ความสำคัญของระบอบอิมามัต

ศาสนาที่บริสุทธิ์นี้จะต้องคงอยู่จวบถึงวันกิยามัต  สำหรับ อัลลอฮ์(ซ.บ) แม้นมนุษย์จะนับถือ ไม่นับถือ ก็ไม่ได้มีความหมายใดๆ คนจะนับถือมากจะนับถือน้อยไม่มีความหมายใดๆ  แม้นจะมีคนอ้างว่าศาสนาบางศาสนาเป็นของคนส่วนมาก บางศาสนาเป็นของคนส่วนน้อย เป็นของคนจนบ้าง คนรวยบ้าง ความคิดเหล่านี้มนุษย์ต่างหากที่ตั้งขึ้นมาเอง สำหรับพระองค์ไม่มี!  

ตัวอย่าง  สมัยของท่านนบีนุฮ์ (อ )

สมัยของท่านนบีนุฮ์(อ ) อัลลอฮฺ (ซบ) ปล่อยเวลาให้ผ่านหลายร้อยปี พระองค์ไม่ได้สนใจ บางยุคบางสมัยมีคนนับถือศาสนาของพระองค์เพียง 8 คน และปล่อยให้เป็นอย่างนั้นเป็นเวลาหลายร้อยปี จนวันหนึ่งเมื่อถึงเวลาพระองค์ก็ทำลายล้างครั้งหนึ่ง

ฉะนั้น ระบอบอิมามัตก็เช่นกัน เมื่อระบอบนี้ถูกสถาปนา ถูกนำมาทดแทนระบอบนะบูวัต ระบอบอิมามัตจึงเป็นระบอบเดียวที่จะเป็นหลักประกันว่า ศาสนานี้ยังคงอยู่ และแน่นอนถ้าศาสนาบริสุทธิ์ยังคงอยู่ ความยิ่งใหญ่ของมันก็ยังคงอยู่

ดังนั้น ท่านนบีมูฮัมมัด(ศ็อลฯ)จึงได้มอบอำนาจของท่านไปสู่อีกระบบหนึ่ง และมอบอำนาจของท่านก็คือ การมอบวิลายัตของท่าน ไปยังโครงสร้างใหม่ที่อัลลอฮ์ (ซ.บ) ได้สถาปนาขึ้นมา เพื่อที่จะเป็นหลักประกันว่า ศาสนาอันบริสุทธิ์นี้จะต้องคงอยู่ถึงวันกิยามัต และตัวแทนที่รับมอบคนแรกในระบบอันนี้ก็คือ อะลี อิบนิ อบีฏอลิบ

 ท่านอิมามอะลี (อ) คือผู้รับมอบอำนาจนี้ ผู้รับมอบวิลายัตนี้ อำนาจแห่งการปกครอง อำนาจที่จะต้องมาจากพระเจ้า

ทำไมจะต้องเป็นอำนาจที่มาจากพระเจ้า

 

สิ่งหนึ่งที่เราจะต้องศึกษา เราจะต้องทำความเข้าใจ คือ เราจะต้องรู้จักศาสนาของเราก่อน

 ประการแรก อิสลามคือศาสนาสำหรับมวลมนุษยชาติ

เมื่อเราบอกว่าสำหรับมวลมนุษยชาติ เท่ากับอิสลาม คือ ศาสนาสำหรับจีน อาหรับ อินเดีย ไทย ฝรั่งเศส แอฟริกา ฯลฯ สำหรับมวลชนทุกชนชั้น ทุกเผ่าพันธุ์ ทุกภาษา
ประการที่สอง ศาสนานี้ไม่ได้เป็นศาสนาที่เป็นแต่เพียงเรื่องของประเพณี แต่ศาสนานี้มาพร้อมกับคำสั่งสอนจากพระผู้เป็นเจ้าที่สมบูรณ์ที่ละเอียดในทุกแง่มุมสำหรับมนุษย์ทุกคน มีระบบการเมืองการปกครอง มีระบบเศรษฐกิจ มีวัฒนธรรมเป็นของตนเอง ฯลฯ

ตัวอย่าง เรื่องที่เกี่ยวกับวัฒนธรรม

ศาสนานี้เป็นศาสนาที่มีวัฒนธรรมของตัวเองที่สมบูรณ์  มีรายละเอียดทุกเรื่อง ขอยกพอสังเขป

 ผู้ชายควรแต่งตัวอย่างไร ?

ผู้หญิงควรแต่งตัวอย่างไร ?

 แม้แต่เรื่องอย่าใช้น้ำหอม เมื่อใดผู้หญิงใช้น้ำหอมได้ เมื่อใดผู้หญิงใช้น้ำหอมไม่ได้

 
เมื่อใดที่ผู้หญิงทาลิปสติกออกจากบ้านได้ เมื่อใดที่ผู้หญิงทาลิปสติกออกจากบ้านไม่ได้

เมื่อใดที่ผู้หญิงแต่งตัวให้หน้าแดงได้ อยู่ตรงไหนได้ ตรงไหนไม่ได้

 เมื่อใดที่ผู้หญิงจะแต่งตัวให้รัดๆ เย้ายวนได้ เมื่อใดไม่ได้ ที่ไหนได้ ที่ไหนไม่ได้

 นี่เพียงตัวอย่าง อิสลามคือศาสนาที่ร่ำรวยในทุกเรื่อง แม้แต่เรื่องเสื้อผ้าของมวลมนุษย์

ผู้ชายไม่ควรแต่งกายแบบไหน?

 ผู้หญิงไม่ควรแต่งกายแบบไหน?

 ผู้ชายไม่ควรใส่เสื้อสีอะไร?

 ผู้หญิงไม่ควรใส่เสื้อสีอะไร?

เหล่านี้มีในคำสั่งสอนของศาสนา บางบอกว่า รายละเอียดบางกรณีที่ไม่ได้อยู่ในอัลกุรอานทั้งหมด ก็จะไปอยู่ในคำสั่งสอนของศาสดา อยู่ในคำสั่งสอนของนบี ถ้าเราเข้าสู่รายละเอียด ในเรื่องเศรษฐกิจก็เช่นนี้ นักเรียนศาสนาจะรู้ เมื่อไรไปตลาดได้? เมื่อไรไม่ควรไปตลาด? ควรไปตลาดตอนไหน? เมื่อจะซื้อขายกันแล้ว ผู้ขายอย่าบอกราคาให้สูงเกินไป ผู้ซื้อก็อย่าต่อรองแบบเลยเถิด มีคำสั่งสอนการเมือง การปกครอง มีทุกอย่างที่ละเอียดทั้งหมด และเป็นหน้าที่ของทุกคนที่จะต้องปฏิบัติ

นี่คือ เหตุผลสำคัญที่มนุษย์ต้องรู้จักศาสนาก่อน

 

ธารธรรมโดย ซัยยิดสุไลมาน ฮูซัยนี