การโกนขนส่วนเกินของร่างกาย
การโกนขนส่วนเกินของร่างกาย
บทที่ 5 ความสะอาดและสุขอนามัย
หัวข้อที่ 4 การโกนขนส่วนเกินของร่างกาย
ท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ็อลฯ) กล่าวว่า:
· ผู้ใดศรัทธาต่ออัลลอฮ์และวันอาคิเราะฮ์ หากเขาเป็นชาย ไม่ควรปล่อยให้ผ่านไปเกินสี่สิบวัน และหากเป็นหญิง ไม่ควรปล่อยให้ผ่านไปเกินยี่สิบวันโดยไม่ได้ขจัดขนส่วนเกินในร่างกาย"[1]
· ไม่มีปัญหาแต่ประการใดหากผู้ที่อยู่ในสถานะญุนุบขจัดขนบริเวณพึงสงวนด้วย "นูเราะฮ์" เพราะสิ่งนี้ช่วยเพิ่มความสะอาด[2]
· ผู้ใดไม่ขจัดขนบริเวณพึงสงวน ไม่ตัดเล็บ และไม่เล็มหนวด เขาไม่ใช่หนึ่งในหมู่เรา"[3]
· จงอย่าปล่อยให้หนวด ขนบริเวณพึงสงวน และขนรักแร้ยาว เพราะชัยฏอนใช้พื้นที่เหล่านี้เป็นที่หลบซ่อนของมัน"[4]
ท่านอะมีรุลมุอ์มินีน (อะลัยฮิสสลาม) กล่าวว่า:
· การถอนขนรักแร้ช่วยกำจัดกลิ่นเหม็นและเป็นเครื่องหมายของความสะอาด"[5]
· การใช้ 'นูเราะฮ์' ช่วยเสริมสร้างร่างกายและเพิ่มความสะอาดให้แก่ร่างกาย"[6]
ท่านอิมามซอดิก (อะลัยฮิสสลาม) กล่าวว่า:
· การใช้ 'นูเราะฮ์' ทุกๆ 15 วันเป็นสุนนะฮ์ และหากผ่านไป 20 วันแล้วท่านไม่มีเครื่องมือสำหรับทำสิ่งนี้ จงยืมจากพระเจ้า (อัลลอฮ์) แล้วทำสิ่งนี้เถิด" [7]
ท่านอิมามริฎอ (อะลัยฮิสสลาม) กล่าวว่า:
· หากท่านประสงค์จะใช้ 'นูเราะฮ์' และต้องการหลีกเลี่ยงบาดแผล ความระคายเคือง หรือสีผิวเปลี่ยน จงล้างตัวด้วยน้ำเย็นก่อนใช้ 'นูเราะฮ์' และหากจะเข้าโรงอาบน้ำเพื่อกำจัดขน ให้หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ล่วงหน้าอย่างน้อย 12 ชั่วโมง (ซึ่งเท่ากับ 1 วัน)"[8]
ท่านอิมามซัจญาด (อะลัยฮิสสลาม) กล่าวว่า:
· ผู้ใดกล่าวคำนี้ขณะใช้ 'นูเราะฮ์' เพื่อลบขนส่วนเกิน:
اللَّهُمَّ طَیِّبْ مَا طَهُرَ مِنِّی وَ طَهِّرْ مَا طَابَ مِنِّی وَ أَبْدِلْنِی شَعْراً طَاهِراً لا یَعْصِیکَ
'โอ้อัลลอฮ์! โปรดทำให้สิ่งที่สะอาดจากข้าพระองค์มีกลิ่นหอม และโปรดทำให้สิ่งที่มีกลิ่นหอมสะอาด และโปรดสร้างขนที่สะอาดสำหรับข้าพระองค์ ซึ่งไม่ขัดขืนต่อพระองค์' พระเจ้าจะชำระล้างเขาให้สะอาดจากความสกปรกทั้งปวง"[9]
· ตามรายงานของเชคซอดู๊ก ท่านอิมามซอดิก (อะลัยฮิสสลาม) ใช้ 'นูเราะฮ์' บริเวณรักแร้ของท่านในโรงอาบน้ำ และกล่าวว่า:"การถอนขนบริเวณรักแร้ทำให้หัวไหล่อ่อนแอและทำให้การมองเห็นอ่อนลง"[10]
ตัวบท
[1] مَنْ کَانَ یُؤْمِنُ بِاللهِ وَ الْیَوْمِ الآخِرِ فَلا یَتْرُکْ عَانَتَهُ فَوْقَ أَرْبَعِینَ یَوْماً وَ لا یَحِلُّ لامْرَأَةٍ تُؤْمِنُ بِاللهِ وَ الْیَوْمِ الآخِرِ أَنْ تَدَعَ ذَلِکَ مِنْهَا فَوْقَ عِشْرِینَ یَوْماً ( الفقیه ، ج1 ، ص119 ) .
[2] وَ الْجُنُبُ لا بَأْسَ أَنْ یَطَّلِیَ لِأَنَّ النُّورَةَ تَزِیدُ نَظَافَةً ( مکارم الأخلاق ، ص60
[3] مَنْ لَمْ یَحْلِقْ عَانَتَهُ ، و یقَلِّمْ أظْفَارَهُ ، وَ یَجُزّ شَارِبَهُ ، فَلَیْسَ مِنَّا ( الجامع الصغیر ، ج2 ، ص645 ) .
[4] لا یُطَوِّلَنَّ أَحَدُکُمْ شَارِبَهُ وَ لا عَانَتَهُ وَ لا شَعْرَ إِبْطَیْهِ ، فَإِنَّ الشَّیْطَانَ یَتَّخِذُهَا مَخَابِئَاً یَسْتَتِرُ بِهَا ( علل الشرائع ، ص519 ) .
[5] نَتْفُ الإِبْطِ یَنْفِی الرَّائِحَةَ الْمُنْکَرَةَ وَ هُوَ طَهُورٌ ( تحف العقول ، ص101 )
[6] النُّورَةُ مَشَدَّةٌ لِلْبَدَنِ وَ طَهُورٌ لِلْجَسَدِ ( تحف العقول ، ص101 )
[7] السُّنَّةُ فِی النُّورَةِ فِی کُلِّ خَمْسَةَ عَشَرَ یَوْماً ، فَإِنْ أَتَتْ عَلَیْکَ عِشْرُونَ یَوْماً وَ لَیْسَ عِنْدَکَ فَاسْتَقْرِضْ عَلَی اللهِ ( الکافی ، ج6 ، ص506 )
[8] وَ إِذَا أَرَدْتَ اسْتِعْمَالَ النُّورَةِ وَ لا یُصِیبَکَ قُرُوحٌ وَ لا شُقَاقٌ وَ لا سُوَادٌ فَاغْتَسِلْ بِالْمَاءِ الْبَارِدِ قَبْلَ أَنْ تَتَنَوَّرَ وَ مَنْ أَرَادَ دُخُولَ الْحَمَّامِ لِلنُّورَةِ فَلْیَجْتَنِبِ الْجِمَاعَ قَبْلَ ذَلِکَ بِاثْنَتَیْ عَشْرَةَ سَاعَةً وَ هُوَ تَمَامُ یَوْمٍ ( مستدرک الوسائل ، ج1 ، ص438 )
[9] مَنْ قَالَ إِذَا اطَّلَی بِالنُّورَةِ : . . . طَهَّرَهُ اللهُ مِنَ الْأَدْنَاسِ . . . ( الکافی ، ج6 ، ص507 ) .
[10] کَانَ الصَّادِقُ ( علیه السلام ) یَطْلِی إِبْطَیْهِ فِی الْحَمَّامِ وَ یَقُولُ : نَتْفُ الإِبْطِ یُضْعِفُ الْمَنْکِبَیْنِ وَ یُوهِی وَ یُضْعِفُ الْبَصَرَ ( الفقیه ، ج1 ، ص120 )