เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม

อิทธิพลของอาชูรอที่มีต่อการปฏิวัติและการตื่นตัวในโลกอิสลาม ตอนที่ 5

0 ทัศนะต่างๆ 00.0 / 5

อิทธิพลของอาชูรอที่มีต่อการปฏิวัติและการตื่นตัวในโลกอิสลาม ตอนที่ 5

 

     จิตวิญญาณแห่งการแสวงหาเกียรติยศศักดิ์ศรี และการไม่ยอมอ่อนข้อให้กับการกดขี่และความชั่วร้ายของท่านอิมามฮุเซน (อ.) ด้วยกับคำขวัญที่ว่า “ความต่ำต้อยช่างห่างไกลจากเราเสียนี่กระไร” ได้กลายเป็นสัญลักษณ์

 

     ปัจจุบันในอีกด้านหนึ่งนั้น คำขวัญของชาวชีอะฮ์ในบาห์เรนและในซาอุดิอาระเบียคือ هیهات منا الذلة (ความต่ำต้อยและความอัปยศอดสูช่างห่างไกลจากเราเสียนี่กระไร) และในทางปฏิบัติก็เช่นกันเราจะเห็นได้ว่า แม้จะมีอาชญากรรมและการปราบปรามต่างๆ เกิดขึ้นด้วยวิธีการและรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีของประชาชนชาวบาห์เรน แต่กระนั้นก็ตามพวกเขาก็ไม่ละมือจากข้อเรียกร้องต่างๆ ของตนเอง และยังคงยืนหยัดต่อสู้กับความอธรรมและเผด็จการที่ครอบงำเหนือพวกเขาต่อไป ความพร้อมที่จะเป็นชะฮีด (พลีชีพในหนทางของพระผู้เป็นเจ้า) ของประชาชนในการยืนหยัดต่อสู้ในภูมิภาคนั้น เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งที่ได้รับอิทธิพลและแรงบันดาลใจ มาจากการยืนหยัดต่อสู้ของท่านอิมามฮุเซน (อ.) บรรดาประชาชนผู้ซึ่งแม้จะมีการปราบปราม การเข่นฆ่าสังหาร การจับกุมคุมขังและการทรมานแต่ก็ไม่ยอมละวางจากเป้าหมายต่างๆ ของตนเองและยังคงต่อสู้ต่อไป

 

      และเจตนารมณ์ของพวกเขาคือการจัดตั้งรัฐบาลที่วางพื้นฐานอยู่บนบรรทัดฐานและข้อบัญญัติต่างๆ ของอิสลาม ในช่วงเวลาดังกล่าวนี้จะมีข่าวคราวมากมายเกี่ยวกับการฆ่า การทรมาน การทำร้ายร่างกายและการจับกุมบรรดาผู้ปฏิวัติ หรือแม้แต่บุคคลในครอบครัวของพวกเขาในกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศบาห์เรน ที่ถูกตีแผ่ตามสื่อต่างๆ และอาชญากรรมทั้งหลายที่บรรดาผู้ปกครองที่กดขี่และเผด็จการของประเทศเหล่านี้ได้กระทำกับประชาชนของพวกเขาด้วยกับวิธีการต่างๆ แต่ทว่าไม่เพียงแต่ไฟแห่งการปฏิวัติไม่มอดดับลงแล้ว แต่ด้วยกับเลือดของบรรดาชะฮีดของพวกเขานี่เองที่ทำให้ไฟแห่งการยืนหยัดต่อสู้ของพวกเขาได้ลุกโชติช่วงขึ้นกว่าเดิม ท่านอิมามโคมัยนี (ร.ฮ.) ได้กล่าวในเรื่องนี้ว่า "เลือดของพวกเรานั้นเข้มข้นกว่าเลือดของซัยยิดุชชุฮะดาอ์ (ท่านอิมามฮุเซน (อ.) ผู้เป็นหัวหน้าของบรรดาชะฮีด) กระนั้นหรือ! แล้วทำไมพวกเราจะต้องกลัวต่อการที่จะเสียสละเลือด” สำนักคิดของท่านอิมามฮุเซน (อ.) คือสำนักคิดของการเป็นชะฮีด (การพลีชีพในหนทางของพระผู้เป็นเจ้า) และเลือดของเรานั้นเข้มข้นกว่าเลือดของพระผู้เป็นเจ้ากระนั้นหรือ?!

 

     ในทำนองเดียวกัน การที่การปฏิวัติอิสลามในอิหร่านได้ไปถึงจุดสูงสุดในช่วงเดือนมุหัรรอม ในช่วงการจัดพิธีรำลึกถึงโศกนาฏกรรมแห่งอาชูรอในสถานที่ต่างๆ และในมัสยิดทั้งหลาย เราคาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการยืนหยัดต่อสู้ต่างๆ ในภูมิภาคนี้จะไปถึงขีดสูงสุดในช่วงเดือนมุหัรรอมเช่นเดียวกัน ในช่วงไม่กี่วันมานี้เราได้เห็นการยืนหยัดต่อสู้ของบรรดาชีอะฮ์ในประเทศซาอุดิอาระเบีย ซึ่งเป็นเหตุนำไปสู่การเป็นชะฮีดของบรรดาเยาวชนชาวชีอะฮ์หลายคนของประเทศนี้ ประเด็นที่น่าคิดใคร่ครวญก็คือ ด้วยกับการมาถึงของเดือนมุหัรรอมและการใกล้เข้ามาของวันอาชูรอ กองกำลังรักษาความมั่นคงของซาอุดิอาระเบียได้ตัดสินใจถอนตัวออกจากอาณาเขตที่อยู่อาศัยของของชาวชีอะฮ์ และนี่ไม่ใช่อื่นใดนอกเสียจากความหวาดกลัวต่อการโหมกระพือมากยิ่งขึ้นของไฟแห่งการยืนหยัดต่อสู้นี้ในช่วงเดือนมุหัรรอม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงวันอาชูรอ

 

     ในความเป็นจริงแล้วท่านอิมามฮุเซน (อ.) คือบุคคลแรกที่ปลุกโลกอิสลามให้ตื่นขึ้น ท่านซัยยิดุชชุฮะดาอ์คือสัญลักษณ์ที่ยิ่งใหญ่แห่งความเป็นมนุษย์และคือของขวัญหนึ่งจากพระผู้เป็นเจ้า เพื่อว่าด้วยสื่อของท่านนั้นแผ่นดินจะถูกชำระล้างให้สะอาดบริสุทธิ์ และการช่วยเหลือของท่านคือการดำรงไว้ซึ่งสิทธิต่างๆ ของมวลมนุษยชาติ ประทีปแห่งทางนำของท่านอิมามฮุเซน (อ.) ยังคงทำหน้าที่ชี้นำ (ฮิดายะฮ์) มนุษยชาติอยู่ตลอดเวลา และยังคงพยายามที่จะปลดปล่อยมนุษย์ให้หลุดพ้นออกจากความเผอเรอที่พวกเขากำลังประสบ การรำลึกถึงท่านอิมามฮุเซน (อ.) คือสัญลักษณ์ของการต่อสู้กับการกดขี่ การดูถูกเหยียดหยามและความต่ำต้อย และมันคือสาสน์แห่งเกียรติยศศักดิ์ศรี พรอันประเสริฐและคุณธรรมความดีต่างๆ แห่งความเป็นมนุษย์ และเป็นแบบอย่างสำหรับการปลดปล่อยมนุษย์ออกจากการถูกกดขี่และการปกครองแบบเผด็จการ และจะทำให้รากฐานต่างๆ ของความอธรรมและทรราชต้องสั่นคลอน ขบวนการเคลื่อนไหวต่อสู้ของท่านอิมามฮุเซน (อ.) คือขบวนการเคลื่อนไหวทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่ซึ่งจะช่วยทำให้มวลมนุษย์เกิดการเปลี่ยนแปลงจากด้านใน อันเป็นการเปลี่ยนแปลงซึ่งจะมีผลกระทบและมีอิทธิพลอย่างแน่นอนต่อปัญหาต่างๆ ทางการเมืองและสังคมแห่งยุคสมัย บนพื้นฐานแนวคิดแห่งอาชูรอของท่านอิมามฮุเซน (อ.) สภาพการณ์ที่เป็นอยู่ของสังคมอิสลามในยุคสมัยนั้นมีเพียงหนทางเดียว คือการปฏิวัติจากรากฐานเท่านั้นที่จะสามารถเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองได้ และประชาชาติที่ผูกสัมพันธ์ตนเองเข้ากับขบวนการยืนหยัดต่อสู้และสำนักคิดของท่านอิมามฮุเซน (อ.) เท่านั้น ที่จะมิได้ลิ้มรสชาติของความหายนะ ความต่ำต้อยและความไร้เกียรติศักดิ์ศรี

 

     เจตนารมณ์จากขบวนการเคลื่อนไหวแห่งอาชูรอของท่านอิมามฮุเซน (อ.) มิใช่แค่เพียงการยืนหยัดต่อสู้กับยาซีดและระบอบการปกครองของเขาเพียงเท่านั้น แต่ทว่าโดยพื้นฐานแล้วท่านอิมามฮุเซน (อ.) คือผู้คัดค้านต่อต้านการปกครองและการบริหารบ้านเมืองทั้งมวลที่มีบุคคลที่ไม่คู่ควรและเป็นผู้กดขี่เยี่ยงยะซีดที่ตั้งตัวเองอยู่บนส่วนยอดของมัน และทำหน้าที่บริหารปกครองสังคมอิสลามและบรรดามุสลิมไปตามความอำเภอใจและอารมณ์ฝ่ายต่ำของตัวเอง และด้วยเหตุนี้เองที่ท่านอิมามฮุเซน (อ.) ได้ยืนหยัดขึ้นต่อสู้และกระทำการปฏิวัติ

 

     และบัดนี้บรรดามุสลิมในกลุ่มประเทศอาหรับ ด้วยกับปฏิบัติตามแบบอย่างของการปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่านที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากขบวนการต่อสู้แห่งอาชูรอ และด้วยผลจากการปฏิบัติตามท่านอิมามฮุเซน (อ.) ที่พวกเขาได้ทำให้ขบวนการเคลื่อนไหวตื่นตัวแห่งอิสลามปรากฏขึ้น และจวบจนถึงขณะนี้พวกเขาได้บรรลุผลอันสวยงามและน่าประทับใจมากมายหลายประการ พวกเขาทำให้บรรดายะซีดแห่งยุคสมัยจำนวนมากต้องพบกับความอัปยศ บรรดาฟิรเอาน์แห่งยุคสมัยหลายคนต้องถูกโค่นลงจากอำนาจของพวกเขา ผลลัพธ์ที่ได้รับในประเทศเหล่านี้ได้สร้างความหวาดผวาต่อบรรดาผู้ปกครองที่มีคุณลักษณะคล้ายคลึงกัน และต่อบรรดาระบอบที่ต่อต้านประชาชนที่อยู่ในทั่วทุกมุมโลก และบรรดานักวิเคราะห์ทางการเมืองและบรรดาผู้ปกครองที่ได้เห็นแล้วว่าผลประโยชน์ของพวกเขากำลังตกอยู่ในอันตรายนั้น ต่างอยู่ในสภาพที่มึนงงและสับสน

 

     บรรดาผู้นำและผู้บริหารจัดการขบวนการเคลื่อนไหวตื่นตัวแห่งอิสลาม และบรรดามุสลิมผู้ซึ่งได้ทำให้ขบวนการตื่นตัวในประเทศของพวกเขาบรรลุผล ด้วยกับการแลกด้วยเลือดของพวกเขาและของบรรดาเยาวชนของพวกเขา และได้โค่นล้มระบอบต่างๆ ที่ต่อต้านศาสนาและต่อต้านประชาชนลง พวกเขาจะต้องตระหนักและตื่นตัวอยู่เสมอ พวกเขาจะต้องรักษาและเสริมสร้างความเข้มแข็งในความเป็นเอกภาพแบบอิสลามและความสามัคคีของประชาชนไว้ให้ได้ และจะต้องหลีกเลี่ยงอย่างจริงจังจากทุกประเภทของความแตกแยก การแสวงหาอำนาจและความเห็นแก่ตัวทั้งหลาย และจะต้องไม่เผอเรอต่อแผนการร้ายและการสร้างวิกฤตการณ์ต่างๆ ของบรรดาศัตรูที่ได้รับบาดเจ็บ เพราะหากมิเช่นนั้นแล้วอาจเป็นไปได้ว่า บรรดาทายาทของเหล่าอบูญะฮัลและอบูซุฟยานทั้งหลาย ที่จะใช้ประโยชน์จากจุดอ่อนเหล่านี้ของพวกเขา และตีวงล้อมกลับมายังช่องเขาอุฮุดอีกครั้ง ขอต่อพระผู้เป็นเจ้าโปรดอย่าทรงทำให้เป็นเช่นนั้นเลย ที่ว่าพวกเขาจะทำให้ชัยชนะที่ได้รับมากลับกลายเป็นความพ่ายแพ้และความทุกข์โศก และทำให้จุดจบอันแสนทุกข์ระทมของสงครามอุฮุดต้องซ้ำรอยประวัติศาสตร์อีกครั้งหนึ่ง

 

แปลและเรียบเรียง : เชคมุฮัมมัดนาอีม ประดับญาติ

 

กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วย

ความคิดเห็นของผู้ใช้งานทั้งหลาย

ไม่่มีความคิดเห็น
*
*

เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม