วิเคราะห์เรื่องราวของอิมามมะฮ์ดี ตอนที่ 1

วิเคราะห์เรื่องราวของอิมามมะฮ์ดี ตอนที่ 1

 

1. การถือกำเนิดของอิม่ามมะฮ์ดี อะลัยฮิสสลาม

อิมามมะฮ์ดี เป็นบุตรของอิมามฮาซัน อัสกะรี่ (อ)
เกิดช่วงเช้าของวันศุกร์ที่ ๑๕ เดือนชะอ์บาน ฮ.ศ. ๒๕๕ /ค.ศ ๘๖๙
ที่เมืองซะมัรรอ (ซะมาร่า) ประเทศอิรัก

อาจมีรายงานแตกต่างกันในเรื่องนี้แสดงให้เห็นว่า การเกิดของอิมามมะฮ์ดี มีการปกปิดไว้เป็นความลับ

ตำราประวัติศาสตร์อิสลาม(ตารีค)ได้ให้การยอมรับเรื่องการเกิดของอิมามมะฮ์ดี นอกเหนือจากที่บรรดาอิมามแห่งอะฮ์ลุลบัยต์(อ)และบรรดานักปราชญ์ชีอะฮ์แล้ว ยังมีนักปราชญ์ซุนนี่เป็นจำนวนมากได้ยืนยันเรื่องนี้ เป็นจำนวนถึง ๖๕ คน

2. ชื่อของอิมามมะฮ์ดี(อ)

ชื่อของเขาคือ “ มุฮัมมัด ” นั่นคือ ชื่อท่านศาสดามุฮัมมัด(ศ) ซึ่งเป็นปู่ทวดของเขานั่นเอง

บรรดานักประวัติศาสตร์อิสลามและนักฮะดีษมีความเชื่อตรงกันว่า ท่านนบีมุฮัมมัด(ศ)ได้ตั้งชื่อมุฮัมมัดนี้ไว้ให้ และการตั้งชื่อนี้ก็เป็นเรื่องที่มีหลักฐาน ยิ่งกว่านั้น ยังมีนัยยะอีกอย่างหนึ่งคือ นบีมุฮัมมัด(ศ)คือผู้ที่ได้นำมนุษยชาติออกจากความหลงผิดและความงมงาย
และอิมามมะฮ์ดี อะฮ์ลุลบัยต์ของท่าน ก็จะเป็นผู้ที่นำมนุษยชาติออกจากความหลงผิดและความงมงาย เช่นกัน

3. สมญานามของอิมามมะฮ์ดี(อ)

สมญานามอันที่รู้จักของเขาคือ มะฮ์ดี(ผู้นำทาง),กออิม(ผู้ดำรงอยู่),มุนตะซ็อร(ผู้ถูกรอคอย),ฮุจญะฮ์(ผู้เป็นข้อพิสูจน์) คอละฟุซ-ซอและห์(ตัวแทนของผู้ประเสริฐ),บะกียะตุลลอฮ์(มรดกของอัลลอฮ์),มันศูร(ผู้ได้รับการสนับสนุน),ศอฮิบุลอัมริ(ผู้มีอำนาจปกครอง),วะลียุลอัศริ(ผู้ปกครองแห่งยุคสมัย),ซอฮิบุซ-ซะมาน(จ้าวแห่งกาลเวลา) แต่ที่แพร่หลายที่สุด คือ อัลมะฮ์ดี

แต่ละนามนั้น จะมีความหมาย เช่น ที่
มะฮ์ดี เพราะว่า เขาจะนำทางสู่สัจธรรม
กออิม เพราะเขาเป็นผู้ทำให้สัจธรรมดำรงอยู่
ฮุจญะฮ์ เพราะเขาคือข้อพิสูจน์ของอัลลอฮ์แก่สิ่งถูกสร้างทั้งหลาย

แหวนของอิมามมะฮ์ดี มีคำสลักเขียนว่า

أنا حجة الله و خاصته

อะนา ฮุจญะตุลลอฮ์ วะ คอศเศาะติฮี
 
ฉันคือข้อพิสูจน์ของอัลลอฮ์ และ ผู้ใกล้ชิดของพระองค์

4. มารดาของอิมามมะฮ์ดี

อัลมัสอูดี(นักประวัติศาสตร์)กล่าวว่า นางมีชื่อว่า นัรญิส
ชะฮีด เอาวัลกล่าวว่า นางมีชื่อว่า มัรยัม บินติ เซด อัลอะละวียะฮ์ อัลฟาฎิละฮ์
เชคตูซี กล่าวว่า นางชื่อ ร็อยฮานะฮ์ ,ซ่อกีล และ ซูซัน
เชคมุฟีด มีบันทึกในรายงานบทหนึ่งว่า  นางฮะกีมะฮ์ ป้าของอิมามฮะซัน อัสกะรี(อิมามที่ 11)กล่าวถึงชื่อนี้

วิเคราะห์

มารดาของอิมามมะฮ์ดีชื่อ นัรญิส ส่วนชื่ออื่นๆนอกเหนือจากชื่อซ่อกีลแล้ว นางฮะกีมะฮ์ บุตรีของอิมามมุฮัมมัดญะวาด(อิม่ามที่ 9) ได้ใช้เรียกนางเอง
เชคศอดูก ได้รายงานไว้บทหนึ่งว่า มารดาของอิมามมะฮ์ดี เป็นธิดาของกษัตริย์โรม และมารดาของนางสืบเชื้อสายมาจากชัมอูนอัซซอฟา สาวกผู้ใกล้ชิดคนหนึ่งของนบีอีซา(อ) นางได้ถูกจับเป็นเชลยของกองทัพอิสลาม เนื่องด้วยนางมีรูปโฉมงดงาม ทูตของอิมามอาลีฮาดี(อิม่ามที่ 10)จึงซื้อนางมา จากตลาดขายทาส “นะคอซีน”ที่เมืองแบกแดด และได้ส่งนางไปให้อิมามอาลีฮาดี(อ)ที่เมืองซะมัรรอ

นางฮะกีมะฮ์ (ผู้เป็นป้าของฮาซันอัสกะรี่ อิม่ามที่ 11) ได้สนทนากับนางนัรญิสในวาระหนึ่งโดยกล่าวว่า
أنْتِ سَيِّدَتِي وَسَيِّدَةُ أَهْلِيْ
เธอคือนายของฉัน และนายของคนในครอบครัวของฉัน
และนางฮะกีมะฮ์ยังกล่าวอีกว่า
أنا أخدمك على بصري
ฉันจะต้องรับใช้เธอ บนความ บะซิเราะฮ์ ของฉัน

แน่นอนท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ) ท่านอะลี และบรรดาอิมามแห่งอะฮ์ลุลบัยต์(อ)ถือว่า นัรญิสเป็นบ่าวที่ประเสริฐและมีความดีเลิศที่สุด

ริวายัตที่เล่าถึงเหตุการณ์การถือกำเนิดของอิมามมะฮ์ดี อะลัยฮิสสลาม

เชคศอดูก บันทึกไว้ในหนังสือ กะมาลุดดีน หน้า  424 – 426 ฮะดีษที่ 1
บาบที่ 42 สิ่งที่รายงานถึงการถือกำเนิดของอิม่ามมะฮ์ดี(อิม่ามที่12) บุตรอิม่ามฮาซันอัสการี(อิม่ามที่ 11)

นางฮะกีมะฮ์ บุตรีของอิม่ามมุฮัมมัดญะวาด(ป้าของอิมามฮาซันอัสการี) ได้เล่าว่า  

بعث إلي أبومحمد الحسن بن علي عليهما السلام فقال: ياعمة اجعلي إفطارك هذه الليلة عندنا

อิมามฮะซันอัสการี(อ) ได้ส่งคนมาบอกฉันว่า โอ้ป้าเอ๋ย คืนนี้ โปรดทำอาหารของท่าน(ไว้ละศีลอด) แล้วอยู่กับเราด้วยเถิด
فإنها ليلة النصف من شعبان فإن الله تبارك وتعالى سيظهر في هذه الليلة والحجة وهو حجته في أرضه
เพราะนี่เป็นคืนที่ 15 ของเดือนชะอ์บาน แท้จริงอัลลอฮ์ ตะอาลา จะทรงทำให้อัลฮุจญะอ์(อัลมะฮ์ดี)ปรากฏ(ถือกำเนิดขึ้น)ในคืนนี้ และเขาคือ ฮุจญะฮ์-ข้อพิสูจน์ของอัลลอฮ์ ในแผ่นดินของพระองค์

นางฮะกีมะฮ์เล่าว่า แล้วฉันได้กล่าวกับเขาว่า
و من امه؟ قال لي: نرجس، قلت له: جعلني الله فداك ما بها أثر
แล้วแม่ของเขาคือใครล่ะ ? เขาได้ตอบฉันว่า คือ นัรญิส ฉันกล่าวกับเขาว่า อัลลอฮ์ทรงกำหนดให้ฉันยอมพลีมอบแด่บุตรที่เกิดจากนาง

อิมามฮาซันอัสกะรีได้กล่าวอีกว่า
นั่นคือ สิ่งที่ฉันจะพูดกับท่าน นางฮเกีมะฮ์เล่าอีกว่า แล้วฉันได้มาหานาง(นัรญิส) เมื่อฉันได้ให้สลามแล้วนั่งลง นางก็เข้ามาหาอย่างนิ่มนวล แล้วนางพูดกับฉันว่า
ياسيدني وسيدة أهلي كيف أمسيت
โอ้นายของฉัน และนายหญิงของครอบครัวของฉัน ท่านสบายดีหรือ
فقلت: بل أنت سيدتي وسيدة أهلي، قالت: فأنكرت قولي وقالت: ماهذا ياعمة
ฉันจึงตอบนางว่า หามิได้ เธอนั่นแหล่ะ คือนายของฉัน และนายของครอบครัวของฉัน นางฮะกีมะฮ์เล่าว่า เธอไม่ปรารถนาคำพูดของฉัน แล้วกล่าวว่า  อะไรกันนี่ ท่านป้า
قالت: فقلت لها: يابنية إن الله تعالى سيهب لك في ليلتك هذه غلاما سيدا في الدنيا والآخرة
นางฮะกีมะฮ์เล่าว่า แล้วฉันกล่าวกับนางว่า โอ้ลูกสาว อัลลอฮ์จะทรงประทานบุตรให้เธอ ในคืนนี้ เป็นทารกชาย เป็นประมุขทั้งในโลกดุนยาและอาคิเราะฮ์

นางฮะกีมะฮ์เล่าว่า ดังนั้นนางนัรญิส รู้สึกขวยเขินและสะเทิ้นอาย ครั้นเมื่อ ถึงยามดึกของคืนนั้น ฉันได้ลุกขึ้นไปทำนมาซ เมื่อฉันนมาซเสร็จแล้ว ปรากฏว่านางนอนหลับอยู่ โดยไม่มีเหตุการณ์ใดๆ หลังจากนั้น ฉันได้นั่งหันหลังให้ แล้วนอนตะแคงหลับไป หลังจากนั้นฉันก็ตกใจตื่นขึ้นมา เมื่อเห็นนางลุกขึ้นนั่งแล้วยืนทำนมาซและนอนหลับต่อไป
قالت حكيمة: وخرجت أتفقد الفجر فاذا أنا بالفجر الاول كذنب السرحان وهي نائمة فدخلني الشكوك
นางฮะกีมะฮ์เล่าว่า  ขณะที่ฉันออกมาเวลาฟาญัรนั้น แสงอรุณครั้งที่หนึ่งเพิ่งจะปรากฏ นางก็ยังหลับอยู่ ฉันจึงรู้สึกสงสัย
فصاح بي أبو محمد(ع) من المجلس فقال: لا تعجلي يا عمة فهاك الامر قد قرب
แล้วอิมามฮาซันอัสกะรี ได้เรียกฉันจากที่นั่ง เขากล่าวว่า อย่าเพิ่งผละจากฉันไปไหน เลยโอ้ท่านป้า เหตุการณนั้นกำลังใกล้เข้ามาแล้ว
قالت: فجلست وقرأت الم السجدة ويس، فبينما أنا كذلك إذا انتبهت فزعة فوثبت إليها فقلت: اسم الله عليك، ثم قلت لها: أتحسين شيئا
นางฮะกีมะฮ์เล่าอีกว่า ฉันได้นั่งลง แล้วอ่านซูเราะฮ์ อะลีฟ ลาม มีม ซัจญะดะฮ์ และซูเราะฮ์ยาซีน ในระหว่างนั้นเอง ฉันได้ยินเสียงทำให้ตกใจ แล้วฉันรีบผลุนผลันไปหานาง แล้วกล่าวว่า พระนามของอัลลอฮ์อยู่กับเธอ เธอรู้สึกดีกับอะไรบางอย่างไหม
قالت: نعم ياعمة، فقلت لها: اجمعي نفسك واجمعي قلبك فهو ماقلت لك
นาง(นัรญิส)กล่าวว่า ใช่แล้ว ท่านป้า ฉันจึงกล่าวกับนางอีกว่า จงรวบรวมกำลังกายและกำลังใจของเธอเข้าด้วยกัน นั่นคือ สิ่งที่ฉันจะบอกกับเธอ
قالت: فأخذتني فترة وأخذتها فترة فانتبهت بحس سيدي فكشفت الثوب عنه فإذا أنا به عليه السلام ساجدا يتلقي الارض بمساجده فضممته إلى فإذا أنابه نظيف متنظف
นางฮะกีมะฮ์เล่าว่า ฉันกับนางทำธุระกันอยู่พักหนึ่งเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แล้วฉันก็หันมาให้ความสนใจที่จะสัมผัสต่อนายน้อยของฉัน(อิมามมะฮ์ดี ขณะเป็นทารก) ฉันจึงเปิดผ้าออก ฉันได้เห็นเขาอยู่ในท่าสุญูด โดยเขาได้ลงไปยังพื้นดินเพื่อทำเป็นที่กราบของเขา แล้วฉันก็ได้เอาเขาเข้ามาสวมกอด ทันใดนั้น ฉันรู้สึกได้ถึงความสะอาด เกลี้ยงเกลาหมดจด
ฝ่ายอิมามฮะซันอัสกะรีได้ร้องเรียกหาฉันว่า โปรดนำบุตรของฉันมาหาฉันหน่อยเถิด ท่านป้า แล้วฉันได้นำทารกไปวางลงต่อหน้าเขา (เพื่อให้ประจักษ์แก่สายตา และให้เขาได้ยินเสียง)
แล้วอิม่ามฮาซันอัสการี(อ)ได้กล่าวว่า
تكلم يا بني فقال: أشهد أن لاإله إلا الله وحده لاشريك له، وأشهد أن محمدا رسول الله
โอ้ลูกรักของพ่อ จงพูดซิ แล้วทารกน้อยได้กล่าวว่า  ฉันขอปฏิญาณตนว่า ไม่มีพระเจ้าอื่นใด นอกจากอัลลอฮ์ ผู้ทรงเอกะ ไม่มีภาคีใดๆสำหรับพระองค์ และฉันขอปฏิญาณตนว่า มุฮัมมัด เป็นศาสนทูตของอัลลอฮ์
ثم صلى على أمير المؤمنين وعلى الائمة عليهم السلام إلى أن وقف على أبيه
แล้วทารกได้กล่าวซอลาวาตให้แก่ท่านอะมีรุลมุมินีนและบรรดาอิมาม(อ)จนกระทั่งไปหยุดที่ชื่อบิดาของเขา(คืออิมามฮาซันอัสกะรี)

ต่อจากนั้น อิม่ามฮาซันอัสกะรี(อ)ได้กล่าวว่า
يا عمة اذهبي به إلي امه ليسلم عليها وائتني به، فذهبت به فسلم عليها ورددته فوضعته في المجلس ثم قال: ياعمة إذا كان يوم السابع فأتيني به
โอ้ท่านป้า โปรดพาเขาไปหามารดาของเขาเถิด เพื่อให้เขากล่าวสลามแก่นาง แล้วให้นำเขามาหาฉันอีก แล้วฉัน(ฮะกีมะฮ์)ก็ได้พาทารกน้อยไปหามารดาของเขา แล้วเขาก็ได้ให้สลาม เมื่อนางตอบรับสลามแล้ว ฉันก็ได้วางเขาลงในสถานที่นั่ง จากนั้น อิมามฮาซันอัสกะรีได้กล่าวว่า โอ้ท่านป้า เมื่อถึงวันที่ 7 จงพาเขามาหาฉัน
นางฮะกีมะฮ์ได้กล่าวอีกว่า  
فلما أصبحت جئت لاسلم على أبي محمد عليه السلام وكشفت الستر لا تفقد سيدي عليه السلام فلم أره
ครั้นถึงเวลาเช้า ฉันพาทารกมาส่งให้อิม่ามฮาซันอัสกะรี และฉันได้เปิดม่านเพื่อมองดู นายน้อยของฉัน แต่ฉันมองไม่เห็นเขา

فقلت: جعلت فداك مافعل سيدي
ฉันจึงกล่าวว่า ชีวิตข้าขอพลีแด่ท่าน นี่มันเกิดอะไรขึ้น โอ้นายน้อยของฉัน
فقال: ياعمة استود عناه الذي استودعته أمُّ موسى موسى عليه السلام
อิมามฮาซันอัสกะรีกล่าวว่า โอ้ท่านป้า เราต้องลาจากกับเขา เช่นเดียวกับมารดาของนบีมูซา ที่ต้องลาจากนบีมูซา
นางฮะกีมะฮ์ เล่าว่า
فلماكان في اليوم السابع جئت فسلمت وجلست فقال: هلمي إلي ابني، فجئت بسيدي عليه السلام وهو في الخرقة ففعل به كفعلته الاولى، ثم أدلي لسانه في فيه كأنه يغذ يه لبنا أوعسلا
พอถึงวันที่ 7 ฉันได้มาอีก ฉันได้ให้สลามแล้วนั่งลง อิมามฮาซันอัสกะรีกล่าวว่า โปรดนำบุตรชายของฉันมาหาฉันเถิด แล้วฉันก็ได้นำนายน้อยของฉันมา ในสภาพที่อยู่ในผ้าอ้อม แล้วเขาได้ทำเช่นเดียวกับที่ฉันได้ทำในหนแรก จากนั้นอิมามฮาซันอัสกะรีได้สอดลิ้นของเขาไปในปากของทารก ซึ่งดูเหมือนท่านได้ให้อาหารแก่ทารกเป็นนมหรือน้ำผึ้งนั่นเอง
ثم قال: تكلم يابني، فقال: أشهد أن لا إله الا الله وثني بالصلاة على محمد وعلى أمير المؤمنين وعلى الائمة الطاهرين صلوات الله عليهم أجمعين حتى وقف على أبيه عليه السلام
จากนั้นอิมามฮาซันอัสกะรีได้กล่าวว่า “จงพูดซิ โอ้ลูกน้อยของฉัน” ดังนั้น ทารกน้อยได้กล่าวขึ้นว่า ฉันขอปฏิญานตนว่าไม่มีพระเจ้าอื่นใด นอกจากอัลลอฮ์ และเขาได้กล่าวซอลาวาตแก่นบีมุฮัมมัด(ศ)และท่านอะลี อะมีรุลมุมินีน(อ) และแก่บรรดาอิมามผู้บริสุทธิ์(อ)จนกระทั่ง ได้มาหยุดตรงชื่อบิดาของเขา(คืออิม่ามฮาซันอัสกะรี) แล้วทารกได้อ่านโองการกุรอ่านว่า
بِسْمِ اللَّهِ الرَّحْمَنِ الرَّحِيمِ وَ نُرِيدُ أَنْ نَمُنَّ عَلَى الَّذِينَ اسْتُضْعِفُوا فِي الْأَرْضِ وَنَجْعَلَهُمْ أَئِمَّةً وَنَجْعَلَهُمُ الْوَارِثِيْنَ وَنُمَكِّنَ لَهُمْ فِي الْأَرْضِ وَنُرِيَ فِرْعَوْنَ وَهَامَانَ وَجُنُوْدَهُمَا مِنْهُمْ مَا كَانُوا يَحْذَرُوْنَ
ด้วยพระนามของอัลลอฮ์ ผู้ทรงกรุณาปรานี ผู้ทรงเมตตายิ่งเสมอ และเราประสงค์จะประทานมินนะฮ์(ความโปรดปราน)แก่บรรดาผู้ซึ่งถูกทำให้อ่อนแอในแผ่นดิน และเราจะทำให้พวกเขาเป็นบรรดาผู้นำ และเราจะทำให้พวกเขาเป็นผู้สืบทอดมรดก และเราจะให้พวกเขาครอบครองในแผ่นดิน และเราจะให้ฟิรเอาน์และฮามานและไพร่พลของเขาทั้งสอง ได้เห็นสิ่งที่พวกเขามีหวาดกลัว     กุรอ่าน ซูเราะฮ์อัลเกาะศ็อศ : 5 -6

ผู้ศรัทธาอาจสงสัยว่าอิม่ามมะฮ์ดียังเป็นทารกทำไมจึงพูดได้

ขอให้ท่านอ่านกุรอ่านอายัตนี้

เมื่อพวกยิวได้สอบถามท่านหญิงมัรยัมว่า ทั้งๆที่เธออยู่ในโบถส์ แล้วเธอมีบุตรได้อย่างไร

นาง(มัรยัม มารดาของนบีอีซา)ได้ชี้ไปทางเขา(ทารกที่คลอดไม่ถึงเจ็ดวัน) พวกเขากล่าวว่า  เราจะพูดกับผู้ที่อยู่ในเปลที่เป็นเด็กได้อย่างไร ?

เขา(ทารกอีซา)ได้กล่าวว่า

إِنِّي عَبْدُ اللَّهِ آَتَانِيَ الْكِتَابَ وَجَعَلَنِي نَبِيًّا

แท้จริงฉันเป็นบ่าวของอัลลอฮ์ พระองค์ทรงประทานคัมภีร์แก่ฉัน และทรงแต่งตั้งฉันให้เป็น นะบี ซูเราะฮ์มัรยัม : 30

เพราะฉะนั้นไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ที่อิม่ามมะฮ์ดี ฮุจญัตของอัลลอฮ์ จะพูดได้ในวัยทารกเช่นเดียวกับนบีอีซาพูดได้ในวัยทารกเช่นกัน


บทความโดย เชคญะวาด สว่างวรรณ