เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม

ตำแหน่งและฐานภาพของท่านหญิงฟาฏิมะฮ์ซะฮ์รอ (อ) ผ่านมนุษย์ 250 ปี โดยอิมามคาเมเนอีย์

0 ทัศนะต่างๆ 00.0 / 5

ตำแหน่งและฐานภาพของท่านหญิงฟาฏิมะฮ์ซะฮ์รอ (อ) ผ่านมนุษย์ 250 ปี โดยอิมามคาเมเนอีย์ 


บทที่ 11 ตำแหน่งและฐานภาพของท่านหญิงฟาฏิมะฮ์ซะฮ์รอ (อ)
หัวข้อ ตำแหน่งและฐานภาพของท่านหญิงฟาฏิมะฮ์ซะฮ์รอ (อ)

 เรื่องของท่านหญิงฟาฏิมะฮ์ซะฮ์รอ (อ) เป็นเรื่องที่เราไม่สามารถทำความเข้าใจได้ด้วยปัญญา,จินตนาการหรือการคิดเพียงลำพัง เพราะความจริงของเรื่องนี้ยิ่งใหญ่เกินกว่าที่ปัญญาของปัจเจกอย่างเราจะเข้าถึง (ตรงตามภาษาท่านกล่าวว่า หนึ่งสิ่ง หนึ่งจินตนาการ หนึ่งมโนทัศน์ หนึ่งความคิดของเรา อยู่ตรงไหน แล้วความจริงแท้เหล่านี้ ซึ่งมันยิ่งใหญ่เกินกว่าความคิดของเรา นั้นเล่า อยู่ตรงไหน : เป็นการเปรียบเปรยว่า ระหว่างความรู้และความเข้าใจของมนุษยทั่วไปที่มีต่อท่านหญิง กับ ท่านหญิงในความเป็นจริง ต่างกันราวฟ้ากับเหว)
แท้จริงแล้วบุตรีของศาสดา  คือ ความลึกลับที่ไม่อาจคลี่คลายทั้งในความคิดและความรู้ของมนุษยชาติ
หากวางมนุษยชาติไว้ฝั่งหนึ่ง และวางบรรดามวลมิตรเอาลียาของพระเจ้าไว้อีกฝั่ง แม้บรรดามวลมิตรของพระเจ้าจะมีจำนวนน้อยแต่คุณค่าของพวกเขากลับมีน้ำหนักที่มากยิ่งกว่า เพราะหากเรานำตราชั่งแห่งการรู้แจ้งต่อแก่นแท้ของโลกและความใกล้ชิดกับพระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นแหล่งกำเนิดของทุกภวันต์และตัวตนที่ดำรงอยู่ทั้งปวง มาเป็นตัวชี้วัด คุณค่าของเอาลียาอัลลอฮ์แต่ละท่าน จะมีน้ำหนักที่มากยิ่งกว่า จะมีความยิ่งใหญ่กว่า จะเจิดจรัสยิ่งกว่าผู้อื่นที่ไม่ใช่เอาลียาและทุกตัวตนที่ไม่ใช่เอาลียา (จากนั้น)เมื่อมองแถวของเอาลียาและปวงบ่าวของอัลลอฮ์ผู้เป็นซอลีฮีนทั้งปวง จะเห็นจุดสูงสุดอยู่ จุดสูงสุดนั้น มันคือยอดปลายที่ไม่อาจจินตนาการ ไม่อาจหยั่งถึง และไม่ธรรมดาแม้จะนำมาเทียบกับมนุษย์ผู้ยิ่งใหญ่ในโลกใบนี้แล้วก็ตาม นี่คือความแตกต่าง คือ ความแตกต่างที่แจ่มแจ้ง จุดสูงสุดนั้นคือบุคคลที่อยู่ในประวัติศาสตร์ศาสดา พวกเขาคือคนที่ไม่ว่าท่านจะใช้สายตาสอดส่องไป ณ แห่งหนใด ท่านจะเห็นพวกเขาจากทุกทิศทาง เหมือนอัมบียาอูลุลอัซม์ จัดอยู่ในกลุ่มผู้ยิ่งใหญ่ประเภทเดียวกัน อยู่ในแถบและขอบเดียวกัน
ทั้งความยิ่งใหญ่และความเจิดจรัสของพวกเขา ท่ามกลางความประเสริฐเหล่านั้น มันได้ทำลิ้นของเรา กลายเป็นลิ้นที่ติดอ่าง พูดจาตะกุกตะกัก ยากจะเอ่ยปากให้จบความ
คนอย่างเรา เมื่อเทียบกับหัวใจและวิญญาณของพวกเขาแล้ว ไม่ต่างอะไรกับเศษอณูและเศษ(ดิน) ต่ำต้อยด้อยค่าเกินกว่าจะขอเข้าถึงด้านแห่งจิตวิญญาณอันหลากหลายของพวกเขา(เราไร้ความสามารถในการประจักษ์ถึงตัวตนทางจิตวิญญาณของพวกเขา) เช่นเดียวกัน มโนทัศน์และความเข้าใจที่อยู่ในความคิดของพวกเขา(มนุษย์ทั่วไป)ที่ถูกเปล่งออกมาเป็นคำพูดนั้น ก็เป็นได้เพียงแค่คำพูดของพวกเขาเอง(ไม่ว่าจะพูดถึงท่านหญิงอย่างไร ก็ยังถือว่าเป็นคำพูดของมนุษย์ทั่วไป)
มีตัวอย่างหายากที่ค่อนข้างเหนือกว่าการบรรยายหรืออธิบายลักษณะ(ของท่านหญิงในแบบทั่วๆไป) หนึ่งในตัวอย่างคือ มีเพียงศาสดาและอมีรุลมุอฺมีนีนเท่านั้นที่สามารถเปรียบเทียบท่านหญิงฟาฏิมะฮ์อัซซะฮ์รอได้(เช่น การที่ศาสดา เปรียบตัวท่านเอง(ศ็อล)กับท่านหญิงและกล่าวถึงท่านหญิงว่า ท่านหญิงคือ อุมมุอบีฮา บทบาทของท่านหญิงเป็นดั่งผู้ที่ทำหน้าที่ประหนึ่งมารดาต่อผู้เป็นบิดาของตนเอง นี่เป็นตัวอย่างที่นับว่าเหนือกว่าคำบรรยายทั่วๆไป)
ท่านหนึ่งเป็นศาสดา ท่านหนึ่งเป็นมะอฺศูมเป็นอิมามและตัวแทนของศาสดา อีกท่านไม่ได้ถูกนำเสนอหน้าที่ในทำนองนี้อย่างเป็นทางการ แต่กลับอยู่ในแถวและระดับเดียวกัน อยู่ในแถวเดียวกันกับศาสดาและอิมาม  กล่าวคือ ตำแหน่งของผู้ยิ่งใหญ่ท่านนี้(ท่านหญิงฟาฏิมะฮ์) เป็นไปในรูปแบบที่แม้แต่อุลามาเองก็ยังต้องศึกษาและตั้งคำถามว่า ระหว่างท่านหญิงฟาฏิมะฮ์ อัซซะฮรอ กับ ท่านอิมามอาลี บิน อบีฏอลิบ ผู้ใดบริสุทธิ์ยิ่งกว่ากัน ผู้ใดสูงส่งยิ่งกว่ากัน นี่เป็นมะกอมหนึ่งที่บรรดาผู้ยิ่งใหญ่ในอิสลามต้องมานั่งศึกษากัน บางคนพูดว่า ท่านหญิงซะฮ์รอสูงส่งกว่า บางคนก็พูดว่า ท่านอิมามอาลี(อ)สูงส่งกว่า ? ตามรายงานของอิมามอัสการีย์(อ) ท่านอิมาม(อ)กล่าวว่า
نحن حجج اللّه على خلقه، و جدّتنا فاطمة حجة اللّه علينا 
“เราคือฮุจญัต(ข้อพิสูจน์/หลักฐาน)ของอัลลอฮ์สำหรับสิ่งถูกสร้างทั้งปวงของพระองค์ ส่วนย่าของเราท่านหญิงฟาฏิมะฮ์ คือ ฮุจญัตของอัลลอฮ์สำหรับพวกเรา” [1]
จากรีวายัตบทนี้ ท่านหญิงฟาฏิมะฮ์ คือ ฮุจญัตของฮุจญัตของอัลลอฮ ส่วนอิมามคือบรรดาอะอิมมะฮ์ จะมีใครสูงส่งกว่านี้ได้อีกหรือ ?

 อ้างอิง
[1] عوالم العلوم و المعارف و الأحوال من الآیات و الأخبار و الأقوال  ,  الجزء۱۱  ,  الصفحة۱۰۲۹
มนุษย์ 250ปี เล่ม 3 หน้า 110-111

กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วย

ความคิดเห็นของผู้ใช้งานทั้งหลาย

ไม่่มีความคิดเห็น
*
*

เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม