เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม

บรรยายวันวิลาดัตท่านศาสดามุฮัมหมัด(ศ็อลฯ)และอิมามญะอฺฟัร ศอดิก(อ) ตอนที่ 1

0 ทัศนะต่างๆ 00.0 / 5

บรรยายวันวิลาดัตท่านศาสดามุฮัมหมัด(ศ็อลฯ)และอิมามญะอฺฟัร ศอดิก(อ) ตอนที่ 1

 

وَمَا أَرْسَلْنَاكَ إِلَّا رَحْمَةً لِّلْعَالَمِينَ
"และเรามิได้ส่งเจ้ามาเพื่ออื่นใดนอกจากเป็นความเมตตาแก่ประชาชาติทั้งหลายในสากลโลก" อัมบิยา/107
وَمَآ أَرْسَلْنَٰكَ إِلَّا كَآفَّةً لِّلنَّاسِ بَشِيرًا وَنَذِيرًا وَلَٰكِنَّ أَكْثَرَ ٱلنَّاسِ لَا يَعْلَمُونَ
"และเรามิได้ส่งเจ้ามาเพื่ออื่นใด เว้นแต่เป็นผู้แจ้งข่าวดีและเป็นผู้ตักเตือนแก่มนุษย์ทั้งหลาย" สะบาอ/28
أَحَسِبَ النَّاسُ أَن يُتْرَكُوا أَن يَقُولُوا آمَنَّا وَهُمْ لَا يُفْتَنُونَ
"มนุษย์คิดหรือว่า พวกเขาจะถูกทอดทิ้งเพียงแต่พวกเขากล่าวว่าเราศรัทธา และพวกเขาจะไม่ถูกทดสอบ" อันกะบูต/2
ภายหลังจากการถูกขับเคี่ยวอบรมบ่มจิตวิญญาณด้วยการปฏิวัติหัวใจมาแล้วในเดือนมุฮัรรอม ไออุ่นอันทรงพลังแห่งเดือนศอฟัรและบารากัตอัรบะอีนฮุซัยนีได้นำพาเราเข้าสู่ฤดูกาลแห่งความผลิบาน ขอแสดงการต้อนรับเข้าสู่เดือนربيع الاولอันจำเริญ  ความสดชื่นผลิบานของมวลหมู่พฤกษชาติแรกแย้มที่ส่งยิ้มเข้ามาทักทายดวงใจของผู้ศรัทธา ดวงใจที่กำลังเบิกบานเช่นกัน เบิกบานและอิ่มเอมไปด้วยการเฉลิมฉลองครบรอบ مولد النبي(ص)และวันประสูติแห่งท่านอิมามญะอฟัรอัศศอดิก(อ)
ขอกล่าวแสดงความยินดีอย่างเป็นทางการแด่ท่านอิมามประจำยุค เมาลาของเรา อิมามมะฮดี(อ)และยังท่านผู้นำสูงสุดอิมามคาเมเนอีย์ ...เนื่องในวันแห่งการถือกำเนิดของสองบุรุษผู้ยิ่งใหญ่แห่งโลกของการสร้าง สองบุรุษผู้มาด้วยความเมตตา อยู่อย่างเหนือชั้น และล้วนต่างกลับไปอย่างสูงส่ง..
*หากอยากทราบถึงระดับความรักและความเมตตาของอัลลอฮ(ซ บ)ที่มีต่อเรา ว่ามันมากมายสักขนาดไหน ให้เรามองไปยังเนี๊ยะหมัตความโปรดปรานทั้งหลายทั้งปวงที่พระองค์ประทานแก่เรา..ดังที่พระองค์กล่าวแก่ นบีมูซา(อ)ว่า:จงทำให้ผู้คนหันมารักข้า (อัลลอฮฺ(ซ บ) ท่านนบีมูซา ถามว่า:อย่างไรเล่าโอ้พระองค์? อัลลอฮ (ซ บ )กล่าวตอบ "จงทำให้พวกเขานับรำลึกถึงความโปรดปรานของข้า ที่ข้าได้มอบแก่พวกเขา.."
**แม้อันที่จริงแล้วเนี๊ยะหมัตและความโปรดปรานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่พระองค์ประทานแก่มวลมนุษยชาตินั้นคือ ริซาละห์แห่งบรรดานบี(อ) และวิลายัตของบรรดาอิมาม(อ)หากปราศจากซึ่งการชี้นำของบรรดาศาสดาและบรรดาอิมามผู้สืบทอดเจตนารมณ์ มนุษย์รวมถึงทุกๆความผาสุข ความสำเร็จ ที่เขาคิดว่าเขามีมันอยู่ ถือเป็นสิ่งไร้ค่า
อัลลอฮ (ซบ)ประทานความโปรดปรานอันยิ่งใหญ่แก่เราในนามของ วิลายัต และจัดสรรปวงบ่าวที่ดีเยี่ยมของพระองค์พลีแด่การชี้นำเรา โดยพระองค์ได้รับเอาคำมั่นสัญญาจากบรรดาท่านเหล่านั้นมาก่อนการจุติลงบนโลกนี้ของพวกท่านเสียอีก ให้บรรดาท่านเป็นผู้ปกครองบริหารดูแลและบันดาลความรักความห่วงใยยังประชาชาติไว้ในหัวใจของท่านเหล่านั้น ปวงบ่าวผู้ยอดเยี่ยมของพระองค์กลุ่มนี้สละพลีทุกอย่างเพื่อเรา พวกท่านถูกกลั่นแกล้งรังแกเพื่อเรา พวกท่านถูกทุบตี ถูกเผาบ้าน ถูกขึงด้วยโซ่ตรวน และถูกสังหารเพื่อความรอดพ้นของเรา..ดังนั้นเเค่การแสดงความรักความชื่นชมเพียงเพราะบรรดาท่านเป็นปวงบ่าวที่ดีของพระองค์จึงไม่เพียงพอต่อการรู้คุณ และยังไม่ใช่สัมพันธภาพที่แท้จริงที่อัลลอฮประสงค์ไว้ให้มีขึ้น เราจึงต้องแสดงความรู้คุณต่อเนี๊ยะหมัตอันยิ่งใหญ่นี้ด้วยการจริงจังตั้งมั่นที่จะรับการชี้นำ เชื่อมั่นในการพัฒนาตน แสดงออกมาเป็นภาคปฏิบัติ จิตใต้สำนึกแห่งความรู้คุณจะหนุนนำเราไปสู่วิลายัต บรรดาบุคคลผู้ไม่ยอมทำความรู้จักกับวิลายัต จะไม่ได้รับอุ่นไอแห่งการชี้นำประคบประหงมเช่นนี้ และจะพลาดโอกาสที่จะรู้สึกได้ถึงความหอมหวานทางจิตวิญญาณอันนี้
มนุษย์ชอบที่จะทั้งได้ฟังการชี้นำสู่ทางที่เที่ยงตรงและได้เห็นแบบอย่างภาคปฏิบัติว่าจะไปสู่ความเป็นมนุษย์ผู้สมบูรณ์ได้อย่างไร โดยอัลลอฮ(ซ บ)ประทานทั้งสองสิ่งนั้นมาให้แล้ว
**ท่านอะมีรุ้ลมุอมินีน อะลี บินอะบีฏอลิบ (อ)กล่าวว่า
كَانَ رَسُولُ اَللَّهِ صَلَّى اَللَّهُ عَلَيْهِ وَ آلِهِ مُكَفَّراً لاَ يُشْكَرُ مَعْرُوفُهُ ..
"แท้จริง(การดำรงอยู่)ของท่านรอซูลุ้ลลอฮ (ศ)นั้นถูกเนรคุณ ไม่ได้รับการรู้คุณอย่างที่ท่านเป็น.."
เพราะเรามักจะนิยามความโปรดปรานที่ดีที่สุดไปตามประสา ตามใจปรารถนาว่าจะต้องหมายถึงการสมหวังทุกประการ โลกต้องเข้าข้างฉันเป็นสีชมพูและถูกปูด้วยพรมแดงเท่านั้นจึงจะถูกเรียกว่าเนี๊ยะหมัต หากผิดเพี้ยนไปจากนี้คือความอัปโชคคำสาปและการลงทัณฑ์ และบ่อยครั้งที่เรามักจะวิงวอนร้องขอต่ออัลลอฮ(ซ บ)ว่า ในความใกล้ชิดกับพระองค์นี้ก็ขออย่าได้ทดสอบเราด้วยบททดสอบที่ยากเย็นแสนเข็ญใดๆเลย เพราะเราทั้งอยากได้ดุนยาที่ครบครันไว้ชื่นชมรื่นรมย์ใจ และทั้งอยากมีอาคิเราะห์ที่สูงส่งสมบูรณ์การ ทว่าตามคำบอกเล่าของบรรดามะอศูมีน(อ)แล้ว การรวมกันของสองสิ่งนี้มันเป็นไปได้ยาก และไม่ได้อยู่ในสารบบแห่งسنة الهي ,ซึ่งมันจะเป็นความอัตโนมัติในสารบบของพระองค์ว่าหากเกิดความขัดข้องขัดสนลำเค็ญใดๆ ในมิติแห่งภาคดุนยานั่นคือบททดสอบและห้องสอบที่หากเราสามารถทำข้อสอบนี้ให้ผ่านไปด้วยดีได้ ประตูแห่งโอกาสที่จะนำไปสู่ระดับขั้นแห่งความสำเร็จทางด้านอาคิเราะห์ กำลังรออยู่ข้างหน้าโดยบรรดาผู้ศรัทธาผู้บรรลุธรรมพวกเขาจะคุ้นชินกับระบบนี้ของพระองค์ ถึงขั้นที่ว่าหากมีประตูใดๆ แห่งผลประโยชน์ทางดุนยาถูกปิดลงเกิดความยากลำบากกับความไม่สมหวังความไม่คล่องตัว(แต่ต้องไม่มาจากปัญหาที่ตนสร้างขึ้นเองนะ)พวกเขาจะไม่มัวทุกข์ระทมหรือสาละวนอยู่กับปัญหานั้นแต่จะหันมาเฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อว่าอีกประตูแห่งมะอนะวียัตที่กำลังจะถูกเปิดออกนั้นคือสิ่งใด อะไรคือความโปรดปรานที่ยอดเยี่ยมกว่าที่พระองค์กำลังจะประทานแก่เขา และเขารู้ดีว่าหากประตูแห่งภาคดุนยานี้ไม่ถูกปิดลง ความคลี่คลายและความโปรดปรานด้านอาคิเราะห์จะไม่มีทางเกิดขึ้นได้ มันคือความเชื่อมั่นที่ได้มาจากระดับขั้นของความศรัทธาที่เพิ่มขึ้นทุกครั้งเมื่อพบเจอกับบททดสอบของบรรดาผู้ศรัทธา ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงไม่สะทกสะท้านต่อความน่ารังเกียจของดุนยาและจะไม่หวั่นไหวต่อความสวยงามของมันอีกด้วย
 ***จริงอยู่ที่ในหลายๆ ครั้งบททดสอบนั้นจะเกิดมาจากการกระทำที่ผิดพลาดและความไม่ดีของเราเอง แต่สิ่งที่ต้องรู้ไว้อีกอย่างคือ ยังมีบททดสอบอีกมากมายเช่นกันที่ถูกจัดสรรมาเนื่องจากความดีงามที่เราได้เคยสร้างสมมา และพระองค์ทรงประทาน ต้องเรียกว่าประทาน..บททดสอบเหล่านี้เพื่อจะปกปักษ์รักษาความเป็นบ่าวที่ดีของเราเอาไว้ ..!!เพื่อจะได้เลื่อนระดับขั้นทางจิตวิญญาณของเราให้ออกดอกผลิบาน  **อัลฮัมดุลิลละห์พวกเราบรรดาชีอะห์ภายใต้แบบอย่างแห่งท่านศาสดา(ศ)และอะอิมมะห์เรามีร่อเบี๊ยะซ้อนร่อเบี๊ยะ ในความผลิบานนั้นจะมีการผลิบานตามมาอีก มีการเติบโต มีการเปลี่ยนแปลงในทุกฤดูกาลแห่งชีอะห์ ในมุฮัรรอมเราจะได้รับความผลิบานและชุ่มฉ่ำกับการร่ำไห้อันทรงคุณค่า ในเดือนรอมฎอนเป็นความผลิบานของอัลกุรอานชุ่มชื่นกับอะมั้ลอิบาดะห์และการถือศีลอด ในเดือนรอบีอุ้ลเอาวั้ลนี้เป็นความผลิบานของท่านศาสดา(ศ)และบรรดาอะห์ลุ้ลบัยต์(อ) ความผลิบานต่างๆที่พระองค์ประทานมานี้ ก็เพื่อส่งผลต่อเนื่องให้เราเองได้จริงจังและตั้งใจที่จะเบ่งบานออกดอกผลิตผลภายหลังที่ได้รับความชุ่มฉ่ำกับความผลิบานต่างๆ มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน เราเองก็ต้องแสดงผลลัพธ์จากการได้รับเนี๊ยะหมัตยิ่งใหญ่นี้ด้วยเช่นกันเพราะความผลิบานของบรรดามะอศูมีนเป็นแบบอย่างของเรา ว่ากันว่าละหมาดรอกาอัตที่สองของท่านนบีมูฮัมหมัด(ศ)นั้นไม่เหมือนรอกาอัตแรก หมายความว่า รูกั๊วในรอกาอัตที่สองของท่านไม่ใช่รูกั๊วของรอกาอัตแรกอีกต่อไป เพราะท่านคือรูปธรรมแห่งความเบ่งบานและการทะยานสู่ความพัฒนาสูงส่ง หากเราไม่สามารถทะยานได้ด้วยความเร็วเทียบเท่าในความเร็วของท่านศาสดา(ศ)แต่เราก็ต้องเริ่มต้นเคลื่อนไหวและขับเคลื่อนตนเองไปสู่เป้าหมายนั้นอย่างจริงจัง ซึ่งริซาละห์แห่งนะบูวัตและวิลายัตแห่งอิมามัตจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับเรา และพระองค์กล่าวไว้ จากฮะดีษของอิมามริฎอ(อ)
 الإمام الرضا (عليه السلام): أحسن الظن بالله، فإن الله عز وجل يقول: أنا عند ظن عبدي المؤمن بي، إن خيرا فخيرا، وإن شرا فشرا
"จงคาดการณ์ดีต่ออัลลอฮ แท้จริงอัลลอฮฺผู้ทรงเกริกเกียรติเกรียงไกรกล่าวว่า "ข้าจะอยู่กับการคาดการณ์ของบ่าวผู้ศรัทธาของข้า..หาก(เขาคิด)ดีดังนั้นมันย่อมดี และหาก(เขาคิด)ร้ายดังนั้นมันย่อมเลวร้าย"
ดังนั้นหากพบเจอบททดสอบจงคิดไปในทางที่ดี ว่าอุปสรรคต่างๆเหล่านี้มีไว้ให้ฟันฝ่า เพื่อจะได้พัฒนาไปสู่ประตูของอีกระดับขั้นหนึ่ง ให้คิดไปในทางบวกโดยการขอบคุณพระองค์ว่าความขัดข้องนี้จะเป็นที่มาของความคลี่คลายของอีกประตูหนึ่งอย่างมั่นใจเชื่อมั่น และจริงจังที่จะพัฒนาตนไปตามแบบอย่างแห่งท่านศาสดา (ศ)ดังตัวอย่างที่หญิงชราแห่งบนีอิสรออีลเคยปฏิบัติไว้ด้วยความเชื่อมั่นของนาง ครั้นเมื่อท่านนบีมูซา(อ)เข้ามาหานางและถามถึงพิกัดสุสานของท่านนบียูซุฟ(อ)จากนาง โดยว่ากันว่านางคือคนเดียวที่รู้สถานที่นั้น ..แทนที่จะชี้ทางแก่ท่านนบีมูซา (อ)นางกลับตอบอย่างฉะฉานว่า "ฉันจะไม่บอก..หากท่านไม่ทำตามเงื่อนไขของฉัน" และเมื่อท่านนบีมูซา(อ)ถามถึงเงื่อนไขนั้น นางก็ตอบทันทีว่า "ท่านต้องรับประกันก่อนว่าฉันจะได้ไปเป็นสหายร่วมสถานที่พำนักเดียวกับท่านในสรวงสวรรค์ "และที่พิเศษกว่านั้นคือ คำตอบตกลงให้ขานรับคำเรียกร้องของนางที่ถูกส่งเสียงมาในหูของท่านนบีมูซา(อ)ในขณะที่ท่านกำลังชะงักงงงวยว่าจะตอบหญิงชราคนนี้อย่างไรดี ......


ขอขอบคุณ เพจ สถาบันศึกษาศาสนา อัล-มะฮฺดียะห์

 

กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วย

ความคิดเห็นของผู้ใช้งานทั้งหลาย

ไม่่มีความคิดเห็น
*
*

เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม