วัยรุ่นกับการศึกษาหาความรู้
วัยรุ่นกับการศึกษาหาความรู้
อิสลามได้เน้นย้ำการแสวงหาความรู้
ซึ่งความรู้ถือเป็นองค์ประกอบหนึ่งของความสำเร็จต่างๆ
ในชีวิต เนื่องว่าการที่มนุษย์คนหนึ่งจะสามารถพัฒนาตนเองไปสู่ขั้นที่สูงกว่าเดิมได้นั้น เขาจำเป็นต่อการที่ จะต้องแสวงหาความรู้ควบคู่ไปด้วยนั่นเอง
มนุษย์สามารถแสวงหาความรู้ได้ในหลายรูปแบบ
เช่น การศึกษาหาความรู้จากแหล่งข้อมูลเบื้องต้นต่างๆ
ด้วยตัวเอง ถือเป็นวิธีหนึ่งที่ทำให้มนุษย์ได้เพิ่มพูนวิชาความรู้
ในขณะเดียวกันมีโองการอัลกุรอานและฮะดิษ
จำนวนมากที่ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการหาความรู้
ดังเช่นซูเราะฟาฏิร โองการที่ 28
إِنَّمَا يَخْشَى اللَّهَ مِنْ عِبَادِهِ الْعُلَمَاءُ إِنَّ اللَّهَ عَزِيزٌ غَفُورٌ
ความหมายโองการ : บรรดาผู้ที่มีความรู้ในหมู่ปวงบ่าวของพระองค์เท่านั้นที่เกรงกลัวอัลลอฮ์ แท้จริงอัลลอฮ์นั้นเป็นผู้ทรงอำนาจ ผู้ทรงอภัยเสมอ
ในซูเราะนี้ได้กล่าวถึงปวงบ่าวที่ยำเกรงต่อพระองค์(ซบ.)ว่า เพราะพวกเขาเหล่านั้นคือผู้รู้พวกเขาจึงเกรงกลัวพระองค์(ซบ.)ผู้ไม่รู้เขาจะเกรงกลัวพระองค์ได้อย่างไร?
ในเมื่อเขาไม่รู้จักพระองค์(ซบ.)อย่างแท้จริง
และมีริวายัตที่ส่งเสริมให้มนุษย์เเสวงหาความรู้
โดยบอกถึงการเรียนรู้นั้นเริ่มได้ตั้งแต่มนุษย์ยังอยู่ในเปลจนกระทั่งถึงหลุมฝังศพแสดงให้เห็นว่ามนุษย์ควรอยู่ในการหาความรู้อยู่ตลอดเวลาแม้จะอยู่ในวัยเด็กก็ตาม อาจมีความแตกต่างในเรื่องของวิธี แสวงหาความรู้ตามช่วงวัยต่างๆ
และวัยรุ่นคือช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการเรียนรู้ เพราะเรียนรู้ได้เร็วและจดจำสิ่งต่างๆได้ดีและรักษาความทรงจำนั้นได้ดีกว่าวัยอื่น และพวกเขามีพละกำลังในการทำความเข้าใจเรื่องราวซับซ้อนได้ง่ายกว่าวัยอื่นอีกทั้งวัยรุ่นส่วนใหญ่ยังไม่มีภาระหน้าที่เรื่องราวในชีวิตให้ต้องกังวล วัยรุ่นจึงเป็นวัยที่พร้อมที่สุดสำหรับการแสวงหาความรู้ทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ
มีริวายัตจากอะมีรุลมุมินีนอะลี(อ.)กล่าวเกี่ยวกับการเรียนรู้ในวัยเยาว์ไว้ว่า
"การเรียนรู้ในวัยเยาว์เปรียบเหมือนการสลักบนโขดหิน"
สาเหตุที่เปรียบการเรียนรู้
บนโขดหินนั้น เพราะว่า
การเรียนของวัยเยาว์เหมือนการสลักสิ่งนั้นบนหินไว้ตลอด ยากที่จะลบออกจนกว่ามันจะเลือนลางเอง "แต่การเรียนรู้ในวัยชราเปรียบเหมือนการเขียนบนผิวน้ำ"
ทันทีที่เขียนข้อความนั้นลงไปก็จะถูก
กระแสน้ำลบไปอย่างรวดเร็ว ไม่สามารถรักษาสิ่งที่เขียนไปให้คงทนอยู่ได้
การขัดเกลาตนในวัยรุ่นเป็นเรื่องง่ายกว่าวัยอื่นๆ
วัยรุ่นเป็นวัยที่สำคัญสำหรับการขัดเกลาตนเองเพราะ วัยรุ่นมีจิตใจที่บริสุทธิ์ปราศจากความโลภ ความอยากได้ในดุนยายังไม่มาก
ไม่หมกมุ่นอยู่กับการแสวงหาปัจจัยยังชีพ
ยังไม่มีเรื่องการแข่งขันชิงดีชิงเด่นเข้ามาในชีวิตบวกกับความอยากรู้อยากลองของวัยนี้ทำให้มีพื้นฐานพร้อมที่จะรับสิ่งดีได้ง่าย
ฉะนั้นหน้าที่หลักของวัยรุ่นคือการตั้งใจเรียนควบคู่กับการขัดเกลาตนเองและการจะไปถึงความสำเร็จทุกอย่างต้องอาศัยเวลาและความพยายามพร้อมด้วยกับการวางเป้าหมายที่ชัดเจน ซึ่งเป้าหมายที่เราได้บอกไว้คือการตั้งใจเรียนพร้อมกับการขัดเกลาตนเอง ซึ่งบรรดาผู้รู้มักจะเน้นย้ำแก่บรรดาหนุ่มสาวอยู่เสมอ
หนึ่งในคำชี้นำหนึ่งของ
ท่านผู้นำสูงสุดท่านซัยยิดอะลีคาเมเนอี คือ
การกำชับบรรดาวัยรุ่นกับสามสิ่งคือ
1.การศึกษา
2.กีฬา
3.การขัดเกลาตนเอง
ทั้งสามสิ่งนี้ต้องควบคู่กันไป หากมีการศึกษาสูงแต่ไม่มีจริยธรรมก็ไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย หรือหากมีมรรยาทดีแต่ไม่ได้ควบคู่ไปกับความรู้ก็ไม่เป็นที่แน่ใจว่าความดีนั้นถูกตามหลักการรึเปล่าและหากมีทั้งจริยธรรมและพื้นฐานความรู้ดีแต่ร่างกายอ่อนแอเราก็จะไม่สามารถให้ประโยชน์แก่สังคมอย่างเต็มศักยภาพได้นั่นเอง
ผลกระทบที่อาจพบได้ระหว่างการศึกษาที่เป็นสาเหตุทำให้วัยรุ่นหันเหไปจากเป้าหมายเดิม
1.การใช้ชีวิตห่างไกลจากครอบครัวทำให้วัยรุ่นห่างจากการดูแลเอาใจใส่ที่ครอบคลุม
ห่างจากการได้รับคำตักเตือนจากผู้ใหญ่
ถ้าหากอยู่ในสังคมที่เหมาะสมก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าห่วง
แต่หากเป็นสังคมที่ไม่ปลอดภัย แน่นอนว่าอาจส่งผลกระทบต่อชีวิตพวกเขาได้
แต่ในขณะเดียวกันก็ขึ้นอยู่กับตัวบุคคลว่าเขาให้ความสำคัญกับเป้าหมายของตนเองมากแค่ไหน ความพยายามและการไม่ลืมเป้าหมายคือสิ่งสำคัญที่จะผลักดันให้พวกเขายึดมั่นในเป้าหมายของตน.
2.การคบเพื่อน
ถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุดเพราะเพื่อนมีอิทธิพลกับ
วัยรุ่นมาก ดังนั้นจึงสามารถพบเห็นวัยรุ่นที่เชื่อเพื่อนมากกว่าพ่อแม่ตนเอง เกรงใจเพื่อนมากกว่า
คนในครอบครัว เพราะเพื่อนเป็นเรื่องสำคัญสำหรับวัยรุ่น เพื่อนไม่ใช่แค่คนรู้จักแต่ถือเป็น
มิตรภาพและความเข้าใจ
คนเรามักได้รับความเห็นอกเห็นใจจากเพื่อนในยามทุกข์ยาก และเพื่อนที่ดีก็จะนำพาเพื่อนด้วยกัน
ไปสู่แนวทางที่ดี แต่ในทางกลับกันหากเพื่อนไม่ดีก็อาจพากันไปสู่หนทางเสียหายได้ การเลือกคบเพื่อนจึงมีผลสำคัญเช่นกัน
3.การไม่ใช้เวลาให้เป็นประโยชน์
การไม่มีภาระในการหารายได้หรือไม่มีครอบครัวให้ดูแลคือนาทีชีวิตที่มีค่าของวัยรุ่น
เพราะพวกเขาไม่ต้องใส่ใจเรื่องราวที่หนักหนา นอกจากดูแลตัวเอง การเก็บเกี่ยวเวลาในช่วงนี้นับเป็นสิ่งที่สมควรทำอย่างยิ่ง หากใช้เวลาทองที่มีค่าไปในทางที่ไร้ประโยชน์
เช่น การใช้เวลาอยู่กับโทรศัพท์มือถือนานๆ
จะทำให้เสียเวลาไปเฉยๆ ซึ่งสื่อเหล่านี้คือดาบสองคม ให้ทั้งโทษและประโยชน์แก่ผู้ใช้
ขึ้นอยู่กับผู้ใช้งานว่าจะเลือกใช้ไปในด้านใด
หากเลือกใช้มันไปในทางเพลิดเพลินที่เกินขอบเขต อาจรบกวนการเรียนของเหล่าเยาวชนและอาจเป็นเหตุให้ความสัมพันธ์ภายในครอบครัวบกพร่องลง
วิธีใช้สื่อเหล่านี้ให้ได้
ประโยชน์ คือการใช้ไปในทางที่
จำเป็น ไม่รบกวนเวลาการศึกษา
และขัดเกลาตน และใช้มันไปในการหาความรู้นอกจากจะไม่เสียเวลาแต่ก็ยังได้รับประโยชน์อีกด้วย ทั้งนี้ทั้งนั้นหากเยาวชนทุ่มเทให้ทั้งสามนี้อย่างพอเหมาะพอดีเขาก็จะประสบความสำเร็จได้อย่างแน่นอน อีกทั้งจิตวิญญาณของเขาก็จะได้รับการพัฒนาไปด้วย
ที่มา Almahdiyah Student Club Thailand