เหตุผลของความจำเป็นและการเกิดขึ้นของมะอาด
เหตุผลของความจำเป็นและการเกิดขึ้นของมะอาด
สำหรับการพิสูจน์ถึงความจำเป็นและการเกิดขึ้นของมะอาด มีข้อพิสูจน์และเหตุผลต่างๆมากมาย ตัวอย่างเช่น อับดุลลอฮ์ ญะวาดี อามุลี นักปรัชญาและนักตักซีรอัลกุรอาน ได้กล่าวถึงข้อพิสูจน์ทั้งเก้าประการ [๙๓] ญะอ์ฟัร ซุบฮานี ได้กล่าวถึงเหตุผลหกประการ [๙๔] และนาศิร มะการิม ชีรอซี ได้กล่าวถึงข้อพิสูจน์เจ็ดประการ [๙๕] ข้อพิสูจน์ของอายะตุลลอฮ์ ญะวาดี อามุลี ได้แก่ ข้อพิสูจน์เตาฮีด ข้อพิสูจน์ศิดก์ ข้อพิสูจน์ฟิฏเราะฮ์ ข้อพิสูจน์การเคลื่อนไหวและการมีเป้าหมาย ข้อพิสูจน์ฮิกมะฮ์ ข้อพิสูจน์ความเมตตา ข้อพิสูจน์ความจริง ข้อพิสูจน์ความยุติธรรม และ การพิสูจน์การเป็นมุญัรร็อดของจิตวิญญาณ[๙๖]
ข้อพิสูจน์ศิดก์
เหตุผลประการหนึ่งสำหรับความจำเป็นของการฟื้นคืนชีพ คือ เหตุผลของตะอับบุดี เมื่อเรารู้และยอมรับว่า อัลกุรอานเป็นพระวจนะของพระเจ้า เมื่อพระเจ้าทรงตรัสหลายครั้งในอัลกุรอานว่า มีมะอาดและพระองค์จะทรงนำมนุษย์มารวมตัวกัน เมื่อนั้นมะอาดก็จะเกิดขึ้นตาม (๙๗) ตามทัศนะของมุฮัมมัดตะกี มิศบาห์ ยัซดี ระบุว่า มีประมาณสองพันโองการจากอัลกุรอานโดยตรง และโดยอ้อมที่บ่งบอกถึงการเกิดขึ้นของมะอาด(๙๘) ญะวาดี อามุลี กล่าวว่า เมื่อพระเจ้า เป็นผู้ทรงสัตย์จริงที่สุดได่กล่าวถึงมะอาด แน่นอนว่า มะอาดก็จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน [๙๙]
มีการกล่าวกันว่า สำนักคิดอัชอะรียะฮ์ ได้พิสูจน์ถึงมะอาดโดยผ่านอัลกุรอานและซุนนะฮ์ ไม่ใช่ สติปัญญาและเหตุผลทางสติปัญญา (๑๐๐)
เหตุผลฟิฏเราะฮ์
ฟิฏเราะฮ์ หมายถึง การสร้าง ธรรมชาติดั้งเดิม และสาระสำคัญของสิ่งที่มีชีวิตทุกชนิดในการเริ่มต้นจากการสร้าง [๑๐๑] มีบางประเด็นจากเหตุผลนี้ :
ด้วยฟิฏเราะฮ์ของมนุษย์ มีความรัก ความปรารถนาต่อโลก ชีวิตนิรันดร์ และความเกลียดชังต่อความว่างเปล่าและการทำลายล้าง
สิ่งใดก็ตามที่วางอยู่บนฟิฏเราะฮ์ของมนุษย์นั้นมีความชอบธรรมและถูกต้องและไม่ไร้ประโยชน์
ความปรารถนาและความรักของมนุษย์ต่อความเป็นอมตะและความคงอยู่ เป็นเหตุผลถึงการดำรงอยู่ของโลกนิรันดร์ที่ได้รับการปกป้องจากการถูกทำลาย โลกแห่งธรรมชาตินี้ จึงไม่มีเหมาะสมและความสามารถในการดำรงอยู่และเป็นอมตะนิรันดร์
ฉะนั้น หากไม่มีโลกอื่นที่สามารถจะคงอยู่ได้ ความเป็นอมตะและความปรารถนาของมนุษย์ที่จะเป็นอมตะ ซึ่งถูกกำหนดไว้ในฟิฏเราะฮ์ของมนุษย์ก็จะเป็นโมฆะและไร้ประโยชน์ ในขณะที่โลกแห่งธรรมชาติ ไม่มีความเป็นโมฆะ เพราะว่า เป็นการสร้างของพระเจ้า ผู้ทรงวิทยปัญญา ดังนั้น จึงจะต้องมีโลกและชีวิตที่เป็นนิรันดร์ (๑๐๒)
ข้อพิสูจน์ฮิกมะฮ์
ข้อพิสูจน์นี้ มีหลายรูปแบบที่แตกต่างกัน [๑๐๓] หนึ่งในคำอธิบายและรูปแบบของข้อพิสูจน์นี้ อยู่บนพื้นฐานของการมีเป้าหมายในการสร้างมนุษย์และโลก ตามคำอธิบายนี้
ชีวิตหลังความตาย เป็นเป้าหมายของการสร้างมนุษย์และโลก
หากไม่มีโลกเช่นนี้ ชีวิตของมนุษย์และโลก จะถูกจำกัดอยู่เพียงชีวิตทางโลกนี้ และการสร้างของมนุษย์ จะไร้ประโยชน์และเป็นโมฆะ เพราะว่า โลกนี้และปรากฏการณ์ของมันจะถูกทำลายได้
พระเจ้า เป็นผู้ทรงปรีชาญาณและปราศจากการกระทำที่ไร้ประโยชน์และไร้สาระ ฉะนั้น จะต้องมีโลกอื่นหลังจากโลกแห่งวัตถุนี้ เพื่อที่จะเป็ยเป้าหมายของชีวิตทางโลกนี้และการสร้างมนุษย์ [๑๐๔]
โองการต่างๆ เช่น โองการที่ ๑๑๕ ซูเราะฮ์ อัลมุอ์มินูน โองการที่ ๒๗ ซูเราะฮ์ ศ็อด โองการที่ ๓๘ และ ๓๙ ซูเราะฮ์ อัดดุคอน ได้ชี้ให้เห็นถึงเหตุผลนี้ (๑๐๕)
เหตุผลความยุติธรรม
เหตุผลนี้ ซึ่งมีพื้นฐานอยู่บนความยุติธรรมของพระเจ้า มีดังนี้ :
คุณลักษณะประการหนึ่งของพระเจ้า คือ ความยุติธรรม และโลกนี้ได้ถูกสร้างขึ้นบนความยุติธรรม
มนุษย์ในโลกนี้ มีอิสระที่จะเลือกกระทำความดีและความชั่ว
ผลจากการมีเจตจำนงเสรี มนุษย์กลุ่มหนึ่งใช้ขีดความสามารถของตนในหนทางของพระเจ้าและการทำความดี และอีกกลุ่มหนึ่งใช้ขีดความสามารถทั้งหมดของตน เพื่อตอบสนองกิเลสตัณหาและบาปต่างๆ
โลกนี้ ไม่มีศักยภาพที่มนุษย์จะมองเห็นผลลัพธ์ของการกระทำของตนได้อย่างสมบูรณ์ เป็นไปไม่ได้ที่จะให้ผลรางวัลแก่ผู้ปฏิบัติคุณธรรมอย่างสมบูรณ์ และไม่สามารถที่จะลงโทษผู้ชั่วร้ายอย่างเต็มที่ได้
ด้วยเหตุนี้เอง ความยุติธรรมของพระเจ้า ได้กำหนดว่า จะมีโลกที่มีความยุติธรรมอีกโลกหนึ่งหลังจากโลกแห่งวัตถุนี้ เพื่อที่จะทำให้ความยุติธรรมจะเกิดขึ้นและบัญชีการกระทำของทุกคนจะได้รับการคิดบัญชีโดยสมบูรณ์ในนั้น (๑๐๖)
โองการ หรือว่า เราทำให้บรรดาผู้ศรัทธาและผู้กระทำความดี เหมือนผู้ทุจริตในโลกนี้ หรือเราทำให้คนมีตักวาเหมือนกับเหล่าอาชญากร? [๑๐๗] และโองการที่ ๒๑ และ ๒๒ ของซูเราะฮ์ อัลญาษิยะฮ์ โองการที่ ๕๘ ซูเราะฮ์อัลมุมิน โองการที่ ๓๕ และ ๓๖ ซูเราะฮ์ อัลเกาะลัม โองการเหล่านี้ล้วนบ่งชี้ถึงข้อพิสูจน์นี้ (๑๐๘)