การใส่ร้ายป้ายสี ในมุมมองของอิสลาม

 

ความชั่วที่น่าเกลียดที่สุดอีกประการหนึ่ง นั่นคือ การใส่ร้ายป้ายสีผู้อื่น ดังอัลกรุอานกล่าวว่า

 

 

وَمَن يَكْسِبْ خَطِيئَةً أَوْ إِثْمًا ثُمَّ يَرْمِ بِهِ بَرِيئًا فَقَدِ احْتَمَلَ بُهْتَانًا وَإِثْمًا مُّبِينًا

 

และผู้ใดพากเพียรความผิดหนึ่ง หรือบาปหนึ่ง แล้วหลังจากนั้น เขาก็โยนสิ่งนั้นให้แก่ผู้บริสุทธิ์ แน่นอนเขาได้แบกความเท็จ และบาปอันชัดแจ้งไว้แล้ว (อันนิซา /112)

 

ท่านศาสดา (ศ็อลฯ) ได้กล่าวว่า

 

"ผู้ใดก็ตามที่ใส่ร้ายป้ายสีผู้ศรัทธาชายหรือหญิงคนหนึ่ง หรือพูดเกี่ยวกับเขาในสิ่งที่ไม่มีในตัวเขา อัลลอฮ์ ผู้ทรงสูงส่งจะทำให้เขายืนขึ้นในวันโลกหน้าบนเนินเขาจากไฟนรก"

 

 

อะไรคือความหมายของการใส่ร้าย?

 

การใส่ร้ายเกิดได้ในสามรูปแบบดังนี้

1.มิได้ถูกพิสูจน์ว่าเขาทำผิดจริง นั้นคือ ปักใจเชื่อว่าคนๆหนึ่งผิดแน่นอน โดยมิได้พิสูจร์อย่างชัดเจนว่าเขาผิดจริงหรือไม่

2. รู้อย่างชัดเจนว่าเขามิใช่คนผิด แต่ปรักปรัมว่าผิด เพราะความเป็นศัตรู

3.โยนความผิดที่เขาทำให้แก่ผู้อื่น เพื่อตนเองจะได้ปลอดภัย

 

ฉะนั้นหากมีการ "ใส่ร้ายชีอะห์" ว่าพวกเขาได้ "ใส่ร้ายศ่อฮาบะฮ์ หรือภรรยานบี" ณ จุดนี้ควรจะต้องพิจารณาด้วยว่า

1. ชีอะห์กล่าวร้ายบุคคลเหล่านั้น หรือชีอะห์แค่นำเรื่องราวของบุคคลเหล่านั้นมาเปิดเผยตามตำราที่บันทึกไว้ ฉะนั้นหากเรื่องที่นำมาเปิดเผยเป็นเรื่องจริง ก็ถือว่าไม่มีการใส่ร้ายกันแน่นอน(เพราะเรื่องจริง) แต่หากเรื่องที่นำเสนอไม่จริง ผู้ใส่ร้ายตัวจริงก็ควรเป็นผู้บันทึกฮะดิษ อย่างเช่น บุคอรี มุสลิม มุสนัตฮะหมัด ฮัมบัล และท่านอื่นๆที่เป็นเจ้าของตำราฮะดิษ จริงไหม

 

2. เมื่อพวกคุณกล่าวหาว่า "ชีอะห์ใส่ร้ายภรรยานบี" ทั้งๆที่ชีอะห์ไม่ได้ใส่ร้ายอะไรเลย แค่พูดตามที่ปราชญ์ของชาวซุนนะห์บันทึกไว้ สิ่งนี้ก็ย่อมแสดงว่า "คนที่กล่าวหาชีอะห์" เขาคนนั้นก็จะตกเป็น "ผู้ที่ใส่ร้ายคนอื่น" อย่างไม่ต้องสงสัย

 

 

ขอขอบคุณเฟสบุค เอกภาพ ชัยศิริ