รักเสมอแม้เธอตกงาน
เมื่อสามีตกงาน
เมื่อครั้งที่เราสองคนยังอยู่ในวัยหนุ่มสาว ซึ่งขณะนั้นเราเพิ่งจะมีลูกด้วยกันคนแรก เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น สามีของดิฉันตกงานอย่างกระทันหัน!
เขาเคยทำงานในบริษัทสายการบินแห่งหนึ่ง แต่ก็ต้องตกใจแทบทรุดกายเมื่อได้รับแจ้งว่าทางบริษัทได้ปลดเขาออกแล้ว เขารู้สึกมืดแปดด้านไม่รู้ว่าจะหารายได้จากที่ใหนมาจุนเจือครอบครัว และที่สำคัญ จะหาเงินที่ใหนมาเลี้ยงดูลูกน้อยวัยน่ารักของเรา
สามีของดิฉันยังคงเพียรพยายามเสาะหางานตามประกาศต่างๆอย่างเต็มความสามารถ วันเวลาผ่านไป ร่องรอยแห่งความท้อแท้ก็เริ่มปรากฏบนใบหน้าของเขา เขากลัดกลุ้มใจเป็นอย่างยิ่งที่ยังไม่สามารถหางานทำได้ อย่างไรก็ตาม ดิฉันยังพอจะช่วยเหลือแบ่งเบาภาระของเขาได้บ้างด้วยกับเงินเดือนที่ไม่มากนักของดิฉัน
ดิฉันออกจากบ้านแต่เช้าเพื่อไปทำงานและฝากลูกให้สามีเลี้ยง พอตกเย็น ดิฉันก็กลับถึงบ้านและเลี้ยงลูกต่อจากเขา ส่วนเขาก็พยายามหางานตามสื่อและหนังสือพิมพ์ต่างๆต่อไปอย่างไม่ลดละ
ตลอดช่วงเวลาแห่งวิกฤตินั้น ดิฉันพยายามปลอบใจสามีมาโดยตลอด อย่างน้อยก็เพื่อจะลดความเครียดของสามีลงบ้าง ดิฉันพยายามพูดกับสามีว่าเรายังพอมีเงินออมเหลืออยู่ และแน่นอน .. ดิฉันพยายามไม่ปริปากขอเงินสามี ทั้งหมดก็เพื่อจะบรรเทาความกลัดกลุ้มของเขาเท่าที่จะทำได้ ดิฉันต้องการจะรักษาภาพพจน์ความเป็นลูกผู้ชายของเขาไว้ให้ได้มากที่สุด
ระยะเวลาที่สามีของดิฉันตกงานก็ผ่านไป วันเวลาแห่งการอยู่กินอย่างกระเบียดกระเสียร ความเครียด ความฟุ้งซ่าน ฯลฯ ที่กินเวลากว่าสิบเดือนก็สิ้นสุดลงเมื่อสามีของดิฉันได้งานที่เหมาะสมและมีรายได้ที่พอดีกับความต้องการของครอบครัวเรา
แม้ว่าช่วงเวลาวิกฤติดังกล่าวจะเป็นช่วงเวลารันทดที่สุดสำหรับชีวิตคู่ของดิฉันและสามีก็ตาม แต่เมื่อเวลาผ่านไป เมื่อดิฉันนึกย้อนกลับไปช่วงเวลานั้น ดิฉันก็รู้สึกภาคภูมิใจที่อย่างน้อยดิฉันได้ทำหน้าที่ภรรยาที่ไม่เคยทำร้ายความรู้สึก และไม่เคยค่อนแคะสามีให้ต้องรู้สึกสูญเสียศักดิ์ศรีเลยตลอดช่วงระยะเวลาอันยากลำบากนั้น
หลังจากที่เราสองคนผ่านพ้นช่วงนั้นไปได้ เรารู้สึกได้อย่างชัดเจนเลยว่า ความสุขในชีวิตคู่ของครอบครัวเราได้ก่อตัวขึ้นในช่วงที่เรายากลำบากและขาดแคลนเงินนั่นเอง
ภาวะแห่งการไม่มีงานทำนั้น บ่อนทำลายความรู้สึกของผู้ชายยิ่งกว่าผู้หญิง ทั้งนี้ก็เพราะโครงสร้างแห่งศักดิ์ศรีของผู้ชายมีหน้าที่การงานเป็นองค์ประกอบสำคัญ ด้วยเหตุนี้เองที่เมื่อสามีไม่มีงานทำเป็นระยะเวลานาน เขาย่อมรู้สึกว่าตัวเองไม่มีศักยภาพ ไม่มีความรับผิดชอบ ซึ่งหากครอบครัวใดประสบกับปัญหาเช่นนี้ เรามีข้อแนะนำดังต่อไปนี้..
คำแนะนำ
1. หากสามีของคุณต้องพ้นจากงานอย่างกระทันหัน แต่คุณยังมีความสามารถพอที่จะจุนเจือรายจ่ายของครอบครัวได้บ้าง (ไม่ว่าจะเป็นเพราะคุณมีงานทำหรือเพราะคุณมีเงินออมก็ตาม) ขอให้พยายามระวังอย่าคาดคั้นหรือสร้างความกดดันแก่สามี ขอให้คุณให้โอกาสและเป็นกำลังใจให้เขาพยายามหางานใหม่ให้สำเร็จ
2. เกี่ยวกับภาวะการตกงานของสามี ต้องระวังและพยายามอย่าเล่าให้ใครฟังแม้จะในหมู่เพื่อนฝูงก็ตาม ขอให้รักษาภาพพจน์ของเขาให้ดี และควรหลีกเลี่ยงการขอความช่วยเหลือจากคนอื่นหากไม่จำเป็นจริงๆ ในสถานการณ์เช่นนี้ ควรปรึกษาหารือกับสามีเพื่อหาทางออกเพียงสองคน หากจำเป็นจริงๆจึงจะขอความช่วยเหลือและวานให้คนอื่นช่วยหางานหรือขอหยิบยืมเงินทองบ้างเท่าที่จำเป็น ที่ควรทำเช่นนี้ก็เพื่อรักษาศักดิ์ศรีของสามีและศักดิ์ศรีของครอบครัวนั่นเอง
3. จากการที่โลกเราทุกวันนี้เจริญรุดหน้าอย่างรวดเร็ว ทำให้ทักษะบางอย่างกลายเป็นปัจจัยสำคัญของอาชีพการงานในปัจจุบัน อย่างเช่น ภาษา, คอมพิวเตอร์ ฯลฯ ด้วยเหตุนี้ หากสังเกตุเห็นว่าสามีของคุณขาดความชำนาญในทักษะสำคัญ ก็ควรสนับสนุนให้เขาได้ศึกษาและฝึกฝนทักษะเหล่านี้ เพื่อให้มีโอกาสในอาชีพการงานมากยิ่งขึ้น
4. ควรให้กำลังใจและสนับสนุนเขาอย่างจริงใจ และไม่ควรสร้างแรงกดดันในเรื่องรายรับรายจ่ายของครอบครัวให้เขาต้องเครียด แน่นอนว่าการให้กำลังใจอย่างแท้จริงย่อมต่างจากการให้กำลังใจโดยคำกล่าวอ้าง ฉะนั้น พฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของคุณ, การใช้คำที่เสียดสีความรู้สึกและคำที่ก่อให้เกิดความท้อแท้ หรือการแสดงอารมณ์หงุดหงิดฉุนเฉียวย่อมตรงข้ามกับการให้กำลังใจของคุณที่มีต่อสามีในช่วงแห่งวิกฤตินี้อย่างแน่นอน
5. ควรแสดงออกถึงความพอใจต่อชีวิตคู่ที่อยู่ร่วมกับเขา แม้เขาจะสูญเสียงานและรายได้ไปก็ตาม แต่ควรพูดและแสดงท่าทีอันสื่อให้เขารู้ว่า คุณรักชีวิตคู่และยังภูมิใจในตัวเขาอยู่เสมอ และพร้อมที่จะอดทนเพื่อชีวิตคู่ของคุณและเขาต่อไป
6. หากพบว่าสามีของคุณแสดงอาการเกรี้ยวกราด, ซึมเศร้า, ทานไม่ได้นอนไม่หลับ และความผิดปกติทางด้านพฤติกรรมอื่นๆที่สำคัญ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญถึงวิธีการบรรเทาหรือรักษาอาการต่างๆเหล่านี้โดยด่วน เพื่อสุขภาพของสามีและที่สำคัญไปกว่านั้น .. เพื่อชีวิตคู่ที่ยั่งยืน.
แปลจาก tebyan.net
โดย กัมบัร