ฮะดีษฆอดีรคุม ตอนที่ 1

 

เราต้องทราบก่อนว่า ท่านนบีมุฮัมมัด(ศ)ไม่เคยกล่าวกับซอฮาบะฮ์ท่านใดว่า

مَنْ كُنْتُ مَوْلَاهُ فَفُلاَنٌ مَوْلَاهُ

ผู้ใดที่ฉันเป็น”เมาลา”ของเขา ดังนั้นชายคนนั้นคนนี้ก็เป็นเมาลาของเขา

แต่ท่านนบีได้กล่าวกับท่านอาลีว่า

مَنْ كُنْتُ مَوْلَاهُ فَعَلِيٌّ مَوْلَاهُ

ผู้ใดที่ฉันเป็นเมาลาของเขา  #ดังนั้นอาลีก็เป็นเมาลาของเขา

นี่คือคุซูซียัต ความพิเศษประการหนึ่งของท่านอะลี

วันเสาร์ที่ 6 เดือนซุลกิ๊อ์ดะฮ์ ฮ.ศ.ที่ 10

ท่านนบีมุฮัมมัด(ศ)เดินทางออกจากนครมะดีนะฮ์มุ่งหน้าสู่นครมักกะฮ์
พร้อมกับสาวกจำนวน 1 แสนกว่าคน(บ้างว่า 114,000 บ้างว่าน้อยกว่านี้ บ้างว่ามากกว่านี้)
เพื่อประกอบพิธีฮัจญ์ครั้งแรกและครั้งสุดท้ายในชีวิตของท่าน(เรียกฮัจญ์ครั้งนั้นว่า ฮัญญะตุลวะดา,ฮัจญะตุลบะล๊าฆ,ฮัจญะตุลกะมาลวัตตะมาม)

เมื่อท่านศาสดามุฮัมมัด(ศ)ประกอบพิธีฮัจญ์เสร็จ ท่านก็เดินทางออกจากนครมักกะฮ์มุ่งหน้ากลับสู่นครมะดีนะฮ์

วันที่ 18 ซุลฮิจญะฮ์ ฮิจเราะฮ์ที่ 10

ท่านนบีมุฮัมมัด(ศ)เดินทางกลับมาถึงสถานที่แห่งหนึ่งมีชื่อว่า “ฆอดีรคุม”

ท่านได้สั่งให้คาราวานแวะพักตรงสถานที่นี้ และสั่งให้นมาซรวมกัน
หลังจากนมาซซุฮ์รี่เสร็จแล้ว ท่านนบีมุฮัมมัด(ศ)ได้ปราศรัยกับบรรดาสาวกว่า

أَلَسْتُمْ تَعْلَمُونَ أَنِّي أَوْلَى بِالْمُؤْمِنِينَ مِنْ أَنْفُسِهِمْ قَالُوا بَلَى

พวกท่านรู้ใช่หรือไม่ว่า แท้จริงฉันมีสิทธิต่อบรรดาผู้ศรัทธา มากกว่าตัวของพวกเขาเอง   
พวกเขาตอบว่า  ใช่ครับ  

قَالَ أَلَسْتُمْ تَعْلَمُونَ أَنِّي أَوْلَى بِكُلِّ مُؤْمِنٍ مِنْ نَفْسِهِ قَالُوا بَلَى قَالَ فَأَخَذَ بِيَدِ عَلِيٍّ فَقَالَ

ท่านกล่าวว่า พวกท่านรู้ใช่หรือไม่ว่า แท้จริงฉันนี้มีสิทธิต่อผู้ศรัทธาทุกคนมากกว่าตัวของเขาเอง
พวกเขากล่าวว่า ใช่ครับ  

ท่านบัรรอ บินอาซิบได้เล่าว่า

ท่านนบีได้จับมือท่านอะลีชูขึ้นแล้วกล่าวว่า

مَنْ كُنْتُ مَوْلَاهُ فَعَلِيٌّ مَوْلَاهُ

#มันกุนตุเมาลาฮุ  #ฟะอะลียุนเมาลาฮุ

ผู้ใดก็ตามที่ฉันเป็น(เมาลา)ของเขา  
ดังนั้นอะลีก็เป็น(เมาลา)ของเขา

اللَّهُمَّ وَالِ مَنْ وَالَاهُ وَعَادِ مَنْ عَادَاهُ

อัลลอฮุมม่ะ วาลี่ มันวาลาฮุ วะอาดี่ มันอาดาฮุ

โอ้อัลลอฮ์ โปรดรักผู้ที่รักอะลี
และโปรดชิงชังผู้ที่ชิงชังเขาด้วยเถิด

ท่านบัรรอเล่าว่า
 
فَلَقِيَهُ عُمَرُ بَعْدَ ذَلِكَ فَقَالَ هَنِيئًا يَا ابْنَ أَبِي طَالِبٍ أَصْبَحْتَ وَأَمْسَيْتَ مَوْلَى كُلِّ مُؤْمِنٍ وَمُؤْمِنَةٍ

แล้วต่อมาหลังจากนั้น #ท่านอุมัรได้พบกับท่านอะลี แล้วเขาได้กล่าวว่า

โอ้บุตรของอบูตอลิบ ขอแสดงความยินดีด้วย
ทั้งยามเช้ายามเย็น
ท่านกลายเป็นเมาลาของบรรดามุอ์มินทั้งชายและหญิงแล้ว

อ้างอิงจากหนังสือ

มุสนัดอะหมัด เล่ม 4 หน้า 281 ฮะดีษที่ 18502

เชคชุเอบ อัรนะอูตี กล่าวว่า ซอฮิฮ์ ลิ ฆ็อยริฮี

ฟะฎออิลุซ ซอฮาบะฮ์ เล่ม 2 หน้า 596 ฮะดีษที่ 1016

มุศ็อนนัฟ อิบนิอบีชัยบะฮ์ เล่ม 6 หน้า 372 ฮะดีษที่ 32118

เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ ฆอดีรคุม นี้มีความสำคัญมาก
เราจึงพบว่า บรรดาซอฮาบะฮ์ , ตาบิอีน,  ตาบิอุต-ตาบิอีน,บรรดาอุละมาอ์และบรรดาฟุกอฮาอ์ได้ให้ความสำคัญด้วยการถ่ายทอดฮะดีษบทนี้ด้วยสายรายงานของพวกเขาอย่างมากมาย

1. ซอฮาบะฮ์ จำนวน 110 คน ได้รายงานฮะดีษฆอดีรคุม

2. ตาบิอีน จำนวน 84 คน ได้รายงานฮะดีษฆอดีรคุม

3. อุละมาอ์และนักรายงานฮะดีษในศตวรรษที่ 2 แห่งฮิจญ์เราะฮ์จำนวน 56 คน ได้รายงานฮะดีษฆอดีรคุม

4. อุละมาอ์และนักรายงานฮะดีษในศตวรรษที่ 3 แห่งฮิจญ์เราะฮ์จำนวน 92 คน ได้รายงานฮะดีษฆอดีรคุม

บทความโดย เชคอับดุลญะวาด สว่างวรรณ