาสนทูตแห่งอัลลอฮ์(ศ็อลฯ) กล่าวว่า
“ช่วงเวลาหนึ่งจะมาถึงยังมนุษย์ซึ่งเจ้าของศาสนาจะไม่สามารถปกป้องศาสนาของตนเองได้เว้นเสียแต่ว่าต้องหนีจากยอดเขาหนึ่งไปอีกยอดเขาหนึ่งหรือไม่จากก้อนหินหนึ่งไปยังอีกก้อนหนึ่ง(จากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง)”
และท่านกล่าวต่อว่า
یأتی عَلَی النَّاسِ زَمانٌ لِانْ تَکونَ فیهِمْ جیفَةُ حِمارٍ احَبُّ الَیهِمْ مِنْ مُؤْمِنٍ یأْمُرُ بِالْمَعْرُوفِ وَ ینْهی عَنِ الْمُنْکرِ.
“ช่วงเวลาหนึ่งจะมาถึงยังมนุษย์ซึ่งซากของลานั้นดีกว่าผู้ศรัทธาที่ชักชวนสู่การทำดีและห้ามปรามการทำความชั่ว”

ท่านอิมามซอดิก(อ.)อธิบายคุณลักษณะของผู้ศรัทธาให้ อับดุลลอฮ์ อิบนิ ญุนดับ ฟังว่า

یا بنَ جُنْدَب، انَّما شیعَتُنا یعْرَفُونَ بِخِصالٍ شَتّی، بالسَّخاءِ وَ الْبَذْلِ لِلْاخْوانِ، وَ بِانْ یصِلُوا الخمسینَ لَیلًا وَ نَهارَاً، شیعَتُنا لا یهِرُّونَ هریرَ الکلْبِ، وَ لا یطْعِمُونَ طَمَعَ الْغُرابِ، وَ لا یجاوِرُونَ لَنا عَدُوّاً، وَ لا یسْأَلُونَ لَنا مُبْغِضاً وَ لَوْ ما تُوا جُوعاً

“โอ้บุตรชายของ ญุนดับเอ๋ย บรรดาชีอะห์ของเราจะถูกรู้จักด้วยกับสัญลักษณ์ต่างๆเหล่านี้
ใจกว้าง , ให้อภัยซึ่งกันและกัน , นมาซวาญิบและนมาซนาฟิละฮ์รวมกันห้าสิบรอกะอัตต่อวัน ชีอะห์ของเราจะไม่ใจร้อนท่ามกลางความหนาวเย็นเฉกเช่นสุนัขหอนและไม่เป็นดั่งอีกาที่มีความละโมบโลภมาก จะไม่พำนักอาศัยอยู่ละแวกของศัตรูของเราและทำตัวสนิทชิดเชื้อกับพวกเขาและไม่ยื่นมือขอความช่วยเหลือใดๆจากศัตรูของเราแม้ว่าพวกเขาจะต้องตายไปเพราะความหิวโหยก็ตาม”

เมื่ออิบนิ ญุนดับได้ฟังคุณลักษณะต่างๆเหล่านี้ เขาจึงถามว่า “ฉันจะหาพวกเขาเจอได้ที่ใด?”
جُعِلْتُ فِداک فَاینَ اطْلُبُهُمْ؟
อิมาม(อ)กล่าวว่า
علی رُئوُسِ الْجِبالِ وَ اطْرافِ الْمُدُنِ وَ اذا دَخَلْتَ مَدینَةً فَسَلْ عَمَّنْ یحاوِرُونَهُ فَذلِک الْمُؤْمِنُ
“บนยอดเขา ตามตรอกซอกซอย รอบๆเมืองและเมื่อเจ้าเข้าไปในตัวเมือง จงไปตามหาบุคคลที่ไม่มีผู้ใดยุ่งเกี่ยวกับเขา นั้นแหละคือผู้ศรัทธา”

อิมาม(อ)กล่าวโองการหนึ่งขึ้นว่า
وَ جاءَ مِنْ اقْصَی الْمَدینَةِ رَجُلٌ یسْعی
“และมีชายคนหนึ่งจากสุดหัวเมืองได้มาอย่างรีบเร่ง”

ท่านอิมาม(อ)ยกโองการนี้มาเป็นหลักฐานในเรื่องที่เกี่ยวกับชายแปลกหน้าที่อยู่ห่างไกลจากตัวเมืองซึ่งเขาช่วยเหลือผู้ส่งสาสน์ของพระผู้เป็นเจ้าต่อกลุ่มชนเมืองอินฏอกียะฮ์(เป็นหนึ่งในเมืองของโรมันในอดีต)

ท่านกล่าวว่า
وَ اللَّهِ لَقَدْ کانَ حَبیبُ النَّجارِ وَحْدَهُ

“ขอสาบานต่ออัลลอฮ์ แน่แท้ฮะบีบุลนัจญารโดยเดี่ยว”

ยังมีรายงานจากท่านอิมามศอดิก(อ)อีกเช่นกันว่า

الْمُؤْمِنُ فِی الدُّنْیا غریبٌ
“ผู้ศรัทธานั้นจะเดียวดายในดุนยา”

ท่านอิมามซัจญาด(อ.)เริ่มต้นริวายัตด้วยกับ «الناس فی زماننا» หมายถึง ประชาชนในยุคสมัยของเราเป็นเช่นนี้แต่ทว่าจากการค้นพบหลักฐานที่ชัดเจนและการคิดวิเคราะห์เปรียบสังคมข้างต้น เรากลับพบว่าในปัจจุบันยังมีหกชนชั้นนี้อยู่ในสังคมแต่คุณลักษณะของชนชั้นที่หก ไม่เคยพบการตอบโต้ใดๆของบรรดาผู้ศรัทธาเมื่อเผชิญกับผู้มักมาก กระหายอำนาจ กลุ่มนายทุนที่ชั่วร้ายหรือผู้มีคุณลักษณะของสุนัขจิ้งจอกที่ใช้ศาสนาเป็นเครื่องมือในการแสวงหาผลประโยชน์


สื่อที่ไร้การควบคุมและการกระจายของความโสมม

เมื่อพิจารณาพอสังเขปไปยังสังคมที่หลากหลายของโลกใบนี้จะสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าชนชั้นของบรรดาผู้ศรัทธาซึ่งเป็นที่น่าเสียดายว่าในบางสังคมพวกเขาเป็นผู้ถูกกดขี่ซึ่งการถูกเข่นฆ่าและสังหารหมู่อย่างโจ่งแจ้งและโหดร้ายทารุนของพวกเขาสร้างความเจ็บปวดให้กับหัวใจทุกดวงของมนุษย์ผู้มีเกียรติและปกติดีอยู่ ซึ่งสามารถยกตัวอย่างการสังหารชาวมุสลิมโรฮิงญา บอสเนีย ซีเรีย และอิรัก อัฟกานิสถาน เป็นต้น