เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม

ชีวประวัติอิมามฮะซัน อัลมุจญ์ตะบาอ์ (อ.) ตอนที่หก

0 ทัศนะต่างๆ 00.0 / 5

ชีวประวัติอิมามฮะซัน อัลมุจญ์ตะบาอ์  (อ.) ตอนที่หก

สงครามและสันติภาพกับมุอาวียะฮ์

เหตุการณ์ทางการเมืองที่สำคัญที่สุดในชีวิตของฮะซัน บิน อะลี (อ.) คือ การทำสงครามกับมุอาวิยะฮ์ ซึ่งสิ้นสุดลงด้วยสันติภาพสงบศึก (๑๐๖) ในเวลาเดียวกันกับที่ประชาชนชาวอิรักได้ให้สัตยาบันกับฮะซัน บิน อะลี (อ.) และได้รับการยืนยันโดยปริยายจาก ชาวเมืองฮิญาซ เยเมน และเปอร์เซีย [๑๐๗] ชาวซีเรียในการให้สัตยาบันกับมุอาวียะฮ์ [๑๐๘] มุอาวียะฮ์ ในการปราศรัยของเขาและเขียนจหมายถึงอิมามฮะซัน (อ.) โดยเขาเน้นย้ำถึงการตัดสินใจอย่างจริงจังของเขาที่จะไม่ยอมรับคำสัตยานี้ (๑๐๙) เขาเตรียมตัวที่จะขึ้นดำรงตำแหน่งเคาะลีฟะฮ์ นับตั้งแต่การเสียชีวิตของอุษมาน [๑๑๐] เขาได้เคลื่อนทัพไปยังอิรัก [๑๑๑] ตามบางรายงานระบุว่า อิมามฮะซัน (อ.) ไม่ได้ดำเนินการใดๆ ในด้านสงครามหรือสันติภาพ จนกระทั่ง ประมาณห้าสิบวัน หลังจากการเป็นชะฮีดของบิดาของเขา (๑๑๒) เมื่อเขาทราบเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของกองทัพซีเรีย เขาก็เดินทางออกจากเมืองกูฟะฮ์พร้อมกับกองทัพของเขา และส่งกองทัพภายใต้การบังคับบัญชาของ อุบัยดิลลาฮ์ บิน อับบาส ไปยังมุอาวียะฮ์ (๑๑๓)

 

 

สงครามระหว่างสองกองทัพ

หลังจากที่มีการปะทะกัน ระหว่างทั้งสองกองทัพ และนำไปสู่ความพ่ายแพ้ของชาวซีเรีย มุอาวียะฮ์จึงได้ส่งข้อความถึงอุบัยดิลลาฮ์ในช่วงตอนกลางคืนว่า ฮะซัน บินอะลี ได้เสนอแนวทางสันติภาพแก่ฉัน และจะมอบตำแหน่งเคาะลีฟะฮ์ให้ฉัน มุอาวียะฮ์ยังสัญญาว่าจะจ่ายเงินให้เขาหนึ่งล้าน ดิรฮัม และเขาก็เข้าร่วมกับมุอาวียะฮ์ หลังจากนั้น ก็อยซ์ บิน ซะอัด ก็ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้บัญชาการกองทัพของอิมาม (๑๑๔) รายงานของบะลาซะรี (เสียชีวิตในปี ๒๗๙ ฮ.ศ. ) หลังจากที่อุบัยดิลลาฮ์เข้าร่วมกับกองทัพเมืองชาม มุอาวียะฮ์คิดว่า กองทัพของอิมามฮะซัน (อ.) นั้นมีความอ่อนแอลง และเขาสั่งให้โจมตีพวกเขาอย่างสุดกำลัง แต่กองทัพของ อิมาม ภายใต้การบังคับบัญชาของเกซ พวกเขาได้เอาชนะเหนือชาวซีเรีย มูอาวียะฮ์ จึงพยายามจะกีดกันก็อยซ์ให้สัญญาที่คล้ายคลึงกับที่เขาเคยให้สัญญากับอุบัยดิลลาฮ์ แต่เขาก็ไม่ประสบผลสำเร็จ (๑๑๕)

 

สถานภาพของอิมามฮะซัน  ในเมืองซาบาฏ

ในทางกลับกัน อิมามฮะซัน (อ.) ได้เดินทางไปยังเมืองซาบาฏ พร้อมกับกองทัพของเขา ดั่งที่เชคมูฟีดกล่าวว่า อิมามฮะซัน (อ.) เพื่อทดสอบบรรดาสหายของเขาและเปรียบเทียบการเชื่อฟังของพวกเขา เขาได้กล่าวเทศนาธรรมและกล่าวว่า ความเป็นเอกภาพและความเห็นอกเห็นใจนั้นดีกว่าสำหรับพวกท่าน มากกว่าการแบ่งแยกและการแตกแยก ‎อันที่จริง แผนการที่ฉันคิดว่าสำหรับพวกท่านนั้นดีกว่าแผนการที่พวกท่านมีสำหรับตัวของพวกท่านเอง หลังจากคำกล่าวของเขา ประชาชนก็พูดกันว่า เขาตั้งใจที่จะสร้างสันติภาพกับมุอาวิยะฮ์ และมอบตำแหน่งเคาะลีฟะฮ์ให้เป็นของเขา บางคนได้บุกโจมตียังกระโจมของเขาและปล้นทรัพย์สินของเขาและแม้กระทั่งมีการดึงผ้าปูนมาซของเขาออกจากใต้เท้าของเขา (๑๑๖) แต่ตามคำบอกเล่าของยะอ์กูบี (เสียชีวิตในปี ๒๙๒ ฮ.ศ.) สาเหตุของเหตุการณ์นี้ ก็คือ ‎มุอาวิยะฮ์ได้ส่งกลุ่มคนจำนวนหนึ่งไปยังฮะซัน บิน อะลี เมื่อพวกเขากลับมาจากเขา พวกเขาจะพูดกันด้วยเสียงอันดังเพื่อให้ผู้คนได้ยินว่า: พระเจ้าทรงช่วยโลหิตของชาวมุสลิมและยุติการปลุกปั่นโดยทางบุตรของท่านศาสนทูตของพระเจ้า เขายอมรับความสงบ เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ กองทหารของอิมามก็เริ่มปั่นป่วนและโจมตีกระโจมของเขา [๑๑๗] หลังจากเหตุการณ์นี้ สหายที่ใกล้ชิดของอิมามฮะซัน (อ.) ได้ปกป้องเขา แต่ในความมืดมิดของราตรี มีคอวาริจญ์คนหนึ่งเข้ามาใกล้ (๑๑๘) เขากล่าวว่า โอ้ ฮะซัน เจ้าได้กลายเป็นผู้ตั้งภาคี เฉกเช่นเดียวกับที่บิดาของเจ้าเป็นผู้ตั้งภาคี จากนั้นเขาก็ฟาดมีดที่ต้นขาของฮะซัน และอิมามซึ่งขี่ม้าอยู่ก็ล้มลงกับพื้น (๑๑๙) พวกเขาพาฮะซัน บิน ‎อะลี (อ.) ขึ้นบนเตียงไปยังเมืองมะดาอิน และพาไปยังบ้านของ ซะอัด บิน มัสอูด ษะกอฟี เพื่อรับการรักษาตัว ‎‎[๑๒๐]‎

 

สงครามระหว่างมุอาวิยะฮ์และอิมามฮะซัน (อ.) จึงนำไปสู่การลงนามข้อตกลงสันติภาพในที่สุด ตามคำกล่าวของเราะซูล ญะอ์ฟะรียอน ระบุว่า เหตุผลต่างๆ เช่น ความอ่อนแอของประชาชน สถานการณ์ของยุคสมัย และการปกป้องชีอะฮ์ ทำให้อิมามมุจญ์ตะบาอ์ อ์ (อ.) ต้องยอมรับสันติภาพ [๑๒๑1] ตามข้อตกลงนี้ เคาะลีฟะฮ์จึงถูกต่อถึงมุอาวียะฮ์‎[๑๒๒]‎

 

เหตุการณ์การสงบศึกกับมุอาวิยะฮ์

ในเวลาเดียวกันกับที่กองทัพทั้งสองของอิรักและซีเรียปะทะกัน อิมามฮะซัน (อ.) จึงถูกลอบสังหารและได้รับบาดเจ็บ และเขาเดินทางไปยังเมืองมะดาอิน เพื่อรับการรักษา (๑๒๓) ขณะที่อิมามฮะซันอยู่ในระหว่างการรักษา แกนนำชนเผ่าเมืองกูฟะฮ์กลุ่มหนึ่งได้ส่งจดหมายลับให้มุอาวียะฮ์ และประกาศถึงการเป็นผู้ปกครองของเขา โดยพวกเขาเชิญชวนให้มุอาวียะฮ์ มาหาพวกเขาและสัญญาว่า จะมอบตัวฮะซัน บิน อะลี ให้กับเขา หรือไม่ก็สังหารเขาเสีย ‎‎[๑๒๔] ตามที่เชคมุฟีด (เสียชีวิต ๔๑๓ ฮ.ศ.) อิมามฮะซัน (อ.) เมื่อได้ยินข่าวนี้และเช่นกันข่าวการเข้าร่วมของอุบัยดิลลาฮ์ บินอับบาส กับมุอาวียะฮ์ และในทางกลับกัน เขาได้สังเกตเห็นถึงความอ่อนแอและความไม่พร้อมของบรรดาผู้ช่วยเหลือของเขา เขาตระหนักด้วยชาวมุสลิมชีอะฮ์ของเขามีเพียงเล็กน้อย เขาไม่สามารถต่อสู้กับกองทัพขนาดใหญ่ของซีเรียได้ (๑๒๕) ซัยด์ บิน วะฮับ ญุฮะนี รายงานว่า ในระหว่างการรักษาของอิมามฮะซันในเมืองมะดาอิน ‎เขากล่าวว่า ฉันขอสาบานต่อพระเจ้าว่า หากฉันต่อสู้กับมุอาวียะฮ์ ชาวอิรักจะตัดคอฉันและมอบฉันให้กับเขา ฉันขอสาบานต่ออัลลอฮ์ว่า หากฉันทำสันติภาพกับมุอาวียะฮ์ ฉันก็จะได้รับเกียรติยศ เป็นการดีกว่าสำหรับฉันที่จะถูกเขาสังหารแบบเป็นเชลยศึก หรือให้เขามีบุญคุณกับฉันและงดเว้นจากการสังหารฉัน และสำหรับบะนีฮาชิม จะเป็นความอัปยศอดสูในตลอดไป (๑๒๖)‎

 

ข้อเสนอสนธิสัญญาสันติภาพโดยมุอาวียะฮ์

จากคำกล่าวของยะอ์กูบี รายงานว่า หนึ่งในกลอุบายของมุอาวียะฮ์ในการนำสงคราม ไปสู่สันติภาพ คือ การที่เขาส่งผู้คนในหมู่กองทัพของอิมามฮะซัน (อ.) เพื่อกระจายข่าวลือว่า ก็อยซ์ บิน สะอัด ได้เข้าร่วมกับมุอาวิยะฮ์ และในทางกลับกัน เขาได้ส่งผู้คนบางส่วนไปในหมู่กองทหารของก็อยส์ เพื่อเผยแพร่ข่าวลือว่า ฮะซัน บิน อะลี ยอมรับสันติภาพแล้ว (๑๒๗) เขายังส่งจดหมายจากชาวกูฟะฮ์ เพื่อประกาศถึงการเป็นผู้ปกครองของเขาให้กับฮะซัน บิน อะลี (อ.) และเสนอแนวทางสันติภาพและกำหนดเงื่อนไขสำหรับตัวเขาเอง ดังที่เชคมุฟีด กล่าวว่า อิมามฮะซัน (อ.) ไม่ไว้วางใจมุอาวิยะฮ์และตระหนักรู้ถึงกลอุบายของเขา ดังนั้นเขาจึงไม่เห็นทางเลือกอื่นใด นอกจากยอมรับสันติภาพ (๑๒๘) บะลาซะรี กล่าวว่ามุอาวิยะฮ์ได้ส่งจดหมายว่างเปล่าและลงนามให้กับฮะซัน บิน อะลี (อ.) เพื่อที่จะเขียนเงื่อนไขใดๆ ก็ตามที่เขานั้นมีความต้องการ [๑๒๙] อิมามฮะซัน (อ.) เห็นสถานการณ์เช่นนี้ จึงได้กล่าวกับประชาชน และขอให้พวกเขาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสงครามหรือสันติภาพ ผู้คนร้องขอให้ยอมรับสันติภาพด้วยสโลแกน ที่ว่าอัลบะกียะฮ์ อัลบะกียะฮ์ (หมายถึง เราต้องการมีชีวิตอยู่) [๑๓๐] และด้วยเหตุนี้เอง อิมามฮะซัน (อ.) จึงต้องยอมรับสันติภาพ วันที่สถาปนาสันติภาพถูกบันทึกเป็น วันที่ 25 เราะบีอุลเอาวัล [๑๓๑] และในบางข้อมูล เราะบีอุลอาคิร หรือญะมาดุลเอาวัล [๑๓๒] ในปีฮิจเราะฮ์ที่ ๔๑

 

บทบัญญัติของข้อตกลงสันติภาพ

มีรายงานต่างๆ เกี่ยวกับบทบัญญัติของข้อตกลงสันติภาพ (๑๓๓) หนึ่งในบทบัญญัติที่อ้างถึงในแหล่งที่มา คือ ‎ตำแหน่งเคาะลีฟะฮ์ จะถูกส่งมอบให้กับมุอาวิยะฮ์ โดยมีเงื่อนไขว่า เขาจะต้องปฏิบัติตามคัมภีร์ของพระผู้เป็นเจ้าและซุนนะฮ์ของศาสดามุฮัมมัด (ศ็อลฯ) และแนวทางของคอลีฟะห์รุ่นแรกและไม่ได้แต่งตั้งผู้สืบทอดสำหรับตนเองและประชาชนทุกคนต้องได้รับความปลอดภัย รวมทั้งชีอะฮ์ของอิมามอะลี (อ) (๑๓๔) เชคศอดูก กล่าวว่าเมื่ออิมามฮะซัน (อ.) มอบตำแหน่งคอลีฟะห์ให้กับมุอาวิยะฮ์ โดยมีเงื่อนไขว่า จะไม่เรียกมุอาวิยะฮ์ว่า อะมีรุลมุอ์มินีน [๑๓๕]‎

 

ในบางแหล่งข้อมูล ระบุว่า อิมามฮะซัน (อ.) ตั้งเงื่อนไขว่า เคาะลีฟะฮ์จะถูกส่งมอบให้เขา หลังจากมุอาวิยะฮ์ และนอกจากนี้ มุอาวิยะฮ์จะจ่ายเงินให้เขา จำนวนห้าล้านดิรฮัม (๑๓๖) ตามที่ญะอ์ฟะรี กล่าวว่า ตัวแทนของอิมามฮะซัน ‎‎(อ.) ได้กำหนดเงื่อนไขทั้งสองนี้ไว้ในสนธิสัญญาสันติภาพ แต่อิมามไม่ยอมรับและเน้นย้ำว่า การแต่งตั้งคอลีฟะฮ์ต่อจากมุอาวิยะฮ์ ควรเป็นหน้าที่ของสภามุสลิม และเกี่ยวกับเงื่อนไขทางการเงิน เขายังกล่าวอีกว่า มุอาวิยะฮ์ไม่มีสิทธิ์ยึดคลังของชาวมุสลิม [๑๓๗] บางคนยังกล่าวด้วยว่า เงื่อนไขทางการเงินถูกกำหนดโดยตัวของมุอาวิยะฮ์เองหรือตัวแทนของเขา [๑๓๘]‎

 

อิมามฮะซัน (อ.) แม้จะถูกปลดจากตำแหน่งเคาะลีฟะฮ์ แต่ก็ยังถือว่า เขาเป็นอิมามของชีอะฮ์ และแม้แต่บรรดาชีอะฮ์ที่คัดค้านสนธิสัญญาสงบศึกของอิมาม ก็ไม่เคยปฏิเสธความเป็นอิมามัตของเขา และเขาเป็นผู้นำและผู้อาวุโสแห่งครอบครัวของศาสดามุฮัมมัด (ศ็อลฯ) ไปจนถึงบั้นปลายชีวิต [๑๓๙]‎

 

ปฏิกิริยาและผลที่ตามมา

ตามรายงานต่างๆ ระบุว่า หลังจากสนธิสัญญาสงบศึกของอิมามฮะซัน กลุ่มชีอะฮ์กลุ่มหนึ่ง ได้แสดงความเสียใจและความไม่พอใจ [๑๔๐] และแม้แต่บางคนก็ตำหนิอิมามและเรียกเขาว่า มุซิลลุลมุอ์มินีน (ผู้สร้างความอัปยศอดสูของผู้ศรัทธา) [๑๔๑] ในการตอบคำถามและการคัดค้าน อิมามได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการยึดมั่นในการตัดสินใจของอิมาม และเรียกเหตุผลแห่งสันติภาพของเขา เช่นเดียวกับเหตุผลแห่งสันติภาพของฮุดัยบียะฮ์ และวิทยปัญญาของภารกิจนี้ก็มีพื้นฐานมาจากความรอบรู้ในการกระทำของนบีคิฎิร (อ.)ในเรื่องการร่วมเดินทางกับศาสดามูซา ‎‎(อ.) [๑๔๒]‎

 

มีการระบุไว้ในแหล่งข้อมูลทางประวัติศาสตร์หลายแห่งว่า มุอาวิยะฮ์ไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขของข้อตกลงสันติภาพ ‎[๑๔๓] และสังหารบรรดาชีอะฮ์ของอิมามอะลีเป็นจำนวนมาก รวมถึงฮุจญ์ บิน อะดี ด้วย [๑๔๔] มีรายงานกล่าวว่า ‎หลังจากสนธิสัญญาสงบศึก มุอาวิยะฮ์เข้าไปในเมืองกูฟะฮ์ และเทศนาแก่ประชาชนและกล่าวว่า: ฉันจะรับคืนทุกเงื่อนไขที่ฉันกระทำไว้ และฉันจะผิดสัญญาในทุกคำที่ฉันกระทำไว้ (๑๔๕) เขายังกล่าวอีกว่า ฉันไม่ได้ต่อสู้กับพวกท่าน เพื่อพวกท่านจะได้ทำการนมาซ ถือศีลอดและทำฮัจญ์ แต่ฉันได้ต่อสู้เพื่อจะได้ปกครองพวกท่าน [๑๔๖]‎

 

กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วย

ความคิดเห็นของผู้ใช้งานทั้งหลาย

ไม่่มีความคิดเห็น
*
*

เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม