วิเคราะห์เรื่องราวของอิมามมะฮ์ดี ตอน 14

 

เหตุที่บรรดากาหลิบแห่งราชวงศ์อับบาซียะฮ์ได้สังหารบรรดาอิม่ามแห่งอะฮ์ลุลบัยต์นบี(อ)ทุกคนเพราะพวกเขาเชื่อในฮะดีษนบีบทนี้

อัลฟะกีฮ์ อัลมุฮัดดิษ อบุลฮาซัน #อะลี #บินอัลฮูเซน บิน บาบะวัยฮ์ อัลกุมมี (#บิดาของเชคศอดูก) ตาย ฮ.ศ. 329 ได้รายงานฮะดีษนบีว่า

قَالَ رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَآلِهِ : الْأَئِمَّةُ مِنْ بَعْدِي اثْنَا عَشَرَ أَوَّلُهُمْ أَنْتَ يَا عَلِيُّ وَآخِرُهُمْ الْقاَئِمُ الَّذِي يَفْتَحُ اللهُ تَعاَلَى ذِكْرُهُ عَلَى يَدَيْهِ مَشَارِقَ الْأَرْضِ وَمَغَارِبَهَا

#ท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ)#ได้กล่าวว่า #บรรดาอิม่ามผู้นำหลังจากฉันมี 12 คน
คนแรกคือเจ้า โอ้อะลี และคนสุดท้ายของพวกเขาคืออัลกออิม(มะฮ์ดี)
ซึ่งอัลลอฮ์ตะอาลาจะทรงเปิดชัยชนะไว้ในมือทั้งสองของเขา ทั้งทางทิศตะวันออกของแผ่นดินและทางทิศตะวันตกของมัน

อ้างอิงจาก กิตาบ อัลอิมามะฮ์ วัตตับศิเราะฮ์ มินัลฮัยเราะฮ์ หน้าที่ 1 ฮะดีษที่ 1

#ความน่าเชื่อถือของผู้เล่าฮะดีษนี้และตำราเล่มนี้

#เชคนะญาชี ตาย ฮ.ศ. 450 #นักปราชญ์ชีอะฮ์กล่าวว่า

علي بن الحسين بن موسى بن بابويه القمي أبو الحسن، شيخ القميين في عصره، ومتقدمهم، وفقيههم، وثقتهم. له كتب، منها كتاب التوحيد، كتاب الوضوء، كتاب الصلاة، كتاب الجنائز، كتاب الإمامة والتبصرة من الحيرة

อะลี บินอัลฮูเซน บินมูซา บิน บาบะวัยฮ์ อัลกุมมี ฉายาอบุลฮาซัน เขาคือเชคแหง่ชาวเมืองกุม(อิหร่าน)ในสมัยของเขา คือหัวหน้าของพวกเขา คือฟะกีฮ์ของพวกเขา คือผู้ที่เชื่อถือได้ของพวกเขา สำหรับเขามีตำราที่แต่งเอาไว้เช่น กิตาบอัตเตาฮีด, กิตาบวุฎุอ์, กิตาบ ซอล๊าต, กิตาบ ญะนาอิซ, #กิตาบอัลอิมามะฮ์วัตตับศิเราะฮ์ มินัลฮัยเราะฮ์  

ดู ริญาล นะญาชี อันดับที่ 684

#อิบนุนะดีม ตาย ฮ.ศ. 384 #นักปราชญ์ซุนนี่กล่าวว่า

إن علي بن الحسين كان من فقهاء الشيعة وثقاته

อะลี บินอัลฮูเซน เขาคือหนึ่งจากบรรดาฟะกีฮ์ชีอะฮ์ และเขาเป็นผู้ที่เชื่อถือได้ในการรายงานฮะดีษคนหนึ่ง
ดูหนังสือ อัลฟะฮ์ร็อสต์ อิบนินะดีม หน้า 227

เพราะฉะนั้น อะลี บินอัลฮูเซน บิน บาบะวัยฮ์ อัลกุมมี คือผู้แต่ง “กิตาบ อัลอิมามะฮ์ วัตตับศิเราะฮ์ มินัลฮัยเราะฮ์” จริง และเขาเชื่อถือได้ในการรายงานฮะดีษ

#เชคนะญาชีได้เล่าถึงเหตุการณ์ที่ มุฮัดดิษ อะลี บินอัลฮูเซน บินบาบะวัยฮ์ ได้เข้าพบกับ ฮูเซน บินรู๊ห์ นาอิบคอศคนที่ 3 ที่อิรัก

เขาได้มอบคำถามต่างๆแก่ ฮูเซน บินรู๊ห์ ให้นำไปส่งให้อิม่ามมะฮ์ดี(อ) หนึ่งในนั้น เขาได้ขอต่ออิม่ามให้ช่วยวิงวอนต่ออัลลอฮ์ให้ประทานบุตรแก่เขาด้วย แล้วอะลี บิน ญะอ์ฟัร อัลอัสวัด ได้นำจดหมายของอิม่ามมะฮ์ดีพร้อมลายเซ็นตอบกลับมายังเขา ในจดหมายนั้นมีใจความว่า

เรา(อิม่ามมะฮ์ดี)ได้ขอดุอาต่ออัลลอฮ์ให้ท่านแล้วในเรื่องขอบุตร ในไม่ช้าท่านจะได้บุตรชายที่ดีสองคน แล้วเขาก็ได้บุตรคือ อบูญะอ์ฟัร(เชคศอดูก)และอบูอับดุลลอฮ์ มาจากแม่คนเดียวกัน และอบูอับดุลลอฮ์ อัลฮูเซน บินอุบัยดุลลอฮ์ได้เล่าว่า ฉันได้ยินอบูญะอ์ฟัร(เชคศอดูก)กล่าวว่า

ولدت بدعوة صاحب الأمر عليه السلام، ويفتخر بذلك

ฉันเกิดมาด้วยดุอาของอิมามมะฮ์ดี(อ) และเขาภาคภูมิใจต่อสิ่งนี้

ดู ริญาล นะญาชี อันดับที่ 684

#ฮะดีษนบีบทนี้ ((อิม่ามผู้นำหลังจากฉันมี 12 คน คนแรกคืออะลี และคนสุดท้ายคือมะฮ์ดี ซึ่งอัลลอฮ์จะทรงมอบชัยชนะไว้ในมือของเขา)) ถือว่าเป็นอันตรายทางความเชื่อที่สั่นคลอนต่อราชบัลลังก์ของกาหลิบอับบาซียะฮ์ทุกยุค

ฝ่ายกาหลิบจึงมอบหน้าที่ให้อุละมาอ์ราชสำนักตีตราฮะดีษบทนี้ว่าเชื่อถือไม่ได้เพราะถูกรายงานมาจากฝ่ายชีอะฮ์ ซึ่งถูกตีตตราว่าเป็นพวกนอกรีต พวกรอฟิเดาะฮ์ ต่อต้านอำนาจรัฐ

#สิ่งที่แปลกมากคือ อุละมาอ์ซุนนี่ได้พยายามอธิบาย(ฮะดีษ 12 ผู้นำ )นี้ว่าคือ คอลีฟะฮ์สี่คนแรก และรวมถึงผู้ปกครองจากตระกูลอุมัยยะฮ์และตระกูลอับบาซียะฮ์ แต่พวกเขาได้มีทัศนะขัดแย้งกันมากมายในการกำหนดรายชื่อผู้นำเหล่านั้น

#ส่วนชาวชีอะฮ์เชื่อว่า คอลีฟะฮ์หรืออิม่ามผู้นำ หลังจากท่านนบีมุฮัมมัด(ศ) มี 12 คนคือ

1.อิม่าม อะลี บิน อบีตอลิบ
2.อิม่าม ฮาซัน บิน อะลี
3.อิม่าม ฮูเซน บิน อะลี
4.อิม่าม อะลีซัยนุลอาบิดีน บิน ฮูเซน
5.อิม่าม มุฮัมมัดบากิร บิน อะลี
6.อิม่าม ญะอ์ฟัรศอดิก บิน มุฮัมมัด
7.อิม่าม มูซากาซิม บิน ญะอ์ฟัร
8.อิม่าม อะลีริฎอ บิน มูซา
9.อิม่าม มุฮัมมัดญะวาด บิน อะลี
10.อิม่าม อะลีฮาดี บิน มุฮัมมัด
11.อิม่าม ฮาซันอัสกะรี บิน อะลี
12.อิม่าม มุฮัมมัด มะฮ์ดี บิน ฮาซัน อัสการี

#เมื่ออิม่ามมะฮ์ดี(อ)เข้ารับตำแหน่งอิม่ามคนที่ 12 ต่อจากบิดาในปี ฮ.ศ. 260 แต่อิม่ามไม่สามารถปรากฏตัวพบปะกับประชาชนได้
เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองยุคอับบาซียะฮ์ปกครองเป็นอันตรายต่อชีวิตของเขา
จนอิม่ามต้องหายหน้าไปจากผู้คน ซึ่งเรียกว่า “ยุคฆ็อยบะฮ์”

ช่วงฆ็อยบะฮ์นี้ อิม่ามมะฮ์ดีได้แต่งตั้ง”นาอิบคอศ”ตัวแทนเป็นสื่อกลางการติดต่อระหว่างอิม่ามกับประชาชนไว้สี่คนคือ

1. อุษมาน บินสะอีด อัลอัมรี ตาย 265  เขาได้แต่งตั้งบุตรชายสืบต่อคือ

2. มุฮัมมัด บินอุษมาน อัลอัมรี  ตาย ฮ.ศ. 305

3. ฮูเซน บินรู๊ห์  ตาย ฮ.ศ. 326

4. อะลี บินมุฮัมมัด อัสสะมะรี   ตาย ฮ.ศ. 329

#ฆ็อยบะฮ์ซุฆรอ เริ่มต้นด้วยการเสียชีวิตของอิม่ามฮาซันอัสการี(อิม่ามที่11) วันที่ 8 ร่อบีอุลเอาวัล ปีฮ.ศ. 260
และสิ้นสุดลงด้วยการเสียชีวิตตัวแทนคนที่ 4 คือ อะลี อัสสะมะรี วันที่ 15 ชะอ์บาน  ปีฮ.ศ. 329  
ซึ่งเป็นปีที่ อัลฟะกีฮ์ อัลมุฮัดดิษ อบุลฮาซัน อะลี บินอัลฮูเซน บิน บาบะวัยฮ์ อัลกุมมี (บิดาของเชคศอดูก)เสียชีวิตเช่นเดียวกัน

#นี่คืออิทธิพลทางความคิดที่ทำให้บรรดากาหลิบหวาดกลัวว่า คนตระกูลอะละวีย์ที่ชื่อ มะฮ์ดี บุตรอิมามฮาซันอัสกะรี(อ)จะออกมาโค่นอำนาจการปกครองของราชวงศ์อับบาซียะฮ์ ด้วยเหตนี้บรรดากาหลิบจึงต้องลงมือสังหารอิม่ามแห่งตระกูลอะละวีย์ให้หมดสิ้น

หากฮะดีษนบีบทนี้คือเรื่องเท็จ กาหลิบอับบาซียะฮ์คงไม่หวาดกลัว นี่คือหลักฐานพิสูจน์ว่าฮะดีษสิบสองผู้นำนี้คือเรื่องจริง

บทความโดย เชคอับดุลญะวาด สว่างวรรณ