เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม

การดูแลสุขภาพปากและฟัน

0 ทัศนะต่างๆ 00.0 / 5

การดูแลสุขภาพปากและฟัน

 

บทที่ 5 ความสะอาดและสุขอนามัย
หัวข้อที่ 3 การดูแลสุขภาพปากและฟัน
การแนะนำให้ใช้ไม้สีฟัน:
ท่านศาสดา (ศ็อลฯ) ได้กล่าวไว้ในหะดีษหลายบทว่า:
"ท่านทั้งหลายจงใช้ไม้สีฟันและทำความสะอาดตนเอง"[1]
"การใช้ไม้สีฟันเป็นส่วนหนึ่งของวุฎูอ์(การทำความสะอาด)"[2]
"หากการใช้ไม้สีฟันไม่เป็นภาระหนักสำหรับประชาชาติของฉัน ฉันจะสั่งให้พวกเขาใช้ไม้สีฟันก่อนทุกนมาซ"และในอีกบท "จงใช้ไม้สีฟันเมื่อทำวุฎูอ์ก่อนทุกนมาซ" [3]  
"ญิบรออีล (อะลัยฮิสสลาม) ได้กำชับให้ฉันใช้ไม้สีฟันจนฉันเกรงว่าฟันของฉันจะสึกหรือหลุด"(เป็นการเน้นย้ำให้เห็นว่าอิสลามใส่ใจในเรื่องความสะอาดในช่องปาก)[4]
"หากไม่มีไม้สีฟันจงใช้นิ้วแทน"[5]
"จงทำความสะอาดเส้นทางของอัลกุรอาน" พวกเขาถามว่า "โอ้ท่านศาสนทูตของอัลลอฮ์! เส้นทางของอัลกุรอานคืออะไร?" ท่านตอบว่า "คือปากของพวกท่าน" และพวกเขาถามต่อว่า "ด้วยอะไร?" ท่านตอบว่า "ด้วยไม้สีฟัน"[6]
"ทำไมพวกท่านจึงเข้ามาหาฉันพร้อมฟันที่เหลืองและปากที่มีกลิ่นไม่ดี? ทำไมไม่ใช้ไม้สีฟัน?"[7]
คำแนะนำจากอิมามบากิรและอิมามศอดิก (อะลัยฮิมุสสลาม):
ท่านทั้งสองกล่าวว่า "ทุกสิ่งมีสิ่งที่ทำความสะอาด และสิ่งที่ทำความสะอาดปากคือไม้สีฟัน"[8]
อิมามศอดิก (อะลัยฮิสสลาม) กล่าวอีกว่า "จงรักษาฟันของท่านให้สะอาดอยู่เสมอ"[9]
ในรายงานหนึ่งกล่าวว่า กะบะฮ์ได้ร้องทุกข์ต่ออัลลอฮ์ผู้สูงส่ง ถึงกลิ่นลมหายใจที่ไม่พึงประสงค์ของบรรดาผู้ตั้งภาคี อัลลอฮ์ผู้สูงส่งได้ประทานวะฮีย์มายังมันว่า "จงสงบเถิด โอ้กะบะฮ์! เพราะฉันจะนำชนกลุ่มใหม่ที่ทำความสะอาดด้วยไม้จากต้นไม้มาทดแทน" เมื่ออัลลอฮ์ทรงส่งศาสดามุฮัมมัด (ศ็อลฯ) ทูตสวรรค์ญิบรออีลได้นำไม้สีฟันและไม้ขัดฟันมาสู่ท่าน[10]
วิธีการใช้ไม้สีฟัน:
ผู้รายงานกล่าวว่า อมีรุลมุอ์มีนีน (อะลัยฮิสสลาม) ใช้ไม้สีฟันในการแปรงฟันจากข้าง ๆ (จากบนลงล่าง) และใช้มือทั้งหมดในการรับประทานอาหาร[11]
ประโยชน์ของการใช้ไม้สีฟัน:
ท่านอิมามศอดิก (อะลัยฮิสสลาม) กล่าวถึงคุณประโยชน์ของการใช้ไม้สีฟัน 12 ประการ ได้แก่: เป็นแบบอย่างของท่านศาสดา (ศ็อลฯ) ทำให้ปากสะอาด ทำให้สายตาสดใส ทำให้พระเจ้าโปรดปราน ทำให้ฟันขาว ขจัดการผุของฟัน เสริมความแข็งแรงให้เหงือก กระตุ้นความอยากอาหาร ขจัดเสมหะ เสริมความจำ เพิ่มผลบุญ และทำให้บรรดามะลาอิกะฮ์มีความยินดี[12]
ผลบุญของการใช้ไม้สีฟัน:
ท่านศาสดา (ศ็อลฯ) กล่าวว่า "การนมาซสองร็อกอัตพร้อมกับการใช้ไม้สีฟัน เป็นที่รักยิ่งของอัลลอฮ์มากกว่าการนมาซเจ็ดสิบรอกาอัตที่ไม่มีการใช้ไม้สีฟัน" และท่านยังกล่าวว่า "ผู้ใดที่ใช้ไม้สีฟันวันละครั้ง อัลลอฮ์จะพึงพอใจต่อเขา และเขาจะได้รับสวรรค์ และผู้ที่ใช้ไม้สีฟันวันละสองครั้งได้สืบสานแนวทางของบรรดานะบี"[13] [14]
การแนะนำให้ใช้ไม้ขัดฟัน:
ท่านศาสดา (ศ็อลฯ) กล่าวว่า: "ช่างดีเหลือเกินสำหรับผู้ที่ใช้ไม้ขัดฟันขณะทำวุฎูอ์และหลังจากรับประทานอาหาร และไม่มีสิ่งใดที่เป็นภาระหนักต่อมะลาอิกะฮ์มากกว่าการเห็นผู้ศรัทธานมาซในขณะที่มีอาหารติดอยู่ในปากของเขา"[15]
ท่านกล่าวเพิ่มเติมว่า: "พวกท่านจงใช้ไม้ขัดฟันเถิด เพราะไม่มีสิ่งใดที่มะลาอิกะฮ์จะรังเกียจมากไปกว่าการเห็นอาหารติดอยู่ในฟันของบ่าว"[16]
คำสั่งของอิมามฮุเซน (อะลัยฮิสสลาม):
ท่านอิมามฮุเซน (อะลัยฮิสสลาม) กล่าวว่า "อมีรุลมุอ์มีนีน (อะลัยฮิสสลาม) ได้สั่งพวกเราเสมอว่า เมื่อใช้ไม้ขัดฟันแล้ว ไม่ควรดื่มน้ำทันที จนกว่าจะกลั้วปากถึงสามครั้ง"[17]
วิธีการใช้ไม้ขัดฟันของท่านศาสดา:
ตามรายงานของท่านอิมามศอดิก (อะลัยฮิสสลาม) ท่านศาสดา (ศ็อลฯ) ไม่ได้ใช้ไม้ขัดฟันจากกิ่งใบอินทผาลัมและลำอ้อย[18]
ท่านศาสดายังได้กล่าวอีกว่า: "พวกท่านจงใช้ไม้ขัดฟันหลังจากรับประทานอาหาร เพราะมันเป็นประโยชน์ต่อปากและฟันกราม และยังนำพามาซึ่งริสกี (ปัจจัยยังชีพ) ให้แก่บ่าวอีกด้วย"[19]
คำแนะนำของอิมามกาซิม (อะลัยฮิสสลาม):
ท่านอิมามกาซิม (อะลัยฮิสสลาม) กล่าวว่า: "จงเกลี่ยลิ้นของท่านในปาก และสิ่งใดที่ลิ้นของท่านสามารถจับได้ หากท่านต้องการก็กินได้ แต่สิ่งที่ใช้ไม้ขัดฟันขจัดออกมาและท่านรังเกียจมัน จงคายทิ้ง"[20]
ตัวบท
[1] اسْتَاکُوا وَتَنَظَّفُوا . . . ( الجامع الصغیر ، ج1 ، ص148 ) .
[2] السِّوَاکُ شَطْرُ الْوُضُوءِ ( الفقیه ، ج1 ، ص53 ) .
[3] لَوْ لا أَنْ أَشُقَّ عَلَی أُمَّتِی لَأَمَرْتُهُمْ بِالسِّوَاکِ مَعَ کُلِّ صَلاةٍ ( الکافی ، ج3 ، ص22 ) ؛ . . . بِالسِّوَاکِ عِنْدَ وُضُوءِ کُلِّ صَلاةٍ ( الفقیه ، ج1 ، ص55 )
[4] مَا زَالَ جَبْرَئِیلُ  ( علیه السلام ) یُوصِینِی بِالسِّوَاکِ حَتَّی خِفْتُ أَنْ أُحْفِیَ أَوْ أَدْرَدَ ( الکافی ، ج3 ، ص23 )
[5] الأصابِعُ تَجْرِی مَجْرَی السِّواکِ ، إذا لم یَکنْ سِواکٌ ( الجامع الصغیر ، ج1 ، ص475 )
[6] نَظِّفُوا طَرِیقَ الْقُرْآنِ . قَالُوا : یَا رَسُولَ اللهِ! وَ مَا طَرِیقُ الْقُرْآنِ؟ قَالَ : أَفْوَاهُکُمْ . قَالُوا : بِمَاذَا؟ قَالَ : بِالسِّوَاکِ ( مکارم الأخلاق ، ص51 )
[7] مَا لِی أَرَاکُمْ تَدْخُلُونَ عَلَیَّ قُلْحاً مُرْغاً؟ مَا لَکُمْ لا تَسْتَاکُونَ ( المحاسن ، ص561 )
[8] لِکُلِّ شَیْ ءٍ طَهُورٌ وَ طَهُورُ الْفَمِ السِّوَاکُ ( الفقیه ، ج1 ، ص53 
[9] نَظِّفُوا الْمَاضِغَیْنِ . . . ( کتاب الخصال ، ص258 )
[10] رُوِیَ أَنَّ الْکَعْبَةَ شَکَتْ إِلَی اللهِ عَزَّ وَ جَلَّ مِمَّا تَلْقَی مِنْ أَنْفَاسِ الْمُشْرِکِینَ . فَأَوْحَی اللهُ ـ تَبَارَکَ وَ تَعَالَی ـ إِلَیْهَا : قِرِّی یَا کَعْبَةُ! فَإِنِّی مُبْدِلُکِ بِهِمْ قَوْماً یَتَنَظَّفُونَ بِقُضْبَانِ الشَّجَرَةِ ، فَلَمَّا بَعَثَ اللهُ نَبِیَّهُ مُحَمَّداً  ( صلی الله علیه وآله وسلم ) نَزَلَ عَلَیْهِ الرُّوحُ الْأَمِینُ جِبْرِیلُ بِالسِّوَاکِ وَ الْخِلالِ ( مکارم الأخلاق ، ص50 ) .
[11] کَانَ أَمِیرُ الْمُؤْمِنِینَ  ( علیه السلام ) یَسْتَاکُ عَرْضاً یَأْکُلُ هَرْتاً وَ قَالَ : الْهَرْتُ أَنْ یَأْکُلَ بِأَصَابِعِهِ جَمِیعاً ( الکافی ، ج6 ، ص297 )
[12] فِی السِّوَاکِ اثْنَتَا عَشْرَةَ خَصْلَةً : هُوَ مِنَ السُّنَّةِ وَ مَطْهَرَةٌ لِلْفَمِ وَ مَجْلاةٌ لِلْبَصَرِ وَ یُرْضِی الرَّحْمَنَ وَ یُبَیِّضُ الْأَسْنَانَ وَ یَذْهَبُ بِالْحَفْرِ وَ یَشُدُّ اللِّثَةَ وَ یُشَهِّی الطَّعَامَ وَ یَذْهَبُ بِالْبَلْغَمِ وَ یَزِیدُ فِی الْحِفْظِ وَ یُضَاعِفُ الْحَسَنَاتِ وَ تَفْرَحُ بِهِ الْمَلائِکَةُ ( مکارم الأخلاق ، ص50 ) .
[13] وَ رَکْعَتَینِ بِسِوَاکٍ أَحَبُّ إِلَی اللهِ عَزَّ وَ جَلَّ مِنْ سَبْعِینَ رَکْعَةً بِغَیْرِ سِوَاکٍ ( کتاب الخصال ، ص481 ) .
[14] مَنِ اسْتَاکَ کُلَّ یَوْمٍ مَرَّةً رَضِیَ اللهُ عَنْهُ ، فَلَهُ الْجَنَّةُ وَ مَنِ اسْتَاکَ کُلَّ یَوْمٍ مَرَّتَیْنِ فَقَدْ أَدَامَ سُنَّةَ الْأَنْبِیَاءِ ( جامع الأخبار ، ص58؛ مستدرک الوسائل ، ج1 ، ص361 ) .
[15] حَبَّذَا الْمُتَخَلِّلُونَ فِی الْوُضُوءِ وَ مِنَ الطَّعَامِ وَ لَیْسَ شَیْ ءٌ أَشَدَّ عَلَی مَلَکَیِ الْمُؤْمِنِ مِنْ أَنْ یَر َیـَا شَیْئاً مِنَ الطَّعَامِ فِی فیه وَ هُوَ قَائِمٌ یُصَلِّی . . . ( دعائم الإسلام ، ج2 ، ص120ـ121 ) .
[16] تَخَلَّلُوا فَإِنَّهُ لَیْسَ شَیْ ءٌ أَبْغَضَ إِلَی الْمَلَائِکَةِ مِنْ أَنْ یَرَوْا فِی أَسْنَانِ الْعَبْدِ طَعَاماً ( مکارم الأخلاق ، ص153 ) .
[17] کَانَ أَمِیرُ الْمُؤْمِنِینَ  ( علیه السلام ) یَأْمُرُنَا إِذَا تَخَلَّلْنَا أَنْ لا نَشْرَبَ الْمَاءَ حَتَّی نَتَمَضْمَضَ ثَلاثاً ( مکارم الأخلاق ، ص153 ) .
[18] کَانَ النَّبِیُّ  ( صلی الله علیه وآله وسلم ) یَتَخَلَّلُ بِکُلِّ مَا أَصَابَ ، مَا خَلا الْخُوصَ وَ الْقَصَبَ ( الکافی ، ج6 ، ص377
[19] تَخَلَّلُوا عَلَی أَثْرِ الطَّعَامِ ، فَإِنَّهُ مَصَحَّةٌ لِلْفَمِ وَ النَّوَاجِذِ وَ یَجْلِبُ الرِّزْقَ عَلَی الْعَبْدِ ( مکارم الأخلاق ، ص153 ) .
[20] حَتَّی إِذَا فَرَغَ أُتِیَ بِالْخِلالِ ، فَقَالَ : یَا فَضْلُ! أَدِرْ لِسَانَکَ فِی فِیکَ فَمَا تَبِعَ لِسَانَکَ فَکُلْهُ إِنْ شِئْتَ وَ مَا اسْتَکْرَهْتَهُ بِالْخِلالِ فَالْفِظْهُ ( المحاسن ، ص451؛ بحار الأنوار ، ج63 ، ص407 )

กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วย

ความคิดเห็นของผู้ใช้งานทั้งหลาย

ไม่่มีความคิดเห็น
*
*

เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม