มัยษัม ตัมมาร สหายผู้ใกล้ชิดของอิมามอะลี (อ.)
มัยษัม ตัมมาร สหายผู้ใกล้ชิดของอิมามอะลี (อ.)
มัยษัม บุตรชายของยะห์ยา และเป็นบุคคลที่มาจากดินแดนที่มีชื่อว่า “นะฮ์ระวาน” เป็นพื้นที่ที่อยู่ระหว่างอิรักและอิหร่าน บางคนเชื่อว่าเขาเป็นชาวอิหร่าน เนื่องจากเขาเป็นผู้ขายอินทผลัมอยู่ในเมืองกูฟะฮ์ เขาจึงเป็นที่รู้จักในนาม “ตัมมาร” (ผู้ขายอินทผลัม) มัยซัม ตัมมาร เป็นทาสของบนีอะซัด ที่ท่านอมีรุลมุอ์มินีน อะลี บินอบีฏอลิบ (อ.) ได้ซื้อเขาและได้ปลดปล่อยเขาให้เป็นอิสระ
ท่านอิมามอะลี (อ.) ถามเขาว่า “เจ้าชื่ออะไร” เขาตอบว่า “ซาลิม” ท่านอิมามอะลี (อ.) กล่าวว่า “แต่ท่านศาสนทูตของอัลลอฮ์ (ซ็อลฯ) ได้บอกแก่ฉันว่า ชื่อจริงของเจ้าคือ “มัยซัม” (เป็นชื่อที่พ่อและแม่ของเจ้าตั้งให้เจ้า)” มัยซัมได้กล่าวว่า “ศาสนทูตของอัลลอฮ์และท่านพูดถูกต้องแล้ว โอ้ท่านอมีรุลมุอ์มินีน! ชื่อของข้าพเจ้าคือ มัยซัม” ท่านอิมามอะลี (อ.) ได้กล่าวว่า “ชื่อเดิมนั้นดีแล้ว เจ้าจงกลับไปใช้ชื่อเดิมเถิด และเราจะเรียกเจ้าด้วยชื่อนั้น” (1)
อิบนุหะญัร อัซกอลานี ได้เขียนว่า : มัยซัม เป็นทาสของหญิงผู้หนึ่งจากบนีอะซัด ท่านอะลี (อ.) ได้ซื้อเขาและปล่อยเขาเป็นอิสระ (2)
มัยซัม ตัมมาร เป็นสาวกและผู้ช่วยเหลือที่ใกล้ชิดของท่านอิมามอะลี (อ.) ได้เรียนรู้วิชาการและความรู้ต่างๆ จากท่านอิมามอะลี (อ.) แม้แต่ความรู้ที่เป็นเรื่องเร้นลับบางอย่าง ซึ่งท่านอิบนิอับบาสก็ได้รับประโยชน์จากวิชาความรู้บางเรื่องโดยผ่านท่านมัยซัม ตัมมาร
อบูอิสหากได้เขียนว่า : อบูคอลิด ตัมมาร กล่าวว่า : ฉันได้อยู่กับมัยซัม ในเรือลำหนึ่งซึ่งบรรทุกผลทับทิมอยู่ในแม่น้ำฟุร๊อต (ยูเฟรติส) มัยซัมได้กล่าวกับพวกเราว่า “ขณะนี้มุอาวิยะฮ์ได้ตายแล้ว” ผู้รายงานได้กล่าวว่า ในวันศุกร์ข่าวการตายของมุอาวิยะฮ์ได้มาถึง ฉันได้ทำการตรวจสอบเกี่ยวกับเรื่องนี้ และเป็นที่ประจักษ์ว่ามุอาวิยะฮ์ได้เสียชีวิตในวันเดียวกันกับที่มัยซัมได้บอกแก่พวกเราเกี่ยวกับการตายของเขา (3)
อีกข่าวหนึ่งจากเรื่องเร้นลับ (ฆ็อยบ์) ที่มัยซัม ตัมมาร ได้รายงานไว้ นั่นคือเรื่องที่เกี่ยวกับช่วงเวลาที่เขาถูกคุมขังอยู่ในคุกของอุบัยดิลลาฮ์ อิบนิซิยาด พร้อมกับมุคตาร อิบนิอบีอุบัยดะฮ์ อัษษะกอฟีย์ เชคมุฟีดได้เขียนว่า : มัยซัม ได้กล่าวกับมุคตาร ในขณะที่อยู่ในคุกว่า “เจ้าจะยืนหยัดขึ้นต่อสู้เพื่อล้างแค้นให้กับเลือดของท่านอิมามฮุเซน (อ.) และเจ้าจะเป็นผู้สังหารบุคคลผู้นี้ (หมายถึงอุบัยดิลลาฮ์ อิบนิซิยาด) ซึ่งขณะนี้เขาต้องการที่จะสังหารเจ้า” และในขณะที่อุบัยดิลลาฮ์ต้องการที่จะสังหารมุคตารนั้น ก็มีจดหมายฉบับหนึ่งจากยะซีดมาถึงเขา เพื่อให้ปล่อยตัวมุคตาร และมุคตารก็ได้รับอิสรภาพ (4)
มัยซัม ตัมมารได้เล่าว่า : วันหนึ่งท่านอิมามอะลี (อ.) ได้เรียกฉัน และกล่าวกับฉันว่า “โอ้มัยซัม! เจ้าจะทำอย่างไร เมื่ออุบัยดุลลอฮ์ อิบนิซิยาด ลูกนอกสมรส (ลูกซีนา) ผู้เป็นลูกนอกสมรส (ลูกซินา) แห่งบนีอุมัยยะฮ์ ได้เรียกร้องให้เจ้าตัดขาด (และเป็นศัตรู) ต่อฉัน” เขากล่าวว่า “โอ้ท่านอมีรุลมุอ์มินีน! ขอสาบานต่ออัลลอฮ์ว่า ข้าพเจ้าจะไม่ตัดขาดจากท่านอย่างเด็ดขาด” ท่านอิมามกล่าวว่า “ถ้าเช่นนั้น ขอสาบานต่ออัลลอฮ์ว่า เขาจะสังหารเจ้า และจะขึงพืดเจ้า (ไว้บนต้นอินทผลัม)” ตัมมารกล่าวว่า “ข้าพเจ้าจะอดทน สิ่งดังกล่าวในหนทางของอัลลอฮ์ ถือเป็นเรื่องเล็กน้อย” ท่านอิมามอะลี (อ.) ได้กล่าวว่า “โอ้มัยซัมเอ่ย! ถ้าเช่นนั้นเจ้าจะได้อยู่ร่วมกับฉันในฐานันดรเดียวกับฉัน (ในสวรรค์)” (5)
อิบนุฮะญัร อัลอัซกอลานี, ท่านเชคมุฟีดและนักประวัติศาสตร์อีกจำนวนหนึ่งได้เขียนว่า : ท่านอมีรุลมุอ์มินีน (อ.) ได้บอกถึงวิธีการถูกสังหารของมัยซัม ตัมมาร โดยที่ท่านได้กล่าวกับเขาว่า “ภายหลังจากฉันจากไปแล้ว พวกเขาจะจับกุมเจ้า และพวกเขาจะตรึงเจ้า (ไว้บนต้นอินทผลัม) ในวันที่สาม เลือดจะไหลออกจากทางจมูกและปากของเจ้า และมันจะไหลย้อมเคราของเจ้า เจ้าจะเป็นหนึ่งในจำนวนสิบคนที่ถูกตรึงอยู่ในบริเวณปากประตูบ้านของอัมร์ บินหะรีษ ต้นอินทผลัมที่เจ้าจะถูกตรึงนั้นเตี้ยกว่าของบุคคลอื่นทั้งหมด” หลังจากนั้นท่านอิมามอะลี (อ.) ได้ชี้ให้เขาเห็นต้นอินทผลัมดังกล่าว และกล่าวว่า “พวกเขาจะตรึงเจ้าบนต้นอินทผลัมต้นนี้”
หลังจากการเป็นชะฮีด (เสียชีวิต) ของท่านอิมามอะลี (อ.) มัยซัม ตัมมารจะมายังต้นอินทผลัมต้นดังกล่าวเสมอ และจะนมาซในบริเวณดังกล่าว และจะพูดพรรณนากับต้นอินทผลัมต้นนั้น เขาเคยพูดกับอัมร์ บินหะรีษว่า “ฉันจะเป็นเพื่อนบ้านของเจ้า” อัมร์ได้กล่าวกับเขาว่า “ท่านจะซื้อบ้านของอิบนิมัสอูดหรือบ้านของอิบนิฮะกีมอย่างนั้นหรือ” ซึ่งเขาไม่เข้าใจว่าจุดประสงค์ของมัยซัมนั้นคืออะไร (6)
ในปีสุดท้ายของชีวิตของมัยซัม ตัมมาร เขาได้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ ณ บัยตุลลอฮิลฮะรอม และหลังจากนั้นได้เดินทางไปยังนครมะดีนะฮ์ และ ณ ที่แห่งนั้นเขาได้ไปพบกับท่านหญิงอุมมุซะลามะฮ์ มารดาแห่งศรัทธาชน และได้สอบถามท่านหญิงเกี่ยวกับสภาพและเรื่องราวของท่านอิมามฮุเซน (อ.) ท่านหญิงอุมมุซะลามะฮ์ (ร.ฎ.) ได้กล่าวกับเขาว่า “เจ้าเป็นใคร” เขาตอบว่า “ข้าพเจ้าเป็นชาวอิรัก” ดังนั้นท่านหญิงจึงถามเกี่ยวกับเชื้อสายของเขา เขาได้บอกแก่ท่านหญิงว่า เขาเป็นทาสของท่านอิมามอะลี (อ.) ท่านหญิงอุมมุซะลามะฮ์จึงกล่าวว่า “มหาบริสุทธิ์ยิ่งแด่อัลลอฮ์ ขอสาบานต่ออัลลอฮ์ ฉันได้ยินท่านศาสนทูตของอัลลอฮ์ (ซ็อลฯ) ได้สั่งเสียท่านอะลี (อ.) เกี่ยวกับตัวเจ้าในช่วงดึกของค่ำคืนหนึ่ง” จากนั้นท่านได้เรียกหาน้ำหอมและได้ชโลมไปที่เคราของเขา เขาได้กล่าวกับท่านหญิงว่า “พึงรู้เถิดว่า เครานี้จะถูกชโลมไปด้วยเลือด” ดังนั้นท่านหญิงจึงกล่าวกับเขาว่า “ใครบอกเรื่องนี้กับเจ้าหรือ” เขากล่าวว่า “นายของข้าพเจ้าได้บอกเรื่องนี้แก่ข้าพเจ้า” ท่านหญิงอุมมุซะละมะฮ์ได้ร้องไห้ และกล่าวกับเขาว่า “เขาไม่ใช่นายของเจ้าเพียงเท่านั้น แต่เขาเป็นนายของฉันด้วย และเป็นนายของปวงชนมุสลิม” (7)
เชคฏูซีย์ได้เขียนว่า : ท่านอมีรุลมุอ์มินีน (อ.) ได้กล่าวกับมัยซัมว่า “พวกเขาจะตัดมือ ตัดเท้าและลิ้นของเจ้า จากนั้นพวกเขาจะตัดต้นอินทผลัมต้นหนึ่งที่ในตำบลกุนาซะฮ์ของเมืองกูฟะฮ์และจะผ่ามันออกเป็นสี่ส่วน แล้วพวกเขาจะตรึงเจ้าไว้บนส่วนหนึ่งของมัน” มัยซัมได้กล่าวว่า “สิ่งนั้นจะเกิดขึ้นจริงหรือ โอ้ท่านอมีรุลมุอ์มินีน” ท่านอิมาม (อ.) ได้กล่าวว่า “ขอสาบานต่อพระผู้อภิบาลแห่งกะอ์บะฮ์ ท่านศาสนทูตของอัลลอฮ์ได้บอกสิ่งนี้แก่ฉัน”
มัยซัม ตัมมาร ได้เดินทางกลับสู่เมืองกูฟะฮ์ และในปีนั้นเอง หมายถึงในปลายปี ฮ.ศ. 60 สิบวันก่อนที่ท่านอิมามฮุเซน (อ.) จะไปถึงยังแผ่นดินกัรบะลา เขาได้ถูกจับกุมตัวโดยอุบัยดิลลาฮ์ อิบนิซิยาด อุบัยดิลลาฮ์ได้ถามมัยซัม ตัมมาร ว่า “พระเจ้าของเจ้าอยู่ที่ไหน” เขากล่าวว่า “พระองค์ทรงอยู่ ณ มิรซ็อด (สถานที่คอยเฝ้าดู) บรรดาผู้อธรรม และเจ้าคือหนึ่งในจำนวนเหล่านั้น” (8)
และในที่สุดเขาก็ถูกตรึงบนต้นอินทผลัมตามที่ท่านอิมามอะลี (อ.) ได้เคยบอกล่วงหน้าไว้แก่เขา แต่แม้จะถูกตรึงอยู่บนต้นอินทผลัม เขาก็ยังไม่นิ่งเงียบ เขายังคงกล่าวถึงความประเสริฐของอะฮ์ลุลบัยติ์ (อ.) และกล่าวถึงความชั่วร้ายของบนีอุมัยยะฮ์ ด้วยเหตุนี้ อุบัยดิลลาฮ์ อิบนิซิยาดจึงออกคำสั่งให้ตัดลิ้นเขา และในที่สุดเขาก็เป็นชะฮีด (เสียชีวิต)
ในริวายะฮ์ (รายงานบทหนึ่ง) ได้กล่าวว่า : หลังจากที่พวกเขานำตัวมัยซัมไปยังอิบนิซิยาด อิบนิซิยาดได้กล่าวกับเขาว่า “เจ้าจงตัดขาดจากอะลี และจงกล่าวประณามเขา มิเช่นนั้นแล้วฉันจะตัดมือและเท้าของเจ้า และจะตรึงเจ้าบนต้นอินทผลัม” มัยซัมได้ร้องไห้ อิบนิซิยาดได้ถามถึงสาเหตุที่มัยซัมได้ร้องไห้ มัยซัม ได้กล่าวว่า “ฉันไม่ได้ร้องไห้เพราะคำพูดและการกระทำของเจ้า แต่ฉันร้องไห้เนื่องจากสิ่งที่ฉันเคยคลางแคลงสงสัยในสิ่งที่ท่านอะลี (อ.) ได้เคยบอกข่าวกับฉันในเรื่องนี้”
อิบนุซิยาดได้ถามว่า “อะลีนายของเจ้าได้กล่าวอะไรกับเจ้าหรือ” มัยซัมได้เล่าเรื่องราวให้อิบนิซิยาดฟัง อิบนีซิยาดได้กล่าวว่า “ฉันจะตัดมือตัดขาของเจ้า และจะละเว้นลิ้นของเจ้าไว้ เพื่อที่จะทำให้เห็นว่าเจ้าและนายของเจ้าเป็นผู้มุสา” จากนั้นเขาได้ตัดมือและเท้าของมัยซัมและนำเขาขึ้นไปตรึงไว้บนต้นอินทผลัม มัยซัมได้ตระโกนจากข้างบนของหลักประหารว่า “โอ้ประชาชนเอ๋ย! ผู้ใดที่ต้องการจะรับฟังฮะดีษ (วจนะ) ต่างๆ ของท่านอมีรุลมุอ์มินีน (อ.) จงมาทางนี้” ประชาชนจึงได้มารวมตัวกัน อัมร์ บินหะรีษ ได้กล่าวกับอุบัยดิลลาฮ์ อิบนิซิยาดว่า “ข้าพเจ้าเกรงว่าเขาจะทำให้หัวใจของประชาชนชาวกูฟะฮ์เกิดความพลิกผัน และจะทำให้พวกเขายืนหยัดขึ้นต่อต้านท่าน” อุบัยดิลลาฮ์จึงออกคำสั่งว่า “จงไปตัดลิ้นเขา” ดังนั้นพวกเขาจึงได้ตัดลิ้นของมัยซัม และเขาก็เป็นชะฮีด (เสียชีวิต) (9)
การเป็นชะฮีดของมัยซัม ตามบางรายงานนั้นคือ 10 วันก่อนการมาถึงแผ่นดินอิรักของท่านอิมามฮุเซน (อ.) (10) และศพของเขาถูกตรึงอยู่บนหลักประหารในระยะเวลาหนึ่ง (11) เขาเป็นมุสลิมคนแรกที่ถูกสังหารในสภาพที่ถูกตัดลิ้น
เชิงอรรถ :
(1) อัลฆอร๊อต, เล่มที่ 2, หน้าที่ 797
(2) อัลอิซอบะฮ์ ฟี ตัมยีซิซซอฮาบะฮ์, เล่มที่ 6, หน้าที่ 249
(3) อัลฆอร๊อต, เล่มที่ 2, หน้าที่ 572
(4) อัลอิรชาด, เล่มที่ 1, หน้าที่ 325
(5) อิคติยาร มะอ์ริฟะฮ์ อัรริญาล, เล่มที่ 1, หน้าที่ 295
(6) อัลอิซอบะฮ์, เล่มที่ 6, หน้าที่ 250 – 251 ; อัลอิรชาด, เล่มที่ 1, หน้าที่ 324 – 325
(7) อัลฆอร๊อต, เล่มที่ 2, หน้าที่ 798
(8) อัลอิซอบะฮ์, เล่มที่ 6, หน้าที่ 251
(9) อิคตะยาร มะอ์ริฟะติรริญาล, เล่มที่ 1, หน้าที่ 297 – 298
(10) อัลอิซอบะฮ์, เล่มที่ 6, หน้าที่ 251 ; อัลอิรชาด, เล่มที่ 1, หน้าที่ 325
(11) อัลอิซอบะฮ์, เล่มที่ 6, หน้าที่ 251 ; อัลฆอร๊อต, หน้าที่ 575
บทความ : เชคมุฮัมมัดนาอีม ประดับญาติ