เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม

ความประพฤติและจริยธรรมของศาสดามุฮัมมัด (ศ็อลฯ)

0 ทัศนะต่างๆ 00.0 / 5

 ความประพฤติและจริยธรรมของศาสดามุฮัมมัด (ศ็อลฯ)

 

พระผู้เป็นเจ้าตรัสถึงจริยธรรมอันสูงส่งของท่านศาสดาว่า และแท้จริง เจ้าอยู่บนคุณธรรมอันยิ่งใหญ่ (เกาะลัม 4) มนุษย์ที่ไร้ความสามารถเขามีความรู้ และเข้าถึงมารยาทอันสูงส่ง ความประเสริฐ ความเมตตา และเป็นแหล่งกำเนิดความดีงามทั้งหลายของท่านศาสดาได้อย่างไร สิ่งที่เขาพูด เป็นเพียงน้ำหยดหนึ่งในมหาสมุทรเท่านั้น

มารยาทและความประพฤติของท่านศาสดา (ซ็อล ฯ) คือแบบอย่างอันจำเริญสำหรับมวลมนุษยชาติทั้งหลาย หรือกล่าวได้ว่านั่นคือ รูปลักษณ์ที่แท้จริงของอิสลาม ท่านศาสดาปฏิบัติกับมุสลิมทุกคนอย่างเสมอภาค ด้วยความเป็นพี่น้อง และด้วยความรักเอ็นดูอย่างยิ่ง ท่านสวมใส่เสื้อผ้าที่เรียบง่าย นั่งกับพื้น และเข้ากลุ่มกับบรรดาสาวก ถ้ามีคนอื่นที่ไม่รู้จักเข้ามาในที่ประชุมนั้น เขาจะไม่รู้เลยว่าใครคือศาสดา บนความเรียบง่ายนั้นแฝงไว้ด้วยความสะอาดหมดจดทั้งร่างกายและเสื้อผ้า ท่านศาสดาจะแปรงฟันก่อนวุฎูอ์เสมอ ประพรมน้ำหอม และจะแสดงมารยาทที่ดีงามทั้งกับเด็กและผู้ใหญ่ ท่านจะกล่าวสลามก่อนคนอื่น ใบหน้าของท่านจะพกพารอยยิ้มอยู่ตลอดเวลา ท่านจะไม่หัวเราะเสียงดัง เยี่ยมเยือนคนป่วย เข้าร่วมงานศพของคนอื่น ให้การต้อนรับแขก ให้ความเมตตากับเด็กโดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กกำพร้าท่านจะเอ็นดูเป็นพิเศษ ท่านมักเอามือลูบศีรษะเด็กเหล่านั้น หลีกเลี่ยงการนอนบนที่นอนอ่อนนุ่ม ท่านกล่าวว่า ชีิวิตของฉันบนโลกนี้ เหมือนกับพาหนะที่มักจอดใต้ร่มเงาไม้เพื่อพักผ่อน หลังจากนั้นก็จะเดินทางต่อไปยังจุดหมายปลายทาง แม้ว่าท่านจะมีมารยาทที่นิ่มนวลเพียงใด แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าศัตรู หรือกลุ่มชนที่หน้าไหว้หลังหลอก ท่านจะแสดงความเข็มแข็งดุจดังราชสีห์ สงครามต่าง ๆ ท่านไม่เคยปล่อยให้ความหวาดกลัวเข้าครอบงำจิตใจ ท่านจะอยู่ประชิดติดกับศัตรูมากกว่ามุสลิมคนใดทั้งสิ้น ท่านมิเคยแสดงความอาฆาตมาตรร้ายแม้แต่ศัตรูที่แสดงความร้ายกาจกับท่าน เช่น บรรดาผู้ปฏิเสธชาวกุเรช ครั้นเมื่อท่านสามารถยึดมักกะฮฺได้แทนที่ท่านจะสังหารพวกเขา แต่ท่านกลับอภัยให้พวกเขาจนหมดสิ้น จนเป็นที่ประหลาดใจของพวกเขา และเป็นสาเหตุให้พวกเขารับอิสลามกันเป็นกลุ่ม ๆ ท่านศาสดาแสดงตนให้เห็นว่า ท่านห่างไกลจากกิเลสทางโลก ทรัพย์สินส่วนรวมท่านจะคืนให้เจ้าของโดยด่วน ขณะที่ท่านเป็นศาสดา และเป็นนายของพวกเขาแต่ท่านไม่เคยรับส่วนแบ่งที่มากกว่าคนอื่นเลยแม้แต่ครั้งเดียว แน่นอนท่านคือแบบอย่างที่ดีงามสำหรับประชาโลกทั้งหลาย

เป็นทั้งศาสดาและกาลิบ

เมื่อท่านนบีมุฮัมมัดได้ประสบความสำเร็จในการประกาศาสนา ได้ชาวเมืองมักกะฮฺไว้ในศรัทธาของตนแล้ว กิตติศัพท์ของพระองค์ก็ขจรขจายไปอย่างเลื่องลือทั่วทะเลทรายอาหรับอันกว้างไกล บรรดาชาวอาหรับในเมืองอื่นๆ ก็พากันมาอ่อนน้อมนับถือท่านศาสดาเป็นผู้ปกครองอาหรับทั้งหมด ให้เป็นอาณาจักรอิสลามขึ้นในโลก พวกชาวอาหรับทั้งปวงได้ยกท่านศาสดาขึ้นเป็นกาลิบ หมายถึงทายาทผู้สืบต่อ แม้พระองค์จะมีบุญญาธิการเป็นทั้งศาสดาและกาลิบยิ่งใหญ่เพียงใดก็ตาม แต่พระองค์ก็มีจรรยาวัตรเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง วังก็ไม่สร้างอย่างกษัตริย์ทั่วๆ ไป ทรงประทับอยู่ในเรือนน้อยๆ อย่างสามัญชน ผ้าคลุมศีรษะซึ่งเคยใช้มาแต่เดิม ก็คงใช้แทนมงกุฎ การรับแขกบ้านแขกเมืองก็ทรงใช้มัสญิดเป็นที่ต้อนรับ การที่ท่านนบีมุฮัมมัดทรงถือสันโดษและมีจรรยาวัตรเช่นนี้ ทำให้ชาวมุสลิมอาหรับทั้งปวงต่างยิ่งเพิ่มความจงรักภักดีมากขึ้นเป็นอนันต์ ทำให้ชาวอาหรับได้รับความเป็นปึกแผ่นและมีสังคมที่สงบสุขมาโดยตลอด

บั้นปลายชีวิต

ท่านศาสดามุฮัมมัดทรงได้เป็นกาลิบผู้ปกครองประเทศอาหรับ และเป็นศาสดาสอนศาสนาจนกระทั่งพระชนมายุได้ 64 พรรษา ดูเหมือนว่าจะทรงรู้สึกพระองค์อยู่บ้างว่าจะทนต่อความลำบากแห่งสังขารร่างกายได้อีกไม่นานนัก จึงได้ออกเดินทางไปเมืองมักกะฮฺกับบรรดาสาวก เพื่อนมัสการครั้งสุดท้ายอีกครั้งหนึ่ง เมื่อกลับจากการบำเพ็ญฮัจญฺครั้งสุดท้ายแล้ว แม้ว่าร่างกายจะยังแข็งแรงสมบูรณ์อยู่ก็ตามไม่กี่เดือนต่อมาก็ประชวรเป็นไข้กระเสาะกระแสะ มีโรคแทรกซ้อน ทำให้อ่อนเพลียมากยิ่งขึ้นตามลำดับ จนในที่สุดไม่สามารถออกไปนำนมาซและสั่งสอนศาสนาได้อีกต่อไป จึงได้แต่พักรักษาตัวโดยได้รับการพยาบาลรักษาเป็นอย่างดี ขณะเดียวกันก็มีผู้คนได้ไปประชุมนมาซขอพรต่อพระเจ้าให้ทรงช่วยเยียวยารักษา แต่พระอาการไม่ดีขึ้นเลยใกล้วาระอวสานจริงๆ และในที่สุดท่านได้อำลาจากโลกไปด้วยพระจิตที่สงบมั่น


ขอขอบคุณ เว็บไซต์อัชชีอะฮ์

กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วย

ความคิดเห็นของผู้ใช้งานทั้งหลาย

ไม่่มีความคิดเห็น
*
*

เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม