บทบาทของประเทศตะวันตกในซีเรียก่อนการปรากฏตัว (ซุฮูร) ของอิมามมะฮ์ดี (อ.)
บทบาทของประเทศตะวันตกในซีเรียก่อนการปรากฏตัว (ซุฮูร) ของอิมามมะฮ์ดี (อ.)
ก่อนการปรากฏตัว (ซุฮูร) ของอิมามมะฮ์ดี (อ.) กองทัพตะวันตกจะมาปรากฏตัวพร้อมกับการโจมตีทางทหารครั้งใหญ่และการทำสงครามครั้งใหญ่กับรัฐบาลดามัสกัสในสถานการณ์ "ฟิตนะฮ์ในเมืองชาม" หรือไม่?
บทบาทของประเทศตะวันตกในซีเรียก่อนการปรากฏตัว (ซุฮูร) ของอิมามมะฮ์ดี (อ.) /"มาริกอตุรรูม" (مَارِقَةُ الرُّومِ) (กลุ่มคนนอกศาสนาชาวโรม) สัญญาณสุดท้ายของฟิตนะฮ์ (วิกฤตการณ์) ในซีเรีย / การวิเคราะห์หะดีษบทหนึ่งเกี่ยวกับช่วงเวลาของสงครามชีอะฮ์กับอิสราเอลก่อนการปรากฏตัว (ซุฮูร) ของอิมามมะฮ์ดี (อ.)
ก่อนการปรากฏตัว (ซุฮูร) ของอิมามมะฮ์ดี (อ.) กองทัพตะวันตกจะมาปรากฏตัวพร้อมกับการโจมตีทางทหารครั้งใหญ่และการทำสงครามครั้งใหญ่กับรัฐบาลดามัสกัสในสถานการณ์ "ฟิตนะฮ์ในเมืองชาม" หรือไม่?
คำตอบสำหรับคำถามสำคัญนี้ ได้ทำให้ความคิดของสาธารณชนและนักวิเคราะห์การเมืองจำนวนมากหมกมุ่นมานานหลายปี พวกเขาพยายามค้นหาคำตอบของมันว่า ชาวตะวันตกจะเข้าสู่สงครามโดยตรงและวงกว้างกับรัฐบาลซีเรียโดยมีเป้าหมายเพื่อโค่นล้มรัฐบาลของดามัสกัสก่อนการปรากฏตัว (ซุฮูร) ของอิมามมะฮ์ดี (อ.) หรือไม่?
จากมุมมองของการวิเคราะห์หะดีษบทหนึ่ง คำตอบสำหรับคำถามนี้ถือเป็นคำตอบเชิงปฏิเสธ แม้ว่าประเด็นนี้จะถูกกล่าวถึงในบทความเมื่อปี 1395 (ปีอิหร่าน) ท่ามกลางความอึกทึกครึกโครมของสื่อเกี่ยวกับการโจมตีที่ใกล้เข้ามาของประเทศตะวันตกเพื่อโค่นล้มรัฐบาลซีเรีย (ลิงก์) หลังจากหลายปีผ่านไป ตอนนี้เราจะนำเสนอโดยย่อและแน่นอนพร้อมกับคำอธิบายใหม่ :
ในหมากรุก (เกม) ที่ซับซ้อนของฟิตนะฮ์ (วิกฤตการณ์) "อันยาวนาน" ของซีเรีย [1] ซึ่งบรรดาอำนาจระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศ รวมถึงชาวอาหรับและอะญัม [2] เติร์ก [3] ชาวยิว [4] และชาวโรม [5] ก็จะมีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ ซึ่งบ่งบอกถึงความขัดแย้งทางผลประโยชน์และความขัดแย้งระหว่างค่ายตะวันออกและตะวันตกในเหตุการณ์ฟิตนะฮ์ (วิกฤตการณ์) ที่ยาวนานในซีเรีย
ในคำบ่งชี้ (บอกใบ้) ต่างๆ ฟิตนะฮ์แห่งเมืองชาม ตามโองการแรกๆ ของซูเราะฮ์อัรรูม ใน «بِضْعِ سِنينَ » จะดำเนินไปเป็นเวลาน้อยกว่า 10 ปี จากนั้นฟิตนะฮ์ของซุฟยานีในซีเรีย จะใช้เวลาประมาณ 2 ปี [6] และสถานการณ์ภาคสนามของฟิตนะฮ์ของเมืองชามจะเป็นดังนี้ คือ กองกำลังทหารตะวันตกจะเข้าสู่ปาเลสไตน์เฉพาะในช่วงไม่กี่เดือนสุดท้ายที่นำไปสู่การออกมา (คุรูจญ์) ของซุฟยานี (เพื่อปกป้องชาวยิวในอิสราเอล) :
سَيُقْبِلُ مَارِقَةُ الرُّومِ حَتَّى يَنْزِلُوا الرَّمْلَة
"กลุ่มมาริกอตุรรูม (ชาวโรม) จะมา จนกระทั้งลงพักที่ร็อมละฮ์" (อัลฆ็อยบะฮ์, นุอ์มานี, หน้า 280)
ดังนั้น «مَارِقَةُ الرُّوم» (กลุ่มคนนอกศาสนาชาวโรม) คือสัญญาณสุดท้ายของฟิตนะฮ์ในเมืองชามก่อนการปรากฏตัว (ซุฮูร) ของอิมามมะฮ์ดี (อ.) [7] และสัญญาณสุดท้ายก่อนการออกมาทำการก่อกบฏ (คุรูจญ์) ของซุฟยานี หมายถึงการมาถึงของส่วนหนึ่งของชาวตะวันตก (อเมริกา) เพื่อมีอิทธิพลต่อสถานการณ์ฟิตนะฮ์ของเมืองชาม โดยมีทหารประจำการอยู่ในพื้นที่ "ร็อมละฮ์" (ใกล้บัยตุลมักดิส หรือ เยรูซาเล็ม) ในปาเลสไตน์ สิ่งที่ควรกล่าวถึงก็คือว่า "พื้นที่ร็อมละฮ์" เป็นหนึ่งในชื่อเก่าของพื้นที่ใกล้บัยตุลมักดิส (เยรูซาเล็ม)
الرملۀ: هي كورة من فلسطين بينها و بين البيت المقدس ثمانية عشر يوما
" ร็อมละฮ์ : คือ เมืองหนึ่งของปาเลสไตน์ ระยะทางระหว่างมันและระหว่างบัยตุลมักดิส ใช้เวลาสิบแปดวัน” [8]
الرَّملة: مدينة تقع وسط فلسطين إلى الجنوب الشرقي من تل أبيب
“ร็อมละฮ์ : เมืองที่ตั้งอยู่กลางปาเลสไตน์ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเทลอาวีฟ" [9]
และการมาปรากฏตัวอยู่ของกองทัพตะวันตกในภูมิภาคชาม (ลิแวนต์) แสดงให้เห็นว่าการดำรงอยู่ของอิสราเอลกำลังตกอยู่ในอันตราย และชาวยิวไซออนิสต์ได้อ่อนแอลงมาก จากการทำสงครามกับแกนต่อต้านของชีอะต์ จนถึงขั้นที่พวกเขาต้องหันไปพึ่งพันธมิตรทางทหารของพวกเขา (อเมริกา ฯลฯ)
แน่นอนว่า ก่อนหน้านี้ ชาวตะวันตกก็ได้ประสบกับ «هرج الروم» "ความวุ่นวาย" มาก่อนแล้ว และติดอยู่ในความสับสนวุ่นวาย แต่ด้วยคำอธิบายนี้ ชาวตะวันตกส่วนหนึ่ง (มาริกอตุรรูม, อเมริกา) จะเข้าสู่สถานการณ์ต่างๆ ในช่วงไม่กี่เดือนสุดท้ายของฟิตนะฮ์แห่งเมืองชาม เพื่อปกป้องอิสราเอล และโดยการปรากฏตัวทางทหารในปาเลสไตน์ จะพยายามสร้างสมดุลระหว่างกองกำลังทั้งหลาย
ตามหะดีษทั้งหลายที่อธิบายโองการต่างๆ ของอัลกุรอานบท (ซูเราะฮ์) อัลอิสรออ์ การทำสงครามกับชาวยิวในอิสราเอลนั้นจะเกิดขึ้นก่อนการปรากฏตัว (ซุฮูร) ของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.) [10] และในริวายะฮ์ (คำรายงาน) ทั้งหลาย อัตลักษณ์ของบรรดาผู้ที่จะลงโทษชาวยิว ถูกแนะนำไว้ด้วยการสาบานต่อพระผู้เป็นเจ้าโดยอิมามมะอ์ซูม (อ.) ถึงสามครั้งว่า "ชาวชีอะฮ์อิหร่าน" [11]
ด้วยเหตุนี้ ตามหะดีษที่เชื่อถือได้ (มุอ์ตะบัร) ที่บรรยายถึง "การปฏิวัติของกลุ่มจากชนตะวันออก" หลังจากพยายามเพื่อเรียกร้องสิทธิ์สองครั้งโดยชาวอิหร่านต่อศัตรู แต่ก็จะไม่ได้รับการตอบสนอง [12] จากนั้นชาวอิหร่านหลังจากหมดหวังในการได้รับสิทธิ์ของตน ก็เข้าสู่ช่วงการดำเนินการทางทหาร (13) และถึงแม้จะมีการเผชิญหน้าและทำสงครามกับศัตรูและโจมตีผลประโยชน์ของกันและกันก็ตาม (14)
อย่างไรก็ตาม เวลาของสงครามหลักและวงกว้างของชีอะฮ์กับอิสราเอลนั้นจะอยู่หลัง "ฮะร่อญุรรูม" «هرج الروم» และก่อน "มาริกอตุรรูม (مَارِقَةُ الرُّومِ) " [15] และแน่นอนว่าผู้ชนะในสงครามครั้งนี้ตาม "การตีความ" (ตะอ์วีล) โองการต่างๆ ช่วงต้นของ ซูเราะฮ์อัรรูม จะเป็นแกนของฝ่ายต่อต้านของชาวชีอะฮ์ (อิหร่าน, ฮิซบุลลอฮ์เลบานอนและอื่นๆ) [16] และชัยชนะเหนือศัตรูในช่วงเวลาของการปรากฏตัว (ซุฮูร) จะทำให้เกิดความดีใจและความปิติยินดีแก่ผู้บรรดาศรัทธา :
يَوْمَئِذٍ يَفْرَحُ الْمُؤْمِنُونَ بِنَصْرِ اللَّهِ (سوره روم، آیه 5) عِنْدَ قِيَامِ الْقَائِم
"ในวันนั้น บรรดาผู้ศรัทธาจะชื่นชมยินดีในชัยชนะของอัลลอฮ์
(อัลกุรอานบทอัรรูม โองการที่ 5) ณ ช่วงเวลาการยืนหยัดขึ้นของอัลกออิม" [17]
ยกตัวอย่างเช่น หากฟิตนะฮ์แห่งเมืองชามก่อนเวลาของการปรากฏตัว (ซุฮูร) ของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.) กินเวลาประมาณ 10 ปี เฉพาะในช่วงไม่กี่เดือนสุดท้ายของปีที่ 10 ของฟิตนะฮ์ของเมืองชาม เราจะได้เห็นการปรากฏตัวครั้งใหญ่ของกองทัพตะวันตก (มาริกกอตุรรูม) (مَارِقَةُ الرُّومِ) ในปาเลสไตน์
เชิงอรรถ :
[1]- อัลฆ็อยบะฮ์, นุอ์มานี, หน้า 279; อิษบาตุลฮุดาฮ์, ฮุร อัลอามิลี, เล่ม 5, หน้า 368 :
لَا یظْهَرُ الْقَائِمُ حَتَّى یشْمَلَ النَّاسَ بِالشَّامِ فِتْنَةٌ یطْلُبُونَ الْمَخْرَجَ مِنْهَا فَلَا یجِدُونَهُ
"อัลกออิมจะยังไม่ปรากฏตัว จนกว่าฟิตนะฮ์จะแผ่ปกคลุมประชาชนในเมืองชาม (เป็นเวลายาวนาน) และเมื่อพวกเขาแสวงหาทางออกจากมัน พวกเขาก็จะไม่พบ"
[2]- กัชฟุลอัสตาร อัน วัจญ์ฮิลฆออิบ, มุฮัดดิษนูรี, หน้า 221; มุนตะคอบุลอะษัร ฟิลอิมามิษษานี อะชัร, ซอฟี กุลพัยกานี, เล่ม 2, หน้า 167 :
الإختلاف بين أمراء العرب و العجم، فلا يزالون يختلفون الى أنّ يصير الأمر إلى رجل من ولد أبي سفيان
"เกิดความขัดแย้งระหว่างบรรดาผู้ปกครองชาวอาหรับและชาวอะญัม (ผู้ที่มิใช่อาหรับ) ดังนั้นพวกเขาจะยังคงขัดแย้งกัน จนกระทั่งอำนาจการปกครองจะไปอยู่ที่บุรุษผู้หนึ่งจากลูกหลานของอบีซุฟยาน"
[3]- อัลฆ็อยบะฮ์, นุอ์มานี, หน้า 280; อัลคอรออิจญ์ วัลญะรออิห์, รอวันดี, เล่ม 3, หน้า 1157 :
وَ يَجِيئُكُمُ الصَّوْتُ مِنْ نَاحِيَةِ دِمَشْقَ بِالْفَتْح ... و سَيُقْبِلُ إِخْوَانُ التُّرْكِ
"และเสียงจะนำชัยชนะมายังพวกท่านจากทิศทางของดามัสกัส ... แล้วในไม่ช้าอิควานตุรก์ (ชาวเติร์ก) ก็จะมาถึง"
[4]- ซุฟยานีได้รับการสนับสนุนจากชาวยิว :
إِنْ عُدْتُمْ عُدْنا (سوره اسراء، آیه 8)، يَعْنِي إِنْ عُدْتُمْ {الیهود} بِالسُّفْيَانِيِّ عُدْنَا بِالْقَائِمِ مِنْ آلِ مُحَمَّد
"หากพวกเจ้าหวนกลับมา (ก่อความเสียหาย) (ซูเราะฮ์อัลอิสรออ์ / อายะฮ์ที่ 8) หมายถึง หากชาวยิวหวนกลับมาด้วยกับซุฟยานี เราก็จะหวนกลับมา (ลงโทษ) ด้วยกับอัลกออิม จากวงศ์วานของมุฮัมมัด" (ตัฟซีร อัลกุมมี, กุมมี, เล่ม 2, หน้า 14)
[5]- อัลฆ็อยบะฮ์, นุอ์มานี, หน้า 280; อัลคอรออิจญ์ วัลญะรออิห์, รอวันดี, เล่ม 3, หน้า 1157 :
وَ يَجِيئُكُمُ الصَّوْتُ مِنْ نَاحِيَةِ دِمَشْقَ بِالْفَتْح ... و سَتُقْبِلُ مَارِقَةُ الرُّومِ
"และเสียงจะนำชัยชนะมายังพวกท่านจากทิศทางของดามัสกัส ... แล้วในไม่ช้ามาริกอตุรรูมก็จะมาถึง"
ซุฟยานีจะได้รับการสนับสนุนจากชาวตะวันตก :
يُقْبِلُ السُّفْيَانِيُّ مِنْ بِلَادِ الرُّومِ مُنْتَصِراً فِي عُنُقِهِ صَلِيبٌ وَ هُوَ صَاحِبُ الْقَوْمِ
"ซุฟยานีจะมาโดยได้รับการช่วยเหลือจากดินแดนโรม ในคอของเขามีกางเขน และเขาคือหัวหน้ากลุ่มชน" (อัลฆ็อยบะฮ์, เชคฏูซี, หน้า 463)
[6]- อัลฆ็อยบะฮ์, นุอ์มานี, หน้า 300 :
السُّفْیانِی مِنَ الْمَحْتُومِ ... وَ مِنْ أَوَّلِ خُرُوجِهِ إِلَى آخِرِهِ خَمْسَةَ عَشَرَ شَهْراً
"ซุฟยานี เป็นหนึ่งในสัญญาณที่จะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ... และจากช่วงแรกของการออกมา (ก่อการกบฏ) ของเขาจนถึงช่วงสุดท้ายของเขา จะเป็นระยะเวลาสิบห้าเดือน"
[7]3 ลำดับเหตุการณ์ฟิตนะฮ์ในเมืองชามก่อนการปรากฏตัว (ซุฮูร) ของอิมามมะฮ์ดี (อ.) (ลิงก์)
https://sahibzaman.net/index.php/religious-article/religious-mahdi/313-fitnah-of-the-levant-imam-mahdi
[8]- มุอ์ญะมุลบุลดาน, หะมะวี, เล่ม 3, หน้า 69
[9]- ดอนิช นอเมะฮ์ อิมามมะฮ์ดี, เรย์ ชะฮ์รี, เล่ม 7, หน้า 122
[10]- อัลกาฟี, กุลัยนี, เล่ม 8, หน้า 206; กามิลุซซิยาเราะฮ์, อิบนุ เกาละวัยฮ์, หน้า 63:
قوْمٌ يَبْعَثُهُمُ اللَّهُ قَبْلَ خُرُوجِ الْقَائِمِ
"กลุ่มชนที่อัลลอฮ์จะทรงส่งพวกเขามาก่อนการยืนหยัดขึ้นต่อสู้ของอัลกออิม"
[11]- บิฮารุลอันวาร, มัจญ์ลิซี, เล่ม 47, หน้า 216 :
كُنْتُ عِنْدَ أَبِي عَبْدِاللَّهِ ... فَقُلْنَا جُعِلْنَا فِدَاكَ مَنْ هَؤُلَاءِ فَقَالَ ثَلَاثَ مَرَّاتٍ هُمْ وَ اللَّهِ أَهْلُ قُمَّ
"ฉันอยู่กับท่านอบาอับดิลลาฮ์ ... ดังนั้นเราได้กล่าวว่า : เราขอพลีแด่ท่าน พวกเขาเหล่านั้นคือใคร? แล้วท่านกล่าวสามครั้งว่า : ขอสาบานต่ออัลลอฮ์ พวกเขาคือชาวเมืองกุม"
[12]- อัลฆ็อยบะฮ์, นุอ์มานี, หน้า 273 :
يَطْلُبُونَ الْحَقَّ فَلَا يُعْطَوْنَهُ ثُمَّ يَطْلُبُونَهُ فَلَا يُعْطَوْنَهُ
"พวกเขาจะเรียกร้องสิทธิ แต่พวกเขาไม่ถูกมอบให้ จากนั้นพวกเขาก็จะเรียกร้องมันอีกครั้ง แต่พวกเขาก็ไม่ถูกมอบให้"
[13]- ขั้นตอนของการปฏิวัติอิหร่านจนถึงการปรากฏตัว (ซุฮูร) (ลิงก์)
[14]- อัลฆ็อยบะฮ์, นุอ์มานี, หน้า 273 :
وَضَعُوا سُيُوفَهُمْ عَلَى عَوَاتِقِهِمْ
"พวกเขาวางดาบของพวกเขาไว้บนต้นคอของพวกเขา"
[15]- อัสอะละฮ์ มะฮ์ดะวียะฮ์, ญะลาลุดดีน อะลีอัศฆัร, คำถามที่ 1391 (ลิงก์)
[16]- อัลกถรอานบทอัรรูม โองการที่ 1-4 :
الم غُلِبَتِ الرُّومُ في أَدْنَى الْأَرْضِ وَ هُمْ مِنْ بَعْدِ غَلَبِهِمْ سَيَغْلِبُونَ في بِضْعِ سِنينَ
"อะลิฟ ลาม มีม พวกโรมันถูกพิชิตแล้วในดินแดนอันใกล้นี้ แต่หลังจากการการถูกพิชิตของพวกเขาแล้วพวกเขาจะได้รับชัยชนะ ในเวลาไม่กี่ปีต่อมา"
[17]- ตัฟซีร อัลบุรฮาน, บะห์รอนี, เล่ม 4, หน้า 335; ตะอัมมุล ดัร ซํเราะฮ์ รูม บิชาร็อต ฟัตห์ ปาเลสไตน์, หน้า 19-3
อธิบายความหมายสำนวนภาษาอาหรับบางคำ :
- “ฮะร่อญุรรูม” (هَرْجُ الرُّومِ) คือ ฟิตนะฮ์, ความขัดแย้ง,การเข่นฆ่า หรืออาจเป็นสงครามใหญ่ระหว่างชาวโรมันและบรรดาประเทศตะวันตก (นักวิชาการบางท่านให้ทัศนะว่า อาจหมายถึง สงครามรัสเซียกับยูเครน ในขณะนี้)
- “มาริกอตุรรูม” (مَارِقَةُ الرُّومِ) คือ กลุ่มนอกศาสนาจากชาวโรมัน พันธมิตรชาวตะวันตกของชาวยิวไซออนิสต์
ผู้เขียน : มุศฏอฟา อามีรี
แปลและเรียบเรียงโดย : เชคมุฮัมมัด นาอีม ประดับญาติ