เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม

ภารกิจแห่งยุคสุดท้ายของศาสดา (ซ็อลฯ) จะเสร็จสมบูรณ์ด้วยการมาของอิมามมะฮ์ดี (อ.)

0 ทัศนะต่างๆ 00.0 / 5

ภารกิจแห่งยุคสุดท้ายของศาสดา (ซ็อลฯ) จะเสร็จสมบูรณ์ด้วยการมาของอิมามมะฮ์ดี (อ.)

 

หนึ่งในภารกิจที่อัลลอฮ์ทรงอธิบายแก่ท่านศาสดา (ซ็อลฯ) คือการปกครองและการชี้นำโลกและมนุษยชาติไปสู่อารยธรรมหนึ่ง ซึ่งจะแผ่ปกคลุมไปทั่วโลกในยุคสุดท้าย (อาคิรุซซะมาน)

    พระผู้เป็นเจ้า ผู้ทรงสูงส่งทรงกำหนดให้ศาสดาแต่ละคนเป็นหลักฐานและข้อพิสูจน์ (ฮุจญะฮ์) สำหรับประชาชนทุกคนในยุคของตน และศาสดาแต่ละท่านจะแจ้งข่าวดีถึงการมาของศาสดาภายหลังจากตน ดั่งเช่นที่ท่านศาสดาอีซา (อ.) ในฐานะที่เป็นข้อพิสูจน์และผู้ชี้นำ (ฮาดี) ในยุคของตน ท่านก็ได้แจ้งข่าวดีแก่ประชาชนทั้งหลายเกี่ยวกับการมาของศาสดาท่านสุดท้าย นั่นก็คือ ท่านศาสดามุฮัมมัด (ซ็อลฯ) ซึ่งพระผู้เป็นเจ้าทรงตรัสไว้ในโองการที่ 6 ของอัลกุรอานบท (ซูเราะฮ์)อัซซ็อฟฟุ ว่า :

وَ إِذْ قالَ عیسَى ابْنُ مَرْیَمَ یا بَنی‏ إِسْرائیلَ إِنِّی رَسُولُ اللَّهِ إِلَیْکُمْ مُصَدِّقاً لِما بَیْنَ یَدَیَّ مِنَ التَّوْراةِ وَ مُبَشِّراً بِرَسُولٍ یَأْتی‏ مِنْ بَعْدِی اسْمُهُ أَحْمَدُ

"และจงรำลึก เมื่ออีซา บุตรของมัรยัม ได้กล่าวว่า โอ้วงศ์วานอิสรออีลเอ๋ย แท้จริงฉันเป็นศาสนทูตของอัลลอฮ์ที่ถูกส่งมายังพวกท่าน เป็นผู้ยืนยันสิ่งที่มีอยู่ในเตารอต ก่อนหน้าฉัน และเป็นผู้แจ้งข่าวดีถึงศาสนทูตคนหนึ่ง ผู้จะมาภายหลังฉัน ชื่อของเขาคือ อะห์มัด"

    ด้วยเหตุนี้เองที่เมื่อพระผู้เป็นเจ้าทรงประสงค์ที่จะแนะนำท่านศาสมุฮัมมัด (ซ็อลฯ) พระองค์จึงทรงแนะนำท่านในฐานะศาสนทูตสำหรับมนุษยชาติทั้งมวล โดยที่พระองค์ทรงตรัสไว้ในโองการที่ 158 ของอัลกุอานบท (ซูเราะฮ์) อัลอะอ์รอฟ ว่า :

قُلْ یا أَیُّهَا النَّاسُ إِنِّی رَسُولُ اللَّهِ إِلَیْکُمْ جَمیعاً

“(โอ้มุฮัมมัด) จงกล่าวเถิดว่า แท้จริงฉันคือศาสนทูตของอัลลอฮ์ที่มายังพวกท่านทั้งมวล”

    ในเรื่องนี้ ภารกิจประการหนึ่งที่พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงอธิบายแก่ท่านศาสดามุฮัมมัด (ซ็อลฯ) คือการปกครองและการชี้นำโลกและมนุษยชาติไปสู่อารยธรรมหนึ่งซึ่งจะแผ่ปกคลุมไปทั่วในยุคสุดท้ายของโลก ซึ่งก็คืออารยธรรมที่เรากล่าวถึงด้วยชื่อเช่น อารยธรรมแห่งยุคซุฮูร (การปรากฏตัว) ของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.) หรือมุลก์มะห์ดาวี (อำนาจการปกครองแห่งมะฮ์ดี) พระผู้เป็นเจ้าทรงตรัสเกี่ยวกับเรื่องนี้ในโองการที่ 8 และ 9 ของอัลกุรอานบท (ซูเราะฮ์) อัซซ็อฟฟุ ว่า :

یُریدُونَ لِیُطْفِؤُا نُورَ اللَّهِ بِأَفْواهِهِمْ وَ اللَّهُ مُتِمُّ نُورِهِ وَ لَوْ کَرِهَ الْکافِرُونَ؛

"พวกเขา (บรรดาศัตรู) ปรารถนาที่จะดับแสง (นูร) ของอัลลอฮ์ด้วยปากของพวกเขา และอัลลอฮ์จะทรงทำให้แสงของพระองค์สมบูรณ์ แม้บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาจะรังเกียจก็ตาม"

    และในโองการถัดมา พระองค์ทรงตรัสว่า :

هُوَ الَّذی أَرْسَلَ رَسُولَهُ بِالْهُدى‏ وَ دینِ الْحَقِّ لِیُظْهِرَهُ عَلَى الدِّینِ کُلِّهِ وَ لَوْ کَرِهَ الْمُشْرِکُونَ

“พระองค์คือผู้ทรงส่งศาสนทูตของพระองค์มาพร้อมด้วยทางนำและศาสนาแห่งสัจธรรม เพื่อที่พระองค์จะทรงทำให้มันพิชิตเหนือศาสนาทั้งมวล แม้ว่าบรรดาผู้ตั้งภาคีจะรังเกียจก็ตาม"

    เมื่อพิจารณาภาพรวมในเบื้องแรก โองการเหล่านี้บ่งชี้ถึง 6 ประเด็น คือ :

1. นับจากจุดเริ่มต้นของศาสนาอิสลาม พระผู้เป็นเจ้าทรงมีแผนที่เรียกว่าการทำให้แสง (นูร) ของพระองค์สมบูรณ์และครอบคลุมไปทั่วโลก

2. ศัตรูพยายามที่จะขัดขวางกระแสของนูร (แสง) นี้

3. เพื่อความก้าวหน้าของแผนอันยิ่งใหญ่นี้ พระผู้เป็นเจ้าทรงแต่งตั้งศาสนทูตท่านหนึ่งมาเพื่อเป็นช่องทางดำเนินไปของแสง (นูร) ของพระองค์

4. ศาสนทูตผู้นี้จะพิชิตศาสนาและแนวทางอื่นๆ ด้วยเครื่องมือสองอย่างคือ «الهُدی» (ทางนำ) และ «دین‌الحق» (ศาสนาหรือแนวทางแห่งสัจธรรม) เพื่อให้กระบวนการของความสมบูรณ์ของแสง (นูร) ของพระผู้เป็นเจ้าเสร็จสิ้นสมบูรณ์ในทั่วทุกมุมโลก

5. กระบวนการนี้ เมื่อพิจารณาถึงประโยคที่ว่า «وَ اللَّهُ مُتِمُّ نُورِهِ» "และอัลลอฮ์จะทรงทำให้นูร (แสง) ของพระองค์สมบูรณ์" นั้น ขณะนี้ยังไม่ถึงจุดที่สมบูรณ์ แต่ยังจำเป็นต้องดำเนินต่อไป ดังนั้นในแต่ละยุคสมัย ผู้ปกครองที่ได้รับการแต่งตั้งโดยผ่านท่านศาสนทูตของอัลลอฮ์ (ซ็อลฯ) หรือ "อุลิลอัมร์" จะต้องมาเพื่อทำให้ภารกิจอันยิ่งใหญ่นี้พัฒนาก้าวหน้าต่อไป ดังที่ท่านอิมามกาซิม (อ.) ได้กล่าวไว้ในการตีความ (อายะฮ์) โองการนี้ว่า :

هُوَ الَّذِی أَرْسَلَ رَسُولَهُ بِالْهُدی‏ وَ دِینِ الْحَقِّ قَالَ هُوَ الَّذِی أَمَرَ رَسُولَهُ بِالْوَلَایَةِ لِوَصِیِّهِ وَ الْوَلَایَةُ هِیَ دِینُ الْحَقِّ

"พระองค์คือผู้ที่ส่งศาสนทูตของพระองค์มาพร้อมด้วยทางนำและศาสนาแห่งสัจธรรม" ท่านกล่าวว่า "พระองค์คือผู้ทรงบัญชาศาสนทูตของพระองค์ให้ประกาศเกี่ยวกับวิลายะฮ์ และวิลายะฮ์ ก็คือ ดีนุลฮักก์" (1)

6. ปรัชญาในการแต่งตั้งบรรดาศาสนทูตนั้นก็เพื่อภารกิจอันยิ่งใหญ่ที่พระผู้เป็นเจ้าทรงตรัสถึงในฐานะ "การทำให้นูร (แสง) ของพระผู้เป็นเจ้าสมบูรณ์"

    ในโองการที่ 9 ของอัลกุรอานบท (ซูเราะฮ์) อัซซ็อฟฟุ ในประโยคที่ว่า «لِیُظْهِرَهُ عَلَی الدِّینِ کُلِّهِ» "เพื่อที่พระองค์จะทรงทำให้มันพิชิตเหนือศาสนาทั้งมวล" ท่านอิมามมูซากาซิม (อ.) ได้อธิบายว่า «یُظْهِرُهُ عَلَی جَمِیعِ الْأَدْیَانِ عِنْدَ قِیَامِ الْقَائِمِ» "พระองค์จะทรงทำให้ศาสนาแห่งสัจธรรมพิชิตเหนือศาสนาทั้งมวล ในช่วงการยืนหยัดขึ้นต่อสู้ของกออิม" จากนั้นท่านได้ย้อนเรื่องราวกลับไปยังประโยคนี้ของโองการที่แล้ว (2) โดยกล่าวว่า :

لِقَوْلِ اللَّهِ عزّوجلّ وَ اللهُ مُتِمُّ نُورِهِ بِوَلَایَةِ الْقَائِمِ

"เนื่องจากพระดำรัสของอัลลอฮ์ (ซ.บ.) ที่ว่า "และอัลลอฮ์จะทรงทำให้แสง (นูร) ของพระองค์สมบูรณ์" ด้วยวิลายะฮ์ (อำนาจปกครอง) ของกออิม (อ.)" (3)

    ดังนั้น พระผู้เป็นเจ้าทรงเริ่มแผนการที่จะทำให้แสงแห่งอัลลอฮ์สมบูรณ์ ด้วยกับการส่งศาสดาของพระองค์ลงมา และจะทรงทำให้เสร็จสิ้นสมบูรณ์ด้วยกับวิลายะฮ์ (อำนาจการปกครอง) ของกออิม (อ.) ในฐานะตัวแทนของศาสนทูตของพระองค์ ในกระบวนการนี้ ศาสนาแห่งสัจธรรมก็จะพิชิตเหนือศาสนาทั้งหลาย

เชิงอรรถ :

บิฮารุลอันวาร, เล่ม 23, หน้า 317; ตะวีลุลอายาติซซอฮิเราะฮ์, หน้า 661
อัลกุรอานบทอัซซ็อฟฟุ โองการที่ 8
บิฮารุลอันวาร, เล่ม 23, หน้า 317; ตะวีลุลอายาติซซอฮิเราะฮ์, หน้า 661
บทความ : เชคมุฮัมมัดนาอีม ประดับญาติ

กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วย

ความคิดเห็นของผู้ใช้งานทั้งหลาย

ไม่่มีความคิดเห็น
*
*

เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม