ชีวประวัติอิมามฮะซัน อัลมุจญ์ตะบาอ์ (อ.) ตอนที่เจ็ด
ชีวประวัติอิมามฮะซัน อัลมุจญ์ตะบาอ์ (อ.) ตอนที่เจ็ด
ระยะเวลาที่พำนักอยู่ในมะดีนะฮ์และอำนาจทางศาสนาของอิมามฮะซัน อัลมุจญ์ตะบาอ์
หลังจากที่บรรลุสนธิสัญญาสันติภาพกับมุอาวิยะฮ์แล้ว ฮะซัน บิน อะลี (อ.) ได้กลับมายังเมืองมะดีนะฮ์ และอยู่ที่นั่น จนกระทั่งสิ้นชีวิต แม้ว่า ชีอะฮ์บางคนของเขา จะร้องขอให้เขาอยู่ในเมืองกูฟะฮ์ก็ตาม [๑๔๗] และเขาได้เดินทางไปยังมักกะฮ์ เพียงเท่านั้น [๑๔๘] และซีเรีย [ ๑๔๙ ]หลังจากการเป็นชะฮีดของอิมามอะลี (อ.)และตามพินัยกรรมของเขา อิมามมุจญ์ตะบาอ์ อ์ (อ.) จึงเป็นผู้ดูแลศาสนสมบัติและการกุศลของเขา ดังรายงานในอัลกาฟีย์ ว่า พินัยกรรมดังกล่าวลงบันทึกใน วันที่ ๑๐ ญะมาดุลเอาวัล ปี ๓๗ ฮ.ศ. [๑๕๐]
อำนาจทางความรู้
มีรายงานต่างๆเกี่ยวกับการพบปะผู้คนอย่างต่อเนื่องของอิมามฮะซัน (อ.) ในเมืองมะดีนะฮ์ เพื่อให้ความรู้และการชี้แนะประชาชน รวมถึง อิบนุ ซะอัด (เสียชีวิต ๒๓๐ ฮ.ศ.) บะลาซะรีย์ (เสียชีวิต ๒๗๙ ฮ.ศ.) และอิบนุ อะซากิร (เสียชีวิต ๕๗๑1 ฮ.ศ.) ซึ่งพวกเขารายงานว่า ฮะซัน บิน อะลี ได้นมาซศุบฮ์ในมัสยิดอัน-นะบี จนถึงดวงอาทิตย์ขึ้น จากนั้นบรรดาผู้อาวุโสและผู้คนที่อยู่ในมัสยิด จะนั่งใกล้เขาและร่วมปรึกษาหารือกัน เขาก็มีแบบแผนเดียวกันในช่วงเย็น [๑๕๑] มีการกล่าวถึง ในอัล-ฟูซุล อัล-มุฮิมมะฮ์ ด้วยว่า ฮะซัน บิน อะลี เคยนั่งอยู่ในมัสยิดศาสดามุฮัมมัด (ศ็อลฯ) และผู้คนจะเวียนวนอยู่รอบๆ เขา และเขาจะตอบคำถามของพวกเขา (๑๕๒) ในขณะเดียวกัน มะฮ์ดี พีชวออี กล่าวว่า ฮะซัน บิน อะลี (อ.) ต้องเผชิญกับความโดดเดี่ยวและความไม่พึงปรารถนาของผู้คน ซึ่งมีส่วนทำให้เกิดการเบี่ยงเบนทางศีลธรรมของสังคมในวันนั้น [๑๕๓] อัลลามะฮ์ เตห์รอนี เชื่อว่าช่วงเวลาของการเป็นอิมามัตของอิมามมุจญ์ตะบาอ์ อ์ (อ.) และอิมามฮุเซน (อ.) เป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากและมีความมืดมนที่สุดในช่วงเวลาต่างๆ เนื่องจากการปกครองของราชวงศ์บะนีอุมัยยะฮ์ และเมื่อพิจารณาถึงอายุยืนยาวของทั้งสองคนนี้ด้วย เนื่องจากระยะเวลาของการเป็นอิมามัตและวิลายัตของพวกเขา ควรจะเป็นเรื่องปกติ ที่จะมีฮะดีษ บทเทศนาและคำตักเตือนหลายพันรายการในการอรรถาธิบายอัลกุรอาน แต่บทเทศนาและคำกล่าวของพวกเขานั้นมีน้อยอย่างมาก [๑๕๔]
สถานภาพทางสังคม
จากรายงานทางประวัติศาสตร์ ปรากฏว่า อิมามฮะซัน (อ.) มีสถานภาพทางสังคมที่พิเศษ ตามรายงานของอิบนุ ซะอัด (เสียชีวิตในปี 230 ฮ.ศ.) ระบุว่า เมื่อประชาชนเห็นฮะซัน บิน อะลี ในระหว่างพิธีฮัจญ์ พวกเขาก็รีบวิ่งเข้าไปหาเขา เพื่อตะบัรรุกจากเขา จนกระทั่ง เมื่อฮุเซน บิน อะลี (อ.)ด้วยความช่วยเหลือจากหลายบุคคล ทำให้กลุ่มผู้คนออกห่างจากเขา (๑๕๕) มีรายงานอีกว่า อิบนุอับบาส แม้จะเป็นหนึ่งในผู้อาวุโสของศอฮาบะฮ์ก็ตาม [๑๕๖] และเขาก็มีอายุมากกว่าอิมามฮะซัน (อ.) เคยถืออานม้าให้อิมามฮะซัน (อ.) เมื่อเขาขี่ม้า [157๑๕๗]
การไม่แทรกแซงในเรื่องการเมืองและการไม่ร่วมมือกับมุอาวียะฮ์
กล่าวกันว่า หลังจากที่อิมามฮะซัน (อ.) ออกจากเมืองกูฟะฮ์ กลุ่มหนึ่งจากกลุ่มคอวาริจญ์ได้รวมตัวกันที่เมืองนะคีละฮ์ เพื่อต่อสู้กับมุอาวียะฮ์ มุอาวิยะฮ์จึงเขียนจดหมายส่งถึงฮะซัน บิน อะลี และเรียกร้องให้เขากลับมาต่อสู้กับพวกเหล่านั้น อิมามก็ไม่ยอมรับและเขียนคำตอบของเขาว่า: หากฉันต้องการต่อสู้กับใครบางคนจากชาวกิบลัต ฉันคงจะต่อสู้กับเจ้า[๑๕๘]
ในบางรายงาน มีการระบุว่า อิมามมุจญ์ตะบาอ์ อ์ (อ.) ยอมรับของขวัญจากมุอาวิยะฮ์ แม้ว่า จะไม่ได้ร่วมทางกับมุอาวียะฮ์และคัดค้านการกระทำของเขาก็ตาม (๑๕๙) จำนวนเงินที่มุอาวียะฮ์ส่งให้เขาพร้อมกับของขวัญอื่น ๆ กล่าวว่า เป็นหนึ่งล้านดิรฮัม [๑๖๐]หรือหนึ่งแสนดีนาร [๑๖๑] ต่อปี บางรายงานกล่าวว่า บางครั้ง เขาก็ชำระหนี้และแบ่งส่วนที่เหลือให้ญาติและผู้ใต้บังคับบัญชาของเขา[162]และบางครั้งก็มอบของขวัญเหล่านั้นให้ผู้อื่นด้วย [๑๖๓] นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า ฮะซัน บิน อะลี (อ.) ไม่รับของขวัญจากมุอาวิยะฮ์ในหลายกรณี [๑๖๔] ข่าวคราวประเภทนี้ ทำให้เกิดปฏิกิริยาและข้อสงสัย [๑๖๕] และมีการถกเถียงกันถึงประเด็นนี้ รวมถึง มิติทางวาจา ด้วย ตัวอย่างเช่น ซัยยิดมุรตะฎอ ถือว่า เป็นการอนุญาตและแม้กระทั่งเป็นข้อบังคับสำหรับอิมามฮะซัน (อ.) ที่จะต้องรับทรัพย์สินและของขวัญจากมุอาวียะฮ์และจากจุดนี้ จะต้องยึดทรัพย์สินของผู้ปกครองที่ปกครองด้วยความกดขี่ต่อประชาชาติ [๑๖๖]
การเผชิญหน้าของพวกอุมัยยะฮ์
มีรายงานต่างๆ ระบุว่า การปฏิบัติที่ไม่เหมาะสมต่อพวกอุมัยยะฮ์กับอิมามฮะซัน (อ.) [๑๖๗] นอกจากนี้ ในหนังสืออิฮ์ติญาจ มีการกล่าวถึงการอภิปรายเชิงวิชาการระหว่างอิมามฮะซัน (อ.) และมุอาวิยะฮ์ และผู้ติดตามของเขา ดวย ในการอภิปรายเหล่านี้ เขาได้ปกป้องสถานภาพของอะฮ์ลุลบัยต์และเปิดเผยอัตลักษณ์และสถานภาพของเหล่าศัตรูของเขา [๑๖๘] ตามรายงานที่อ้างถึงในอัลอิฮ์ติญาจ กล่าวว่า ในการพบปะกับผู้สนับสนุนการปกครองของมุอาวิยะฮ์ เช่น อัมร์ บิน อุษมาน อัมร์ บิน อาศ อุตบะฮ์ บิน อะบีซุฟยาน วะลีด บิน อุกบะฮ์ และมุฆีเราะฮ์ บิน ชะอ์บะฮ์ อยู่ต่อหน้ามุอาวิยะฮ์ อิมามมุจญ์ตะบาอ์ อ์ (อ.) ได้ประณามพวกเหล่านี้โดยอ้างถึงโองการอัลกุรอาน ริวายะฮ์ และรายงานทางประวัติศาสตร์ และอธิบายถึงสิทธิและสถานภาพของอิมามอะลีและอะฮ์ลุลบัยต์ในลักษณะดังกล่าว ซึ่งคำทำนายของมุอาวิยะฮ์ ก่อนการประชุมอภิปราย (ตามเรื่องอื้อฉาวและการประณามของผู้เรียกร้องการอภิปราย) ว่า เป็นจริง [๑๖๙]