เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม

25 บทเรียนและสาส์นจากอาชูรอ

0 ทัศนะต่างๆ 00.0 / 5

 25 บทเรียนและสาส์นจากอาชูรอ
 

๑. การฟื้นฟูซุนนะฮ์ของท่านศาสดา (ศ็อลฯ)
๒. การทำลายความเท็จทั้งหลาย
๓.การฟื้นฟูการกำชับความดีและห้ามปรามความชั่วร้าย
๔. การจำแนกมวลชนระหว่างผู้ศรัทธา (มุอ์มิน) มุสลิม และมุนาฟิกีน
๕. การสร้างพลังในการต่อสู้กับอธรรม
๖. บทเรียนแห่งการต่อสู้กับเหล่าผู้กดขี่ทั้งหลาย
๗. บทเรียนแห่งการอุทิศตนเพื่อศาสนา
๘. การฟื้นฟูแนวทางการเป็นชะฮีด ตามแบบฉบับของท่านศาสดา (ศ็อลฯ)
๙. การยืนหยัดเพื่อสัจธรรมจนถึงวินาทีสุดท้าย
๑๐. การเป็นอาสาสมัครเพื่อปกป้องอิสลาม
๑๑. การไม่เคยยอมแพ้ให้ศัตรู แม้จะมีกำลังน้อยกว่า
๑๒.การผสมผสานวัฒนธรรมด้วยกับความเสียสละ
๑๓. เการแสดงชัยชนะของเลือดที่มีเหนือคมดาบทั้งหลาย
๑๔. ความอดทนกับการถูกล้อมกรอบทางเศรษฐกิจและกองกำลัง
๑๕. การวางแผนการในการต่อสู้
๑๖. การสร้างสตรีให้มีบทบาทสำคัญในการต่อสู้ด้านสังคม เศรษฐกิจ และการเมือง
๑๗. การสร้างความสัมพันธ์ระหว่างความรักกับการต่อสู้
๑๘. การปฏิบัติหน้าที่ของตนอย่างดี
๑๙. การอุทิศตนเพื่ออุดมการณ์ของศาสนา เพราะศาสนาเป็นแก่นของมูลฐานทั้งหลาย
๒๐.การสอนวิธีการในการปกป้องผู้ปกครอง
๒๑.โลกเป็นสถานที่เปลี่ยนแปลงและอันตรายอย่างยิ่ง
๒๒.หนทางในการกลับตัวกลับใจนั้นเปิดตลอดเวลา (เตาบะฮฺ)
๒๓.ความเป็นอิสระชน
๒๔.อย่าเป็นผู้เริ่มต้นสงคราม
๒๕.การปกป้องสิทธิของศาสนา อิสลาม และประชาชน

 

ท่านอิมามโคมัยนี (รฎ.) ได้กล่าวถึงอาชูรอว่า..

 

๑.ทุกๆ แนวทาง ถ้าหากรากฐานของมันไม่ได้ถูกสร้างมาจากพลังแห่งจิตใจของสตรี ไม่สามารถดำรงอยู่ได้
๒.การร้องไห้เพื่อผู้ที่ถูกกดขี่ คือ การกู่ตะโกนต่อหน้าของผู้ที่กดขี่
๓.อิมามฮุเซน (อ.) คือ ผู้ที่ใช้ชีวิตเพื่อการฟื้นฟูอิสลาม
๔. วจนะของท่านอิมามฮุเซน (อ.) คือ วิสัยทัศน์ของโลกปัจจุบัน
๕. ทุกอย่างที่เรามีได้รับอิทธิพลมาจากมุฮัรรอม
๖.เดือนมุฮัรรอมและศอฟัร เป็นเดือนแห่งการปกป้องความศักดิ์สิทธิ์ของอิสลาม
๗.ระหัสยในการดำรงอยู่ของอิสลาม คือ โศกนาฏกรรมแห่งท่านอิมามฮุเซน (อ.)
๘.จงรักษาอาชูรอให้มีชีวิตชีวาอยู่เสมอ เพราะการรักษาอาชูรอ จะช่วยให้ประเทศชาติของท่านรอดพ้นจากภัยอันตราย
๙.เลือดของท่านซัยยิดุชชุฮะดา (อ.) ได้ทำให้เลือดของประชาชาติอิสลามทั้งมวลเดือดพล่าน
๑๐. อิสลามมีวันนี้ได้ เพราะได้ร่วมอุดมการณ์เดียวกันกับท่านอิมามฮุเซน (อ.)

 

ท่านซัยยิด อะลี คาเมเนอี ผู้นำแห่งการปฏิวัติอิสลามได้กล่าวถึงอาชูรอว่า..

 

๑.เป็นความจำเป็นสำหรับมวลมุสลิมทุกคนที่ต้องสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับบทเรียนของอาชูรอ และนำไปปฏิบัติในทุกๆประเด็น

๒. แนวความคิดในการปฏิวัติของเราได้มาจากอาชูรอ
๓. อาชูรอมิใช่เป็นเพียงปรากฏการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้นบนหน้าประวัติศาสตร์เท่านั้น แต่ทว่าเป็นอารธรรมของมนุษยชาติทั้งหลาย
๔. อาชูรอเป็นฉากของชีวิตที่สมบูรณ์ตามแบบฉบับของอิสลามสำหรับมุสลิมคนหนึ่ง
๕. ท่านอิมามฮุเซน (อ.) บุตรของท่านอิมามอะลี (อ.) ได้เสียสละเลือดของท่านเพื่ออิสลาม ด้วยนามมุฮัมมะดีย์
๖. หากประเทศอิหร่านของเราถูกบีบบังคับจากศัตรูรอบด้าน เราจะใช้วิธีการต่อสู้ของอิมามฮุเซน (อ.)

 

บทบาทของท่านหญิงซัยนับแห่งขบวนการอาชูรอ

 

ก. ท่านหญิงซัยนับกับวิลายะฮ์


๑. แนะนำท่านอิมามฮุเซน (อ.) ต่อชาวเมืองกูฟะฮ์พร้อมกับประณามการกระทำของพวกเขาว่าเป็นตราบาป และเป็นความอัปยศอดสูยิ่งนักที่พวกเขาได้สังหารลูกหลานของท่านศาสดา (ศ็อลฯ) แล้วพวกเขาจะชำระล้างความสะอาดได้อย่างไร
๒. เพื่อปกป้องท่านอิมามซัยนุลอาบิดีน (อ.) ท่านหญิงได้กล่าวกับอิบนุซิยาดว่า “หากเจ้าต้องการสังหารเขา เจ้าต้องสังหารเราด้วย”
๓. ให้การดูแลและปกป้องท่านอิมามซัยนุลอาบิดีน (อ.) ตลอดเวลา

 

ข. เป็นผู้ดูแลเด็กกำพร้า


๑. ให้การดูแลในฐานะของบิดา มารดาในเวลาเดียวกัน
๒. ปกป้องสิทธิของเด็กกำพร้าทั้งหลาย
๓. ปลอบประโลมและให้กำลังใจเด็กๆ
ท่านหญิงซัยนับมิได้เป็นเครื่องประดับ และเป็นผู้ช่วยเหลือศาสนาอันทรงเกียรติเพียงอย่างเดียว ทว่า ท่านยังได้ทำหน้าที่เป็นผู้นำกองคาราวานขณะถูกจับเป็นเชลยร่วมกับเด็กกำพร้าทั้งหลายด้วย

 

ค. แบบอย่างแห่งความดีงามทั้งหลาย


๑. การดำรงนมาซซอลาตุลลัยล์อย่างเป็นนิจศิล ท่านอิมามฮุเซน (อ.) กล่าวว่า “โอ้น้องสาวสุดที่รักของพี่ อย่าลืมขอดุอาอ์ให้พี่ในขณะที่เธอนมาซซอลาตุลลัยล์นะ”
๒. เป็นผู้ดำรงการทำอิบาดะฮ์อย่างมากมาย ท่านอิมามซัยนุลอาบิดีน (อ.) กล่าวว่า “อาหญิงของฉันได้ทำนมาซทั้งที่เป็นวาญิบและมุสตะฮับ ตลอดเส้นทางจากเมืองกูฟะฮ์จนถึงเมืองชาม”
๓.การยอมจำนนและพึงพอใจ ท่านหญิงได้กล่าวกับเรือนร่างอันไร้วิญญาณและศรีษะของท่านอิมามฮุเซน (อ.) ว่า “โอ้อัลลอฮ์ โปรดตอบรับการพลี (กุรบาน) นี้จากพวกเราด้วยเถิด”
๔. การเสียสละ ท่านอิมามซัจญาด (อ.) กล่าวว่า “อาหญิงของฉันได้แบ่งอาหารของท่านให้แก่เด็กๆ เสมอในระหว่างที่ถูกจับเป็นเชลยศึก”
๕. ความกล้าหาญชาญชัย ท่านหญิงซัยนับ กล่าวว่า “โอ้เจ้ายะซีด เจ้านั้นเป็นบ่าวที่เลวทรามและสถุนที่สุด ความเลวของเจ้านั้นมหาศาลไม่อาจที่จะหาสิ่งใดเปรียบได้ ข้าเป็นใครและเจ้าเป็นใคร เจ้าลืมไปแล้วหรือว่า ข้าคือบุตรีของฟาฏิมะฮ์ ผู้เป็นบุตรีของท่านศาสดา (ศ็อลฯ)  ผู้ทรงเกียรติ ส่วนเจ้าคือลูกของนางฮินด์ ผู้กินตับสด”
๖. เป็นผู้รักษาความบริสุทธิ์ ขณะที่ท่านเข้าไปในหอประชุมของยะซีด เธอได้เอามือปิดใบหน้าของเธอ เพราะพวกมันได้กระชากผ้าคลุมศรีษะของเธอออก”
๗. ความอดทนและการมีขันติ เธอ คือ สตรีผู้เป็นมารดาของสองชะฮีดภายในหนึ่งวัน สตรีผู้พลีบุตรชายสุดที่รักดั่งแก้วตาดวงใจ สตรีผู้ที่อดกลั้นต่อการสูญเสียคนรักและผู้ใกล้ชิด ๗๒ คนภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งวัน

 

ขอขอบคุณ ที่มา www.al-shia.com

 

กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วย

ความคิดเห็นของผู้ใช้งานทั้งหลาย

ไม่่มีความคิดเห็น
*
*

เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม