วิเคราะห์เรื่องราวของอิมามมะฮ์ดี ตอน 15

วิเคราะห์เรื่องราวของอิมามมะฮ์ดี ตอน 15

 

อิทธิพลของอิมามอะลีฮาดี(อิม่ามที่10)

เราจะอธิบายถึงอิทธิพลของอิมามอะลีฮาดี(อิม่ามที่10)ที่มีต่อกลุ่มคนต่างๆดังต่อไปนี้

1. อิทธิพลของอิมามที่มีต่อบรรดาเจ้าขุนมูลนายของกาหลิบอับบาซียะฮ์
2. อิทธิพลของอิมามในสังคมของพวกเจ้าหน้าที่
3.อิทธิพลของอิมามในสังคมของตระกูลอะละวีย์
4. อิทธิพลของอิมามในสังคมของชาวเมืองมะดีนะฮ์
5.อิทธิพลของอิมามในสังคมของพวกอะฮ์ลุลกิตาบ
6. อิทธิพลของอิมามต่อบรรดาชีอะฮ์ในเมืองซะมัรรอ
....................

1. #อิทธิพลของอิมามอะลีฮาดี(อิม่ามที่10)#ที่มีต่อบรรดาเจ้าขุนมูลนายของกาหลิบอับบาซียะฮ์

ครั้งหนึ่ง กาหลิบอัลมุตะวักกิลได้ล้มป่วยด้วยโรคเนื้องอกขนาดใหญ่ จนเกือบตาย ไม่มีใครสามารถรักษาเขาให้หายได้ แม่ของเขาได้นาซัรบนบานว่า ถ้าหากเขาหายป่วย ก็จะนำเงินของนางไปมอบให้อิม่ามอะลีฮาดี(อิม่ามที่10)อย่างมากมาย
อัลฟัตห์ บิน คอกอน ชาวเตริก คนสนิทกาหลิบได้กล่าวทูลว่า

لو بعثتَ إلى هذا الرجل يعني أبا الحسن فسألتَهُ فأنه ربما كان عنده صِفَة شيء يفرج الله به عنكَ ، فقال : اِبعثوا إليه فمضى الرسولُ وَرجَعَ بِالْعِلاَجِ....فَبَرَأَ المتوكل مِن علته

ถ้าหากว่าท่านส่งคนไปหาชายคนนี้(อิม่ามอะลีฮาดี)แล้วขอร้องต่อเขา
เพราะว่าบางทีเขามีคุณลักษณะพิเศษอยู่บางอย่าง อัลลอฮ์จะทรงคลี่คลายให้แก่ท่านด้วยคำขอของเขาก็ได้”
กาหลิบจึงสั่งว่า พวกเจ้าจงส่งคนไปหาอิม่ามอะลีฮาดี เมื่อคนที่ถูกส่งตัวไปกลับมาพร้อมกับยาบำบัด ...แล้วกาหลิบอัลมุตะวักกิลก็หายจากอาการป่วย

ขณะเดียวกัน กาหลิบอัลมุตะวักกิลก็ส่งแม่ทัพยะห์ยา บิน ฮัรษะมะฮ์(พร้อมทหาร300คน)ไปเมืองมะดีนะฮ์เพื่อนำตัวอิมามอะลีฮาดีมาไว้ที่เมืองซะมัรรออย่างลับโดยไม่ให้ใครรู้  
อิมามอะลีฮาดีได้เดินทางพร้อมกับครอบครัวของเขา โดยยะห์ยาคอยทำหน้าที่จัดการดูแลอิม่าม  เขารู้สึกแปลกใจในกำลังวังชาความแข็งแรงของอิม่าม จนมาถึงเมืองแบกแดด

#อัลยะอ์กูบีย์ นักประวัติศาสตร์อิสลาม ตาย ฮ.ศ. 284 ได้กล่าวว่า

فلما كان بموضع يقال له الياسرية نزل هناك، و ركب إسحاق بن إبراهيم لتلقيه، فرأى تشوق الناس إليه و اجتماعهم لرؤيته، فأقام إلى الليل و دخل به في الليل، فأقام ببغداد بعض تلك الليلة، ثم نفذ إلى سر من رأى

เมื่อเดินทางมาถึงสถานที่แห่งหนึ่ง มีชื่อว่า ยาซิรียะฮ์ อิม่ามได้หยุดพักที่นั่น
แล้วอิสฮาก บิน อิบรอฮีม ผู้ปกครองเมืองแบกแดด ได้ขี่ม้ามาพบอิม่าม
เขาได้แลเห็นประชาชนให้ความสนใจอิม่ามและพากันมาชุมนุมเพื่อดูตัวอิม่าม
เขาจึงเฝ้าดูอยู่จนมืดค่ำและเข้าไปหาอิม่ามในคืนนั้น แล้วพาอิม่ามมาพักที่แบกแดดในคืนนั้น เวลาต่อมาเขาได้จัดการส่งอิม่ามไปที่เมืองซะมัรรอ(ราชธานีของกาหลิบ) ดู ตารีคอัลยะอ์กูบี เล่ม 3 หน้า 209

#ยะห์ยา บิน ฮัรษะมะฮ์ (แม่ทัพของกาหลิบอัลมุตะวักกิล)ได้เล่าว่า
 
เมื่อเดินทางมาถึง มะดีนะตุซ-ซะลาม ฉันได้เข้าพบ อิสฮาก บิน อิบรอฮีม ผู้ปกครองเมืองแบกแดด

#ผู้ปกครองแบกแดดได้กล่าวว่า โอ้ยะห์ยา ชายคนนี้(อิม่ามอะลีฮาดี) คือลูกหลานของท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ)
ส่วนกาหลิบอัลมุตะวักกิลนั้น ท่านก็รู้ดีว่าเขาชิงชังชายคนนี้ ถ้าหากท่านยุยงเขา เขาก็จะสังหารชายคนนี้แน่นอน

وكان رسول الله (ص) خصمك

แล้วท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ)ก็จะเป็นคู่กรณีกับท่าน   

ยะห์ยาจึงกล่าวว่า

والله ما وقفت منه الا علي أمر جميل

ขอสาบานต่ออัลลอฮ์ ฉันไม่เห็นสิ่งที่ไม่ดี ออกมาจากอิม่าม นอกจากเรื่องที่สวยงาม

ดังนั้นฉันเดินทางไปยังเมืองซะมัรรอ ฉันได้พบกับวะศีฟ อัตตุรกี(เจ้าหน้าที่ของกาหลิบ) และฉันเองก็เป็นพวกเดียวกับเขา

#วะศีฟได้กล่าวกับฉันว่า

والله لئن سقط من رأس هذا الرجل شعرة لايكون الطالب بها غيري ، فتعجبت من قولهما

ขอสาบานด้วยพระนามของอัลลอฮ์ว่า ถ้าหากเส้นผมของชายคนนี้(อิม่ามอะลีฮาดี)หลุดร่วงออกมาสักเส้นหนึ่ง จะไม่มีใครล้างแค้นให้เขา นอกจากฉัน

ดังนั้น ฉัน(ยะห์ยา)รู้สึกแปลกใจจากคำพูดของเขาทั้งสองคน(คือวะศีฟและผู้ปกครองแบกแดด)

อิทธิพลในตัวอิมามอะลีฮาดี(อิม่ามที่10)มีมากถึงขั้นที่ว่า บรรดาเจ้าขุนมูลนายในท้องพระโรงจะลุกขึ้นยืนตรงแสดงความเคารพ ทุกครั้งในยามที่อิม่ามเดินเข้าไปพบกาหลิบอัลมุตะวักกิล
และประตูทุกบานจะเปิดให้อิม่าม  ม่านที่กั้นเป็นฉากบังจะถูกเปิดออกทันทีโดยที่อิม่ามไม่ต้องยืนรอ


บทความโดย เชคอับดุลญะวาด สว่างวรรณ