สตรีผู้แกร่งกล้า ผู้มีนามว่า “อาซิยะฮ์”
สตรีผู้แกร่งกล้า ผู้มีนามว่า “อาซิยะฮ์”
คุณลักษณะประการหนึ่งของผู้ศรัทธาก็คือ แม้ต้องเผชิญหน้ากับความทุกข์ยากนานัปการในชีวิต พวกเขาก็จะไม่ละทิ้งออกจากแนวทางของพระผู้เป็นเจ้า ผู้ใดก็ตามที่ไปถึงระดับสูงสุดของความศรัทธา (อีหม่าน) แล้ว ย่อมเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะละทิ้งออกจากความศรัทธาของตน ทั้งนี้เนื่องจากเขาได้ประจักษ์ถึงความงดงาม (ญะม้าล) ของพระผู้สร้างของเขาแล้ว ดังนั้นเขาจะสามารถนำตัวออกห่างจากพระองค์ได้อย่างไร?
ในริวายะฮ์ (คำรายงาน) บทหนึ่ง ท่านอิมามซอดิก (อ.) ได้กล่าวพรรณนาคุณลักษณะของผู้ศรัทธาไว้เช่นนี้ว่า
إِنَّ المؤمِنَ أَشَدُّ مِنْ زُبَرِالْحَدِیدِ إِنَّ الْحَدِیدَ إِذَا دَخَلَ النَّارَ تَغَیّر وَ إِنَّ المؤمِنَ لَوْ قُتِلَ وَ نُشِرَ ثُمَّ قُتِلَ لَمْ یتَغَیرْ قَلْبُه
“แท้จริงผู้ศรัทธานั้นแข็งแกร่งยิ่งกว่าเหล็ก แท้จริงเหล็กนั้นเมื่อมันเข้าอยู่ในไฟ มันก็จะเปลี่ยนแปลง และแท้จริงผู้ศรัทธานั้นแม้เขาจะถูกฆ่าและถูกทำให้มีชีวิตขึ้นมาใหม่ จากนั้นก็ถูกฆ่าอีก หัวใจของเขาก็จะไม่เปลี่ยนแปลง” (1)
“อาซิยะฮ์” สตรีผู้มีศรัทธาที่แกร่งกล้า
อาซิยะฮ์คือภรรยาของฟิรเอาน์ (ฟาโรห์รามเสสที่ 2) และเป็นลูกสาวของมุซาฮิม (2) นักวิชาการบางท่านเชื่อว่านางคือป้าของท่านศาสดามูซา (อ.) หรือโมเสสด้วยเช่นกัน (3)
คัมภีร์อัลกุรอานได้กล่าวถึงสตรีผู้มีเกียรติท่านนี้ไว้ในสองโองการ ในนาม إِمْرَأَتَ فِرْعَوْن “ภรรยาของฟิรเอาน์” (4) ดังนั้นในคัมภีร์อัลกุรอานไม่ได้กล่าวถึงชื่อของสตรีผู้มีเกียรติท่านนี้ไว้โดยตรง และโดยพื้นฐานแล้วไม่มีชื่อของสตรีคนใดปรากฏอยู่ในคัมภีร์อัลกุรอาน นอกจากชื่อของท่านหญิงมัรยัม (อ.) เพียงเท่านั้น
“อาซิยะฮ์” ในมุมมองของคัมภีร์อัลกุรอาน
อาซิยะฮ์เป็นภรรยาของฟิรเอาน์ กล่าวกันว่าเมื่อนางได้เห็นปาฏิหาริย์ (มุอ์ญิซาต) ของศาสดามูซา (อ.) เบื้องหน้านักมายากล ทำให้แสงแห่งความศรัทธาได้จุดประกายขึ้นจากส่วนลึกของจิตใจของนาง และนับจากช่วงเวลานั้นเองที่นางได้ศรัทธาต่อศาสดามูซา (อ.)
อาซิยะฮ์ศรัทธาต่อท่านศาสดามูซา (อ.) ในช่วงเริ่มแรกที่ท่านประกาศภารกิจความเป็นผู้ถือสาส์น (ริซาละฮ์) แห่งพระผู้เป็นเจ้า และแสดงมุอ์ญิซาต (ปาฏิหาริย์) ของท่านต่อฟิรเอาน์ (5) กล่าวคือ เมื่อไม้เท้าของท่านศาสดามูซา (อ.) กลายเป็นงูขนาดใหญ่และกลืนกิน (งูที่เป็น) เวทมนตร์ของนักมายากลของฟิรเอาน์ ทำให้นางมีความมั่นใจ (ยะกีน) ในความเป็นศาสดาของท่านศาสดามูซา (อ.) และได้เปิดเผยความศรัทธาของตนที่มีต่อท่าน (6)
เมื่อฟิรเอาน์รับรู้ถึงความศรัทธาของนาง เขาห้ามปรามนางหลายครั้งหลายครา และยืนกรานที่จะให้นางละทิ้งจากการศรัทธาต่อมูซา (อ.) และต่อพระผู้เป็นเจ้าของมูซา (อ.) แต่สตรีผู้นี้ได้ยืนหยัดโดยไม่ยอมจำนนต่อความต้องการของฟิรเอาน์แม้แต่น้อย
เมื่อผู้ที่อยู่รอบๆ ตัวนางได้กล่าวกับนางว่า “อย่าทำให้ความศรัทธาที่มีต่อคนเลี้ยงแกะเพียงคนเดียวทำให้พระนางต้องสูญเสียปัจจัยอำนวยสุขที่มีอยู่ในครอบครองทั้งหมดเหล่านี้ไปเลย!” นางปฏิเสธคำแนะนำของบุคคลเหล่านั้น และแสดงออกถึงความรังเกียจของนางที่มีต่อฟิรเอาน์และอาชญากรรมต่างๆ ของเขา
ในที่สุดฟิรเอาน์ได้ออกคำสั่งให้ตอกตะปูลงที่มือและเท้าทั้งสองของท่านหญิงอาซิยะฮ์และขึงพืดนางไว้ภายใต้แสงแดดที่ร้อนจัด และนำก้อนหินขนาดใหญ่มาวางทับไว้บนหน้าอกของนาง ในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตของท่านหญิงอาซิยะฮ์ นางได้วิงวอนขอต่อพระผู้เป็นเจ้าเช่นนี้ว่า :
رَبِّ ابْنِ لِي عِندَكَ بَيْتًا فِي الْجَنَّةِ وَنَجِّنِي مِن فِرْعَوْنَ وَعَمَلِهِ وَنَجِّنِي مِنَ الْقَوْمِ الظَّالِمِينَ
“ข้าแต่พระผู้อภิบาลของข้าฯ ขอพระองค์โปรดทรงสร้างบ้านหลังหนึ่งให้แก่ข้าฯ ณ ที่พระองค์ในสวนสวรรค์ และทรงโปรดช่วยข้าฯ ให้พ้นจากฟิรเอาน์และการกระทำของเขา และทรงโปรดช่วยข้าฯ ให้พ้นจากหมู่ชนผู้อธรรม” (7)
พระผู้เป็นเจ้าทรงตอบรับคำวิงวอนขอของสตรีผู้ศรัทธาท่านนี้ และให้นางได้อยู่เคียงข้างสตรีที่ประเสริฐที่สุดในโลก
แน่นอนยิ่งว่า ไม่มีปัจจัยอำนวยสุขทางวัตถุใดๆ ที่จะเลอเลิศไปกว่าที่ฟิรเอาน์มีอยู่ในอำนาจของตน เช่นเดียวกับที่ไม่มีการบีบบังคับและการทรมานใดๆ ที่จะรุนแรงยิ่งไปกว่าการทรมานต่างๆ ของฟิรเอาน์ผู้อธรรม แต่ทั้งปัจจัยอำนวยสุขทางวัตถุ การบีบบังคับและการทรมานเหล่านั้น ไม่อาจทำให้สตรีผู้มีศรัทธาแกร่งกล้าผู้นี้ยอมจำนนและคุกเข่าได้ ท่านหญิงอาซิยะฮ์ยอมที่จะสละชีวิตของท่านในหนทางของพระผู้เป็นเจ้า ผู้ทรงเป็นที่รักที่แท้จริงของท่าน (8)
ในริวายะฮ์ (คำรายงาน) บทหนึ่ง ท่านศาสดามุฮัมมัด (ซ็อลฯ) ได้กล่าวว่า
أَفْضَلُ نِسَاءِالْجَنَّةِ أَرْبَعٌ: خَدِیجَةُ بِنْتُ خُوَیلِدٍ وَ فَاطِمَةُ بِنْتُ مُحَمَّدٍ(صلی الله علیه وآله) وَ مَرْیمُ بِنْتُ عِمْرَانَ وَ آسِیةُ بِنْتُ مُزَاحِمٍ، إمْرَأَةُ فِرْعَوْن
“สตรีชาวสวรรค์ที่ประเสริฐที่สุดมีสี่คน คือ คอดีญะฮ์ บุตรีของคุวัยลิด ฟาฏิมะฮ์ บุตรีของมุฮัมมัด (ซ็อลฯ) มัรยัม บุตรีของอิมรอน และอาซิยะฮ์ บุตรีของมุซาฮิม ภรรยาของฟิรเอาน์” (9)
หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ความศรัทธาของเราจะมีความแกร่งกล้าและมั่นคงเหมือนดังท่านหญิงอาซิยะฮ์ (อ.) (อินชาอัลลอฮ์)
เชิงอรรถ :
(1) บิฮารุ้ลอันวาร, เล่มที่ 67, หน้าที่ 178
(2) ตัฟซีรญะวามิอุลญามิอ์, ฟัฎลิ์ บินฮุเซน ฏ็อบริซี, เล่มที่ 4, หน้าที่ 324 ; ตัฟซีรนะมูเนะฮ์, นาซิร มะการิม ชีราซี และผู้ร่วมงาน, เล่มที่ 24, หน้าที่ 303
(3) ซุบดะตุตตะฟาซีร, เล่มที่ 7, หน้าที่ 119
(4) อัลกุรอานบทอัลกิศ็อศ โองการที่ 9 และ บทอัตตะห์รีม โองการที่ 11
(5) ตัฟซีรอัลมีซาน, อัลลามะฮ์ฏอบาฏอบาอี, เล่มที่ 14, หน้าที่ 145
(6) เราฎอตุ้ลญินาน วะ รูฮุ้ลญินาน ฟี ตัฟซีริลกุรอาน, ฮุเซน บินอะลี อบุลฟตูห์ รอซีย์ เล่มที่ 19, หน้าที่ 306
(7) อัลกุรอานบทอัตตะห์รีม/ โองการที่ 11
(8) ตัฟซีรนะมูเนะฮ์, เล่มที่ 24, หน้าที่ 302 และ 304
(9) อัดดุรุ้ลมันซูร, ญะลาลุดดีน ซุยูฏี, เล่มที่ 6, หน้าที่ 246 ; ตัฟซีรอัลมุบีน, มุฮัมมัด ญะวาด มุฆนียะฮ์, หน้าที่ 508 ; ตัฟซีรอัซซอฟี, เล่มที่ 5, หน้าที่ 198
บทความ : เชคมุฮัมมัดนาอีม ประดับญาติ