“อัยยามุลฟาฏิมิยะฮ์” รำลึกถึงประมุขสตรีแห่งสากลจักรวาล [ตอนที่ 3]

บางส่วนจากการบรรยายโดย ฮุจญตุลอิสลามฯ ซัยยิดสุไลมาน ฮูซัยนี
________________
[เนื้อหาต่อจากตอนที่ 2]
••• ในพระมหาคัมภีร์อัลกรุอานจำนวนมาก เรื่องราวท่านหญิงฟาฏิมะฮ์(อ) ไม่ได้ถูกรู้จักเพียงแต่
‎ “إِنَّا أَعْطَيْنَاكَ الْكَوْثَرَ”
หรือ “إِنَّا أَنزَلْنَاهُ فِي لَيْلَةِ الْقَدْرِ”

ยังมีในพระมหาคัมภีร์อัลกรุอานอีกมากมาย ที่บรรดาอาอิมมะฮ(อ)ได้เปิดเผยความลับของโองการนี้ว่า โองการที่ยิ่งใหญ่ทั้งหมด หมายถึง ท่านหญิงฟาฏิมะฮ์(อ)
ตรงนี้ก็เพียงพอ ที่จะพิสูจน์ถึงความเป็นอัลเกาษัรที่อัลลอฮ(ซบ.)ได้สัญญากับท่านนบี หลังจากที่ท่านนบีนั้น ได้เว้นว่างจากการมีบุตร หรือมีบุตรชาย เพราะอัลลอฮ(ซบ.)ได้เอากลับไปทั้งหมด
พระองค์ได้สัญญาว่า “อัลเกาษัร”คือ “อัลเกาษัร”ที่แท้จริง
จนกระทั่ง จากโองการอัลกุรอานจาก “إِنَّا أَعْطَيْنَاكَ الْكَوْثَرَ” จนมาถึงโองการอื่นๆอีกจำนวนมาก
อินชาอัลลอฮ…ถ้ามีโอกาสก็จะบอกอีกหนึ่งโองการ สองหรือสามโองการ จริงๆแล้วนับเป็นพันๆโองการที่เกี่ยวข้องกับท่านหญิงฟาฏิมะฮ์(อ) จนกระทั่งมาถึงฮะดิษหนึ่ง เป็นฮะดิษที่พูดโดยท่านนบีมูฮัมหมัด(ศ็อล) แต่บอกความรู้สึกของอัลลอฮ(ซบ.) ให้พวกเราเข้าใจได้อย่างง่ายดาย
อีกฮะดิษหนึ่ง พยายามที่จะยกในสิ่งที่เป็นที่รู้อย่างเอกฉันท์ มีทั้งในรายงานทั้ง พี่น้องอะฮ์ลิซุนนะฮ์ /ทั้งชีอะฮ์ ก็คือ ฮะดิษที่โด่งดัง ที่ต่างกรรมต่างวาระอีกเช่นกัน แต่เป็นฮะดิษที่อยู่ในลักษณะเดียวกัน หลังจากที่ระยะเวลาหนึ่ง ความยิ่งใหญ่ของสตรีผู้นี้ได้ถูกพิสูจน์กับมวลมนุษยชาติยุคนั้นแล้ว นบีก็ได้ประกาศให้รับทราบถึงสถานภาพอันยิ่งใหญ่ เป็นฮะดิษที่ว่าด้วย:
‎«یا فاطمةُ إنّ اللهَ یَغضِبُ لِغَضَبِکِ ویَرضى لِرضاکِ»
บางครั้งพูดในลักษณะนี้ว่า…
“แท้จริงอัลลอฮ(ซบ.)นั้นทรงกริ้ว กับการกริ้วของฟาฏิมะฮ์(อ) ทรงพึงพอใจกับความพึงพอใจของฟาฏิมะฮ์(อ)”
บางครั้งก็กล่าวว่า…
“พระองค์ทรงพึงพอใจกับการพึงพอใจของฟาฏิมะฮ์(อ) และทรงกริ้วกับการกริ้วของฟาฏิมะฮ์(อ)”
ซึ่งเอ่ยชื่อท่านนบี(ศ็อลฯ)กำลังพูดแล้วผู้อื่นฟัง
ในบางฮะดิษอัลลอฮ์(ซบ.)ตรัสว่า …
ท่านนบี(ศ็อลฯ)
บอกว่า …
“ إنّ اللهَ یَرضى لِرضاکِ”
“โอ้ฟาฏิมะฮ์เอย แท้จริงอัลลอฮ์(ซบ.)นั้นพึงพอใจกับการพึงพอใจของเธอ”
หมายถึง เธอที่เป็นบุคคลที่สอง ที่เรากำลังพูดถึง คือ พูดกับท่านหญิงฟาฏีมะฮ์(อ) โดยตรง
‎“ویَغضِبُ لِغَضَبِکِ”
และก็ “ทรงกริ้วกับการกริ้วของเธอ”
ฮะดิษในลักษณะนี้นั้น ไม่ได้ถูกพูดหรือกล่าวโดยท่านรอซูลลลอฮ(ศ็อลฯ)เพียงครั้งเดียว แต่มีการกล่าวต่างกรรมต่างวาระ เป็นเหตุผลอันหนึ่งที่มีริวายัต ซึ่งอาจจะแตกต่างกันบ้างในสำนวนของภาษา ที่บ่งชี้ว่า สตรีผู้หนึ่งอยู่ในสถานภาพที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งอัลลอฮ(ซบ.) ได้ประกาศความพึงพอใจของพระองค์ต่อนาง •••
[โปรดติดตามต่อนต่อไป]