บรรยายวันวิลาดัตท่านศาสดามุฮัมหมัด(ศ็อลฯ)และท่านอิมามญะอฺฟัร ศอดิก(อ) ตอนที่ 2

บรรยายวันวิลาดัตท่านศาสดามุฮัมหมัด(ศ็อลฯ)และท่านอิมามญะอฺฟัร ศอดิก(อ)  ตอนที่ 2


หญิงชราแห่งบนีอิสรออีลนางนี้เผชิญหน้ากับชีวิตอย่างจริงจัง นางให้เกียรติแก่ตนเองและใช้โอกาสทองอย่างเต็มที่ เพราะสิ่งสำคัญสุดสำหรับนางคือการเป็นที่ยอมรับของพระผู้เป็นเจ้าและการได้เคียงบ่าเคียงไหล่ภายใต้ร่มธงแห่งนะบูวัตในยุคของนาง แล้วเรารู้จักที่จะใช้ประโยชน์จากทุกเนี๊ยะหมัตที่มีอยู่ในการขับเคลื่อนตนไปในทางนี้หรือไม่?? และสาเหตุที่เราอาจไม่ทำเช่นนี้ เพราะการขาดความเชื่อมั่นในตนเองว่า อันที่จริงเราจะต้องเป็นใคร และทุกสิ่งที่เราตั้งใจจริงและขอจากอัลลอฮ(ซ บ) พระองค์จะประทานให้ด้วยความเมตตา ซึ่งหญิงชราคนนี้มีความเชื่อมั่นในคำขอ และเช่นเดียวกันกับดุอาของอุสต๊าดกิรออะตีย์ ผู้มีความบริสุทธิ์ใจเพื่อศาสนาของพระองค์ตั้งแต่ท่านยังเป็นหนุ่ม ท่านมีวิถีในการตับลีฆที่ทุ่มเททุกวิธีทาง แม้ท่านจะยากจนและไม่ได้มีอุปกรณ์เสริมในการเผยแพร่ ท่านไปเขียนใบปริวทิ้งไว้ตามสถานที่ต่างๆ ว่าตามที่อยู่นี้มีการเรียนการสอนอัลกุรอ่าน วันหนึ่งในฮะรัมอิมามริฎอ(อ)ท่านวิงวอนไว้ว่าให้ได้รับใช้อิมามแห่งยุคสมัยในการเผยแพร่วิชาการศาสนาชนิดที่คนทั่วทั้งโลกจะได้ยินเสียงท่าน ซึ่งหลังจากที่ขอดุอานี้จบท่านยังเหลียวหลังมองดูซ้ายขวาว่าจะมีใครได้ยินเสียงของท่านหรือไม่ เพราะท่านอาจขอไปในสิ่งที่ใหญ่เกินตัว เพียงแต่ ณ เวลานั้นเป็นคำขอที่ออกมาความตั้งใจจริง และความตระหนักรู้ คำขอจึงสัมฤทธิ์ผลจนทุกวันนี้ท่านเป็นหนึ่งในผู้รู้ผู้โด่งดังที่มีคนทั่วโลกรู้จักท่านจริงๆ
** ฉะนั้นหากเราได้ตระหนักถึงเป้าหมายในการถูกประทานท่านศาสดา(ศ)เป้าหมายของวันนี้วันแห่งการถือกำเนิดทั้งท่านศาสดา(ศ)และท่านอิมามญะอฟัรอัศศอดิก (อ)ดังโองการข้างต้น
وَمَا أَرْسَلْنَاكَ إِلَّا رَحْمَةً لِّلْعَالَمِينَ
وَمَآ أَرْسَلْنَٰكَ إِلَّا كَآفَّةً لِّلنَّاسِ بَشِيرًا وَنَذِيرًا وَلَٰكِنَّ أَكْثَرَ ٱلنَّاسِ لَا يَعْلَمُونَ
ยิ่งเรามีความเข้าใจ,มีความรู้จักต่ออัลลอฮ(ซ บ)และร่อซูลมากเพียงใด ความเข้าใจในตัวเองในความสำคัญของตนเองจะมีมากขึ้นเท่านั้น ในความเป็นรัศมีเดียวกันของบรรดามะอศูมีน(อ)ในเดือนร่อบีอุ้ลเอาวั้ลนี้เราจะต้องเสริมสร้างความศรัทธาให้คงมั่นจนได้เห็นตนเองและหน้าที่ของตนเองให้ชัดเจนในยุคของอิมามของเรา ท่านอุสต๊าดมีรบากิรีย์มีคำกล่าวสำคัญที่เกี่ยวกับประเด็นนี้ว่า :ในการปฏิบัติภาระกิจของท่านศาสดา(ศ)ซึ่งหมายถึงการค้ำจุนบริหารดูแลโลกนี้ จะมีการมอบความรู้ให้แก่มวลมนุษย์ชาติแต่ละคนไปตามระดับความจุที่เขาจะสามารถล่วงรู้ถึงความลับที่ว่า เขาอยู่ในจุดใดของภาระกิจและจะต้องกระทำสิ่งใด..เราลองคิดดูว่า หากเราทุกคนมีโอกาสได้ล่วงรู้ถึงข้อเท็จจริงอันนี้ว่า อิมามสะมาน(อ)ของเราต้องการสิ่งใดจากเรา จากฉันคนนี้ เพราะหนึ่งในสิ่งที่เป็นพันธกิจของท่านนั้นคือการตัรบียะห์พวกพ้อง บรรดาสหาย บรรดาทหารของท่าน ในช่วงฆอยบัตนี้ เราตระหนักรู้ในสิ
เราตระหนักรู้ในสิ่งนี้หรือไม่?เราคิดใคร่ครวญหรือไม่ว่า ในภาระกิจของอิมามสะมานของเรา เราอยู่ในจุดใด และจะต้องทำสิ่งใด เราคิดถึงความเป็นไปได้ของสิ่งนี้มากน้อยเพียงใด เมื่อเราจินตนาการถึงตัวเองในยุคทองของพระศรีอารย์เราวางตนเองไว้ตรงไหน เหตุใดพวกเราส่วนใหญ่จึงมีความคิดแค่ว่าจะได้รับใช้ทหารของอิมามในส่วนเล็กน้อย และไม่คิดว่าเราจะต้องยืนอยู่ในจุดที่จำเป็นที่เด่นชัดโดยตรงอันหนึ่งในการรับใช้อิมามสะมาน(อ)ของเรา..เราบางคนอาจจะไม่เคยนับตัวเองในแถวทหารของท่านด้วยซ้ำ อาจมองว่าเป็นเรื่องไกลตัว นั่นมาจากความไม่มั่นใจและการที่ยังไม่มีความเข้าใจในความลับของภาระกิจเพื่อจะได้ให้เกียรติตนเองเช่นหญิงชราแห่งบนีอิสรออีลที่นางได้มั่นใจ ดังชะฮีดท่านหนึ่งที่มีควรปรารถนาในชีวิตว่าจะต้องจากโลกนี้ไปแบบไร้ศีรษะคู่กายเฉกเช่นเมาลาฮุเซน(อ)ของตน โดยเขาได้ขุดหลุมที่ตั้งใจไว้ให้เป็นสุสานของตน ที่มีความยาวเท่ากับลำตัวของเขานับเพียงจากไหล่ลงมาจรดปลายเท้าไว้เท่านั้น ด้วยความมุ่งมั่นและเชื่อมั่นในการร่วมพันกิจกับอิมามในยุคแห่งตน ซึ่งก็เป็นเช่นนั้นจริง ในที่สุดร่างไร้วิญญาณของชะฮีดท่านนี้ได้ถูกนำกลับมาฝังในสุสานที่เขาได้เตรียมไว้ด้วยตนเองอย่างสมเกียรติ และไร้ศีรษะสมใจปรารถนา ..
เดือนรอบีอุ้ลเอาวั้ลเป็นเดือนแห่งการสำแดงความเชื่อและความศรัทธายังเอกองค์อัลลอฮ (ซ บ)
ครั้งหนึ่งในวัยหนุ่มเมื่ออุสต๊าดกิรออะตีย์ยืนอยู่ในฮารัมของอิมามมุ๊รระอูฟ ริฎอ(อ)ผู้รู้ท่านหนึ่งที่กำลังจ้องมองมายังอุสต๊าดกิรออะตีย์ ซึ่งในขณะนั้นกำลังหมกมุ่นอยู่กับการปฏิบัติอะมั้ลในการซิยารัต อ่านดุอาและอัลกุรอาน ผู้รู้ท่านนั้นเดินตรงเข้ามาทักทายท่านแล้วถามว่า "ไอ้หนุ่ม..เอ็งเป็นนักเรียนศาสนามากี่ปีแล้ว "..." หลายปีแล้วขอรับ"อุสต๊าดกิรออะตีย์ในวัยหนุ่มกล่าวตอบ ผู้รู้ท่านนั้นกล่าวต่อทันทีว่า"เมื่ออะมีรุ้ลมุอมินีนอะลี(อ)เหนื่อยล้าจากสถานการณ์บีบคั้นต่างๆ ที่เกิดขึ้นในยุคของท่าน ท่านจะมองไปยังบรรดาสหายผู้จงรักภักดีของท่าน มิกดารของท่าน อะบูซัรของท่าน อัมมารของท่าน ซัลมานของท่าน แล้วท่านจะชื่นใจหายเหนื่อยด้วยความภูมิใจในตัวพวกเขา..เจ้าเคยคิดบ้างไหมว่า :หากอิมามสะมาน(อ)จ้องมองมายังเจ้า..แล้วท่านจะชื่นใจหายเหนื่อยด้วยหรือไม่..?".


«اللَّهُمَّ اجْعَلْنِي مِنْ أَنْصَارِهِ وَأَعْوَانِهِ، وَالذَّابِّينَ عَنْهُ، وَالْمُسَارِعِينَ إِلَيْهِ فِي قَضَاءِ حَوَائِجِهِ، وَالمُمْتَثِلينَ لأَوَامِرِه، وَالْمُحَامِينَ عَنْهُ، وَالسَّابِقِينَ إِلَى إِرَادَتِهِ، وَالْمُسْتَشْهَدِينَ بَيْنَ يَدَيْهِ».
اللهم أید قائدنا ،واحفظ قائدنا سید علی خامنه‌ای
اللهم عجل لولیک الفرج

 ขอขอบคุณ เพจสถาบันศึกษาศาสนา อัล-มะฮฺดียะห์