ความกริ้วโกรธของท่านหญิงฟาฏิมะฮ์(อ) คือ ความกริ้วโกรธของอัลลอฮ์(ซ.บ.)

ความกริ้วโกรธของท่านหญิงฟาฏิมะฮ์(อ) คือ ความกริ้วโกรธของอัลลอฮ์(ซ.บ.)

 

ความรักของท่านศาสดา(ศ็อลฯ)ที่มีต่อท่านหญิงฟาฏิมะฮ์(อ) ไม่ได้เป็นแค่ความรักของพ่อที่มีต่อลูกสาวหรือบุตรเท่านั้น ท่านศาสดา(ศ็อล)มีบุตรและบุตรีคนอื่นๆเช่นกัน พวกเขาเติบโต พวกเขาแต่งงาน พวกเขาเป็นพี่สาวน้องสาวของท่านหญิงฟาฏิมะฮ์ (อ) อย่างไรก็ตาม พวกเขาเสียชีวิตในช่วงสมัยที่ท่านศาสดา(ศ็อล)ยังมีชีวิต แต่ในเรื่องนี้ ท่านศาสดา(ศ็อล)ไม่เคยแสดงความรักต่อบุตรีคนใดของท่านเหมือนที่แสดงต่อท่านหญิงฟาฏิมะฮ์(อ)มาก่อน และความรักที่แสดงออกมา ก็เป็นความรักที่ผสมผสานกับการให้เกียรติ มีพ่อคนไหนบ้างที่จูบมือลูกสาวของตนด้วยการให้เกียรติเช่นนี้ ?


     ท่านศาสดา  (ศ็อลฯ)  ผู้ทรงเกียรติ  กล่าวใว้ว่า


                إنّ اللهَ یَغضِبُ لِغَضَبِکِ

“แท้จริงพระองค์อัลลอฮ์(ซ.บ.)  จะพิโรธ เพื่อความพิโรธของท่านหญิงฟาฏิมะฮ์(อ)"


กล่าวคือ สิ่งที่ทำให้ท่านหญิงฟาฏิมะฮ์(อ)  กริ้ว พระผู้อภิบาลแห่งพิภพก็จะทรงกริ้วต่อสิ่งนั้นด้วย สิ่งใดที่ทำให้ท่านหญิงฟาฏิมะฮ์ซะฮ์รอ(อ)พึงพอใจ พระองค์ก็จะทรงพึงพอใจต่อสิ่งนั้นด้วยเช่นกัน ทั้งถ้อยคำของท่านศาสดา(ศ็อล)  ทั้งถ้อยคำของพระผู้อภิบาล เมื่อยกประโยคหนึ่งกล่าวถึงซะฮ์รอ เช่น ถ้อยคำของพระเจ้า เป็นต้นว่า “ความโกรธของท่านหญิงฟาฏิมะฮ์(อ) คือ เหตุแห่งความกริ้วของพระเจ้า” ความหมายของถ้อยคำนี้คือ การที่พระผู้เป็นเจ้าทรงเอ่ยถ้อยคำ และจากนั้นทรงยกให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของฐานันดรของท่านหญิงโดยชี้ว่าความโกรธของพระนางคือความโกรธของพระเจ้า แสดงนัยว่า หากพระนางต้องประสบกับเหตุที่ทำให้กริ้ว ไม่ว่าจะเป็นปรากฎการณ์ที่จะเกิดขึ้นในโลก, การกระทำ, การหลงผิดของผู้คน หรือ ความไม่รู้ของผู้คน หรือ ความโชคร้ายของผู้คน พระองค์อัลลอฮ(ซ.บ)ก็จะทรงกริ้วเนื่องด้วยความกริ้วนั้นของท่านหญิงฟาฏิมะฮ์ซะฮ์รอ (อ) ด้วย นี่คือ หนึ่งรีวายัต


 สรุปเนื้อหาในตัวบท

ท่านศาสดา(ศ็อลฯ) แสดงความรักต่อท่านหญิงฟาฏิมะฮ์(อ) ในแบบที่ไม่เคยแสดงความรักต่อบุตรคนใดของท่านมาก่อน หนึ่งในข้อพิสูจน์ คือ ความรักของท่านศาสดา เป็นความรักที่ผสมผสานกับการให้เกียรติอย่างลึกซึ้ง

ริวายัตชุดหนึ่งระบุว่า ความโกรธของท่านหญิง คือ ความโกรธของอัลลอฮ์(ซ.บ.) ริวายัตกลุ่มนี้แสดงให้เห็นถึงฐานันดรของท่านหญิงในทัศนะของพระผู้เป็นเจ้า พระองค์ทรงแสดงให้เรารู้ว่า มาตรวัดความพึงพอใจของพระผู้เป็นเจ้า ให้ดูที่ความพึงพอใจของท่านหญิงฟาฏิมะฮ์(อ)  และผู้กล่าวฮาดีษคือ ท่านศาสดา(ศ็อล)

  
อ้างอิง มนุษย์ 250 ปี เล่ม 3 หน้า 111