เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม

มนุษย์ คือ คนสองโลก

0 ทัศนะต่างๆ 00.0 / 5

มนุษย์ คือ คนสองโลก


เป็นที่ทราบกันดีว่า มีทัศนะเเตกต่างกันอย่างมากมาย ที่กล่าวเกี่ยวกับธรรมชาติของมนุษย์
ดังนั้นข้าพเจ้าจะขอหยิบยกมาเพียงสองทัศนะที่ยืนยันถึงความตรงกันข้ามอย่างชัดเจนดังต่อไปนี้ 
1. ตามทัศนะของจิตนิยมได้กล่าวว่า
"มนุษย์คือส่วนประกอบของร่างกายและจิตวิญญาณอย่างแท้จริง วิญญาณมีความเป็นนิรันดร์ดรและไม่บุบสลายไปพร้อมกับความตาย"
ในขณะที่ศาสนาอิสลามก็ได้มีการกล่าวยืนยันต่อทฤษฎีนี้ไว้แล้วอย่างชัดเจน 
2. ตามทัศนะของวัตถุนิยมได้กล่าวว่า
มนุษย์ประกอบด้วยเครื่องจักรกลไกลของร่างกายเพียงเท่านั้นซึ่งจะถูกทำลายไปพร้อมกับความตาย
ซึ่งศาสนาที่จะมาสร้างอารยธรรมและความสูงส่งที่แท้จริงให้แก่มนุษย์นั่นก็คือ ศาสนาอิสลาม
โดยคำสอนต่างๆของอิสลามจะทำให้มนุษย์ประสบความสำเร็จในการเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์อย่างแท้จริง 
มนุษย์ถูกแบ่งออกเป็นสองภาค
1.ภาคของกายหยาบ
กายหยาบ(ร่างกาย)ที่พระเจ้ามอบให้แก่มนุษย์
นั้นมีความจำเป็นต่อการพักผ่อนและการได้รับสารอาหาร 
2.ภาคญาณทิพย์(จิตวิญญาณ)
ญาณทิพย์ของมนุษย์(จิตวิญญาณ)
ก็จำเป็นต่อการได้รับสารอาหารเช่นเดียวกัน เช่น
การแสวงหาความรู้
ทำการเคารพภักดีพระผู้เป็นเจ้า เป็นต้น 
ด้วยกับเหตุนี้มนุษย์จำเป็นที่จะต้องระมัดระวังทุกย่างก้าวในชีวิตของเขาให้ดี
ว่าสิ่งที่ได้กระทำลงไปนั้นมีประโยชน์ทางด้าน
ดุนยาและอาคิเราะหรือไม่
ให้คุณหรือโทษต่อกายหยาบหรือญาณทิพย์ของเขาอย่างไร
รูปแบบต่างๆของการอิบาดะฮ์และแง่มุมต่างๆของการเคารพภักดีพระผู้เป็นเจ้าในอิสลาม 
การเคารพภักดีพระผู้เป็นเจ้านั้นไม่เพียงเเต่จะอยู่เฉพาะ
ในส่วนของการนมัสการพระผู้เป็นเจ้าเท่านั้น แต่ทว่ามันยังครอบคลุมไปยังทั้งหมดของการดำเนินชีวิตของมนุษย์อีกด้วย ดังนั้นการงานใดก็ตามที่มนุษย์ปฏิบัติ โดยมีเจตนาเพื่อแสวงหาความใกล้ชิดต่อพระผู้เป็นเจ้า
การงานนั้นก็ถือว่าเป็นการเคารพภักดีพระผู้เป็นเจ้าอย่างหนึ่งด้วยเช่นกัน 
ตัวอย่างการทำอิบาดะฮ์ในอิสลาม
1.การละทิ้งความชั่ว 
ไม่ใช่เป็นเพียงอิบาดะห์ธรรมดาเท่านั้นแต่ถือว่าเป็นอิบาดะห์ที่สำคัญอย่างยิ่งเลยทีเดียวก็ว่าได้           
2.การแสวงหาความรู้และการนำไปใช้ประโยชน์อย่างถูกต้อง 
ท่านศาสนทูตแห่งอัลลอฮ์ (ศ็อลฯ)ได้กล่าวว่า : 
ผู้ใดก็ตามที่ออกจากบ้านไปเพื่อแสวงหาความรู้หนึ่งๆ โดยประสงค์ที่จะทำลายความมดเท็จให้หมดไปและทำให้สัจธรรมกลับคืนมาและทำให้ผู้หลงผิดกลับสู่ทางนำและการกระทำของเขาดังกล่าวนี้เทียบเท่ากับการทำอิบาดัตถึง 40 ปี 
3.การรอคอยการคลี่คลายความทุกข์ยาก    
 รายงานจากท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ็อลฯ) : 
อิบาดะห์ที่ประเสริฐที่สุดคือการรอคอยการคลี่คลายความทุกข์ยาก
(การปรากฏตัวของท่านอิมามมะฮฺดี(อญ.) 
 รายงานจากท่านอิมามมูซา อัลกาซิม(อ): 
อิบาดะห์ที่ประเสริฐที่สุดภายหลังจากการรู้จักอัลลอฮ์(ซ.บ.) คือ การรอคอย
(อินติซอรุลฟะญัร)                  
เป็นที่ประจักษ์ชัดเจนยิ่งขึ้นว่า จุดประสงค์การรอคอยการคลี่คลายความทุกข์ยากนั้นไม่ใช่แค่เพียงการนั่งหรือนอนรอคอยการปรากฏตัวของท่าน
อิมามมะฮฺดี(อ.ญ.)เพียงอย่างเดียว แต่จุดประสงค์คือความอุตสาหะพยายามเเละจัดการเตรียมความพร้อมสำหรับการมาปรากฏกาย
ของท่านอิมาม(อญ.)และนั่นคือการที่มนุษย์จะต้องเตรียมความพร้อมให้เเก่ตนเองเพื่อที่จะต่อสู้เคียงข้าง
ท่านอิมามซะมาน(อญ.) 
ความสมบูรณ์ของการอิบาดะฮ์ 
การอิบาดะห์ทั้งมวล มิได้ตั้งอยู่บนความสมบูรณ์ในระดับเดียวกัน ทว่า ณ พระผู้เป็นเจ้าการอิบาดะฮ์บางประการมีความสูงส่งกว่าอีกบางประการ 
เมื่อพิจารณาตามเงื่อนไขต่างๆก็จะเห็นมนุษย์ที่มีระดับความสมบูรณ์ที่แตกต่างกันออกไป 
 ตัวอย่าง
1.การอิบาดะฮ์โดย มีความรู้และความเข้าใจในทัศนะของอิสลามการเคารพภักดีของผู้มีความรู้กับผู้ไม่มีความรู้ มิได้วางอยู่บนรากฐานของความสมบูรณ์เเบบในระดับเดียวกัน
 ในวจนะบทหนึ่งจากท่านอิมามอะลี(อ.) ได้กล่าวว่า: 
การนมาซสองรอกาอัตของผู้ที่มีความรู้มีความดีงามมากกว่าการนมาซของผู้ที่ไม่มีความรู้ถึงเจ็ดสิบรอกาอัต 
2.ความบริสุทธิ์ใจในการทำอิบาดะฮ์ 
ความบริสุทธิ์ใจ หมายถึง การที่มนุษย์จะปฎิบัติการงานของเขาเพื่อผู้อภิบาลผู้ทรงเอกะเพียงเท่านั้น  คุณลักษณะเช่นนี้คือเคมีอย่างหนึ่งที่จะเพิ่มคุณค่าให้แก่การงานของมนุษย์ (อะมั้ล)บางการงานที่เล็กน้อยอย่างนึงจะมีคุณค่าสูงส่งได้ด้วยกับความอิคลาส ในทางตรงกันข้ามอะมั้ล(การงาน)
ที่ใหญ่โต แต่ขาดความบริสุทธ์ใจในเจตนานั้นก็ไม่ได้มี
คุณค่าใดๆ 
3.การทำอิบาดะฮ์ที่ยากลำบาก  
การเคารพภักดีต่างๆที่ทำได้ด้วยความง่ายดายโดยทั่วไปแล้วทุกคนสามารถกระทำได้ในทางตรงกันข้ามการงานที่ยากกว่าความเหนื่อยยากจากการปฏิบัติย่อมมีมากกว่าต้องอาศัยความมุ่งมั่นและความเพียรพยายามที่สูงกว่าและท้ายที่สุดผลรางวัลของมันย่อมมีมากกว่าด้วยเช่นกัน       
4.การเคารพภักดีด้วยความรักและผูกพันต่อพระผู้เป็นเจ้า 
การอิบาดะห์ ที่กระทำโดยเกิดจากความรักและความผูกพันที่มีต่อพระผู้เป็นเจ้าเป็นการขอบคุณต่อความโปรดปรานต่างๆของพระองค์ไม่ใช่เป็นการทำอิบาดะห์ ที่กระทำด้วยความกระหายต่อสรวงสวรรค์หรือเกิดจากความหวัดกลัวต่อไฟนรกเท่านั้น
โรคร้ายต่างๆของการอิบาดะฮ์ 
ตรงกันข้ามกับสิ่งที่เป็นสาเหตุแห่งความสมบูรณ์ของการงานยังมีสื่อต่างๆอีกมากมายที่สามารถกล่าวถึงซึ่งมันจะเป็นสาเหตุทำให้การงานต่างๆของเราเป็นโมฆะตัวอย่างเช่น 
1.ความชั่วซึ่งจะเป็นสาเหตุทำให้การงานของเราไร้ผลหรือมีคุณค่าน้อยลงเช่น
ความอิจฉาริษยา
การนินทา
การทำร้ายจิตใจของพ่อแม่จะเป็นสื่อทำให้การงานของเราเป็นโมฆะ 
ความเป็นสายกลางในการทำอิบาดะฮ์ 
ความพอเหมาะพอควรและการเดินทางสายกลางคือรากฐานของบรรดาการงานโดยทั่วไป 
ริวายัตต่างๆ ได้สั่งเสียให้เราหลีกเลี่ยงจากความสุดโต่งด้านใดด้านหนึ่งในทุกๆเรื่องรวมถึงเรื่องของการทำอิบาดะห์  
ท่านอิมามอะลี(อ.) ได้สั่งเสียเเก่บุตรชายของท่านก่อนจะเป็นชะฮีด ด้วยประโยคหนึ่งว่า
" โอ้ลูกรักของพ่อจงยึดความเป็นทางสายกลางในการดำเนินชีวิตของเจ้า" 
ตามที่ได้กล่าวไปทั้งหมดมีเนื้อหาอีกมากมายที่ไม่สามารถนำเสนอได้ทั้งนี้ทั้งนั้นอยากย้ำเตือนตัวผู้พูดและผู้ฟังให้ตระหนักว่าเราต้องจากโลกนี้ไปดังนั้นเราควรระมัดระวังทุกๆการกระทำของเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเนื้อหาในวันนี้จะเป็นประโยชน์แก่ทุกท่าน 
ที่มา Almahdiyah Student Club Thailand

กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วย

ความคิดเห็นของผู้ใช้งานทั้งหลาย

ไม่่มีความคิดเห็น
*
*

เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม