เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม

ความพยายามของไซออนิสต์ที่กำจัดผู้ช่วยให้รอดในยุคสุดท้าย

0 ทัศนะต่างๆ 00.0 / 5

 

ความพยายามของไซออนิสต์ที่กำจัดผู้ช่วยให้รอดในยุคสุดท้าย

  

 

 หน่วยข่าวกรองและหน่วยสืบราชการลับของสหรัฐอเมริกาและไซออนิสต์ได้ทำการศึกษาวิจัยอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับรัฐบาลและอำนาจการปกครองของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.ญ.) และสัญญาณต่างๆ ของการปรากฏตัว (ซุฮูร) ของท่าน

 

 

      ในขณะนี้ในหน่วยงานต่างๆ ด้านข่าวกรองและหน่วยสืบราชการลับ อย่างเช่น ซีไอเอ.และมอสสาด ได้มีการศึกษาวิจัยอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับเรื่องของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.ญ.) หรือผู้ช่วยให้รอด และพวกเขาได้ทำการตรวจสอบคุณลักษณะเฉพาะทั้งหมดของท่านอิมาม (อ.ญ.) และบรรดาผู้ช่วยเหลือท่าน รวมทั้งสัญญาณต่างๆ ของการปรากฏตัว (ซุฮูร) สถานที่ที่ท่านจะปรากฏตัว (ซุฮูร) และอื่นๆ โดยอาศัยคำพยากรณ์ต่างๆ ของศาสนายูดายและริวายะฮ์ (คำรายงาน) ต่างๆ ของท่านศาสดามุฮัมมัด (ซ็อลฯ) และบรรดาอะฮ์ลุลบัยต์ (อ.) ของท่าน

 

      นอกจากนี้ยังได้คันคว้าในหนังสือต่างๆ ของนักวิชาการศาสนา (อุละมาอ์) ทั้งจากฝ่ายชีอะฮ์และซุนนี ความพยายามของพวกเขาในการค้นคว้าและการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับเรื่องนี้ดำเนินไปอย่างเอาจริงเอาจัง โดยเฉพาะในอิสราเอลมีมหาวิทยาลัย 4 แห่ง ที่ทำการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับความเชื่อตามแนวทางของชีอะฮ์โดยเฉพาะในประเด็นเกี่ยวกับท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.ญ.)

 

      การเตรียมพร้อมของพวกเขาได้ดำเนินไปถึงขั้นที่กองทัพของสหรัฐอเมริกาได้ประกาศอย่างชัดเจนในช่วงเริ่มต้นของการบุกยึดประเทศอิรักว่า เป้าหมายในการยึดครองอิรักของพวกเขาคือการติดตามและการค้นหาตัวท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.ญ.) และในการสอบสวนต่างๆ ที่กระทำกับบรรดานักวิชาการศาสนา (อุละมาอ์) ชาวอิรักที่ถูกจับกุมตัวนับจากช่วงเริ่มต้นที่สหรัฐอเมริกาได้บุกเข้าไปในประเทศนี้นั้น พวกเขาได้ขอให้บรรดานักวิชาการ (อุละมาอ์) เหล่านี้เปิดเผยสถานะของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.ญ.) พร้อมทั้งได้มีการติดสินบนเงินรางวัลต่างๆ มากมาย

 

      พวกเขารับรู้ว่าอิมามมะฮ์ดี (อ.ญ.) จะปรากฏตัว (ซุฮูร) ในประเทศซาอุดิอาระเบียเคียงข้างอาคารกะอ์บะฮ์ในมหานครมักกะฮ์ ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงได้จัดกำลังพลซุ่มยิง (สไนเปอร์) จำนวนมากไว้ในบริเวณโดยรอบของมัสยิดิลฮะรอมและอาคาร "อับร๊อจ อัลบัยต์" (Abraj Al Bait) (1) ตลอด 24 ชั่วโมง และเตรียมพร้อมสำหรับการปรากฏตัว (ซุฮูร) ของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.ญ.) เพื่อว่าทันทีที่พบเห็นท่านพวกเขาจะได้ลอบสังหารท่าน

 

      สามสัญญาณสำคัญ คือ "ซัยยิดคุราซานี" , "ซัยยิดยะมานี" และ "ซุฟยานี" คือส่วนหนึ่งจากประเด็นที่หน่วยข่าวกรองและหน่วยสืบราชการลับเหล่านี้ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งในการศึกษาค้นคว้าและวิจัย ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งจาก "สัญญาณที่จะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน" ในเวลาอันใกล้ก่อนการปรากฏตัว (ซุฮูร) ของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.ญ.)

 

      การปฏิบัติการต่างๆ ทางทหารล่าสุดที่สหรัฐอเมริกาและซาอุดิอาระเบียกำลังทำการปราบปรามชาวชีอะฮ์ในประเทศเยเมนนั้น ก็เกิดขึ้นด้วยการคาดการณ์ที่ว่า "ซัยยิดยะมานี" อยู่ในท่ามกลางประชาชนชาวชีอะฮ์ผู้ยืนหยัดทำการปฏิวัติในประเทศเยเมน การคาดการณ์ดังกล่าวนี้เองจึงนำไปสู่การสังหารหมู่ต่างๆ ที่กำลังเกิดขึ้นในประเทศเยเมน

 

      ความร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดระหว่างมอสสาด ซีไอเอและหน่วยข่าวกรองต่างๆ ของราชวงศ์ซะอูด ในการจับกุมชาวชีอะฮ์และบรรดานักวิชาการ (อุละมาอ์) บางส่วนในซาอุดิอาระเบีย การสอบสวนพวกเขาเพื่อให้ได้เบาะแสเกี่ยวกับสถานที่ซ่อนตัวของอิมามมะฮ์ดี (อ.) ในพื้นที่โดยรอบนครมักกะฮ์และนครมะดีนะฮ์ก็เป็นเครื่องสนับสนุนต่อประเด็นนี้ และบนพื้นฐานการค้นคว้าวิจัยของหน่วยงานมอสสาด พวกเขาเชื่อว่า "ซัยยิดฮะซัน นัศรุลลอฮ์" เลขาธิการฮิซบุลลอฮ์แห่งเลบานอน ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากประเทศเยเมน นั่นก็คือ "ซัยยิดยะมานี" และท่าน “ซัยยิดอะลี คอเมเนอี" ก็เช่นกัน ซึ่งได้ใช้ชีวิตในวัยเด็กอยู่ในเมืองมัชฮัด ก็คือ "ซัยยิดคุราซานี" และบุคคลทั้งสองนี้ (ซัยยิดยะมานีและซัยยิดคุราซานี) คือผู้ที่จะยืนหยัดขึ้นต่อสู้พร้อมด้วยกองทัพของตนในช่วงก่อนการปรากฏตัว (ซุฮูร) ของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.ญ.)

 

(1) อาคาร "อับร๊อจ อัลบัยต์" (Abraj Al Bait) : คือโรงแรมสูง 601 เมตร และเป็นหอคอย (ทาวเวอร์) ที่สูงที่สุดในซาอุดิอาระเบีย ตั้งอยู่ใกล้กับมัสยิดิลฮะรอม ซึ่งถือเป็นอาคารที่ใหญ่ที่สุดในโลก อาคารนี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อทำให้อาคารกะอ์บะฮ์ (บ้านของพระผู้เป็นเจ้า) ถูกบดบังด้วยร่มเงาของอาคารนี้ ผู้ก่อสร้างโรงแรมนี้คือ "บริษัทบินลาดิน อัซซะอูดียะฮ์" (Saudi BIn Ladin Group) (เป็นของครอบครัวของอุซามะฮ์ บินลาดิน อดีตผู้นำอัลกออิดะฮ์) งานด้านสถาปัตยกรรมดำเนินงานโดยบริษัท "Dar Al-Handasah" และงานด้านการออกแบบกระทำโดย "นอร์แมน ฟอสเตอร์" (Sir Norman Foster) ชาวอังกฤษ ผู้สร้างอนุสาวรียที่เป็นรูปทรงเสาโอเบลิสก์ (Obelisk) ในทั่วโลกมากกว่า 200 แห่ง เสาโอเบลิสก์นี้ถูกใช้เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของพวกฟรีเมสันและลัทธิบูชาซาตาน

 

ที่มา : yjc.ir

 

แปลเรียบเรียง : เชคมุฮัมมัดนาอีม ประดับญาติ

กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วย

ความคิดเห็นของผู้ใช้งานทั้งหลาย

ไม่่มีความคิดเห็น
*
*

เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม