ฮะดีษฆอดีรคุม ตอนที่ 6

 

มุฮัมมัด อิบนุ ญะรีร อัต-ต็อบบะรี่
เกิด มาซันดะรอน อิหร่าน ฮ.ศ. 224  
ตาย แบกแดด อิรัก ฮ.ศ. 310 )
ได้รวบรวมฮะดีษฆอดีรคุมไว้ในตำราเล่มหนึ่งของเขาชื่อ  “ กิตาบ #อัลวิลายะฮ์”

#อิบนุตัยมียะฮ์ (661-728) ถูกถามว่า ตัฟซีรเล่มใดมีความใกล้เคียงกับกิตาบและซุนนะฮ์มากที่สุด    
#อิบนุตัยมียะฮ์ตอบว่า

أَماَّ التَّفاَسِيْرُ الَّتِي فِي أَيْدِي الناَّسِ فَأَصَحُّهاَ تَفْسِيْرُ مُحَمَّدِ بْنِ جَرِيْرٍ الطَّبْرِيّ فإنَّهُ يَذْكُرُ مَقاَلاَتِ السَّلَفِ بِالْأَساَنِيْدِ الثاَّبِتَة وَلَيْسَ فِيْهِ بِدْعَة وَلاَ يَنْقُلُ عَنِ الْمُتَّهَمِيْنَ

ส่วนตัฟซีรที่อยู่ในมือประชาชน ที่ถูกต้องที่สุดคือ ตัฟซีร มุฮัมมัด บิน ญะรีร อัต-ต็อบรี่  เพราะว่า

1.เขาได้กล่าวถึงคำพูดของสะลัฟด้วยสายรายงานฮะดีษที่มั่นคง(เชื่อถือได้)

2.ในตัฟซีรนี้ไม่มีเรื่องบิดอะฮ์

3.และไม่ได้ถ่ายทอดการรายงานมาจากบรรดานักรายงานที่ถูกตำหนิ

ดู กิตาบ มุก็อดดิมะฮ์ ฟีต-ตัฟซีร ผู้แต่ง อิบนุตัยมียะฮ์ หน้า 16
และ  มัจญ์มูอุลฟะตาวา ผู้แต่ง อิบนุตัยมียะฮ์ เล่ม 13 หน้า 385

หนังสือ อัลบิดายะฮ์ วัน-นิฮายะฮ์ เล่ม 11 หน้า 145   

#อิบนุกะษีร (701-774 ลูกศิษย์อิบนุตัยมียะฮ์) #กล่าวว่า

อบูญะอ์ฟัร บินญะรีร อัตตอบบะรี่ ชื่อเต็ม  มุฮัมมัด บิน ญะรีร บิน ยะซีด บิน กะษีร บิน ฆอลิบ (เรียกกันว่า) อิหม่าม อบูญะอ์ฟัร อัตต็อบบะรี่

كان أحدُ أئمةِ الإسلام في العلم بِكتابِ الله وسُنَّةِ رسولِهِ

เขาคืออิหม่ามแห่งอิสลามคนหนึ่งในวิชาการความรู้ต่อกิตาบุลเลาะฮ์และซุนนะฮ์ของรอซูลของพระองค์

ولما توفي اجتمع الناسُ مِن سائر أقطارِ بغداد وصَلُّوا عليه بِدَارِه ودُفِنَ بها ومكث الناسُ يَتَرَدَّدُوْنَ إلى قَبْرِهِ شُهُوْراً يُصَلُّوْنَ عَلَيْهِ

ตอนเขาเสียชีวิต ประชาชนจากทั่วเมืองแบกแดดได้มารวมกันละหมาดญะนาซะฮ์ให้เขาที่บ้านของเขา เขาถูกฝังไว้ในบ้านของเขา

ประชาชนได้แวะเวียนมาเยี่ยมกุโบร์เขาอยู่หลายเดือน และประชาชนได้ละหมาดที่กุโบร์ของเขา(อิหม่ามต็อบบะรี่)

#ข้อสังเกต

อิบนุกะษีรบอกว่า คนยุคสะลัฟได้ทำละหมาดกันที่กุโบร์อิหม่ามต็อบรี่ ตาย ฮ.ศ. 310

หากว่า การละหมาดที่กุโบร์คือสิ่งต้องห้าม สะลัฟยุคอิหม่ามต็อบรี่คงไม่ทำกัน  

หลุมฝังศพของ นักตัฟซีร นักประวัติศาสตร์อิสลาม นักปราชญ์นิติศาสตร์อิสลาม อิหม่าม มุฮัมมัด บิน ญะรีร อัต-ต็อบรี่ ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของกรุงแบกแดด อิรัก

#อิบนุกะษีรได้กล่าวว่า

وقد رأيتُ له كتاباً جَمَعَ فيه أحاديث غدير خم في مجلدَيْنِ ضَخْمَيْن وكتاباً جَمَعَ فيه طَرِيْقَ حديث الطير

แน่นอนฉันได้เห็นอิหม่ามอิบนุญะรีรอัตตอบบะรี่ได้แต่งหนังสือเล่มหนึ่ง
ซึ่งหนังสือเล่มนั้นได้รวบรวม #ฮะดีษฆอดีรคุม” ไว้ 2 เล่มใหญ่ๆ

และอีกเล่มหนึ่งได้รวบรวมสายรายงานฮะดีษนกย่าง ไว้ในนั้น

ونسبوه إلى الرَفْض ومن الجهلة من رماه بالإلحاد وحاشاه من هذا ومن ذلك
#พวกฮะนาบิละฮ์ได้ปรักปรำอิหม่ามต็อบรี่เป็นชีอะฮ์ และพวกโง่เขลาได้ใส่ร้ายเขาว่าเป็น มุลฮิด หลุดจากอิสลาม แต่อิหม่ามตอบรีไม่ได้เป็นทั้งชีอะฮ์และมุลฮิด

สาเหตุที่ปรักปรำอิหม่ามตอบรี่เป็นชีอะฮ์เพราะ

أنه كان يقول بجواز مسح القدمين في الوضوء وأنه لا يُوجِبُ غَسلهما

อิหม่ามตอบรีได้กล่าวว่า อนุญาติให้เช็ดเท้าทั้งสองในการอาบน้ำละหมาดได้ และไม่จำเป็นต้องล้างเท้าทั้งสอง(ในการอาบน้ำละหมาด)

ดู หนังสือ อัลบิดายะฮ์ วัน-นิฮายะฮ์ เล่ม 11 หน้า 145   

#คำถาม กิตาบอัลวิลายะฮ์ของอิหม่ามต็อบบะรี่ที่รวบรวมฮะดีษฆอดีรคุมไว้สองเล่มใหญ่ๆอยู่ไหน
แม้แต่ฮะดีษ ความประเสริฐของท่านอะลี บินอบีตอลิบ ก็ถูกทำลายไปในประวัติศาสตร์อิสลาม  
ความรับผิดชอบทางวิชาการอยู่ตรงไหน

หากคำ “เมาลา” ในฮะดีษ(มันกุนตุเมาลา ฟะอะลียุน เมาลาฮ์) หมายถึง การมอบความรักให้ท่านอะลี ทำไมตำราอัลวิลายะฮ์ของอัตตอบบะรี่จึงถูกทำลาย

แต่อุละมาอ์ปัจจุบันได้ค้นคว้าหาฮะดีษฆอดีรคุมของอิหม่ามต็อบรี่ ที่บันทึกไว้ในตำราต่างๆ แล้วนำมามันรวมไว้ในตำราใหม่ชื่อ กิตาบ อัลวิลายะฮ์