ความเป็นศัตรูของประชาชนเมืองชามต่ออิมามซัจญาด (อ.)

ความเป็นศัตรูของประชาชนเมืองชามต่ออิมามซัจญาด (อ.)

 

หลังจากเหตุการณ์ในวันอาชูรอ ณ แผ่นดินกัรบะลา บรรดาเชลยจากคาราวานของท่านอิมามฮุเซน (อ.) ถูกนำตัวไปยังดินแดนแห่งนี้ ด้วยเหตุนี้เองแรงกดดันและความทุกข์ยากต่างๆ ได้ถาโถมเข้ามาสู่อะฮ์ลุลบัยติ์ (อ.) อย่างหนักหน่วง เมื่อมีผู้ถามท่านอิมามซัจญาด (อ.) ว่า “ในการเดินทางครั้งนี้ สถานที่ใดที่ความทุกข์ยาก (มุซีบะฮ์) นั้นหนักหน่วงที่สุดสำหรับท่าน” ท่านตอบย้ำถึงสามครั้งว่า : الشّام، الشّام، الشّام “แผ่นดินชาม แผ่นดินชาม แผ่นดินชาม” อย่างไรก็ดี ในเมืองต่างๆ ของแผ่นดินชามนั้นก็มีบุคคลที่มีความรักและความผูกพันต่ออะฮ์ลุลบัยติ์ (อ.) ของท่านศาสนทูตของอัลลอฮ์ (ซ็อลฯ) อยู่ด้วย แต่ทว่าจำนวนของพวกเขานั้นมีน้อยมาก

 

      ความทุกข์ยากที่รุนแรงที่สุดที่อิมามซัจญาดและอะฮ์ลุลบัติ์ (อ.) ต้องประสบระหว่างการเป็นเชลย ในริวายะฮ์ (คำรายงาน) บทหนึ่ง ท่านอิมามซัจญาด (อ.) ได้กล่าวกับนุอ์มาน บินมุนซิร มะดาอินีย์ ว่า : ในแผ่นดินชามนั้น มุซีบะฮ์ (ความทุกข์ยาก) เจ็ดอย่างได้เกิดขึ้นกับเรา โดยที่นับตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นของการถูกควบคุมตัวเป็นเชลยจนกระทั่งสิ้นสุดนั้น ไม่มีความทุกข์ยากและความเจ็บปวดใดๆ เหมือนกับมันเลย

 

      บรรดาทหารของยะซีดได้ควบคุมและรายล้อมอยู่รอบตัวพวกเราด้วยกับดาบที่ถอดออกจากฝักและหอกต่างๆ และพวกเขาได้ตีและทิ่มเราด้วยปลายหอก

 

      พวกเขาได้วางศีรษะของบรรดาชะฮีดลงท่ามกลางกลุ่มสตรี และวางศีรษะของบิดาของฉันและท่านอับบาสลุงของฉันลงเบื้องหน้าท่านหญิงซัยนับและอุมมุกุลซูม อาของฉัน และวางศีรษะชองอะลี อักบัร พื่ชายของฉัน และศีรษะของกอซิม บุตรของลุงของฉันลงเบื้องหน้าซะกีนะฮ์และฟาฏิมะฮ์ และบรรดาทหารจะเล่นสนุกกับศีรษะเหล่านั้น บางครั้งศีรษะต่างๆ ก็จะหล่นลงสู่พื้นดินและเข้าไปอยู่ใต้กีบเท้าของอูฐ

 

      บรรดาผู้หญิงชาวเมืองชามได้พากันสาดน้ำและเหวี่ยงไฟมายังพวกเราจากบนดาดฟ้าบ้านของพวกนาง ครั้งหนึ่งไฟได้ตกลงบนผ้าโพกศีรษะ (อะมามะฮ์) ของฉัน เนื่องจากมือทั้งสองข้างของฉันถูกพันธนาการไว้ที่ต้นคอของฉัน ฉันจึงไม่สามารถที่จะดับไฟนั้นได้ ไฟได้ไหม้ผ้าโพกศีรษะและศีรษะของฉัน

 

      จากพระอาทิตย์ขึ้นจนใกล้เวลาพระอาทิตย์ตกดิน พวกเขาได้นำพวกเราตะเวนไปตามตรอกซอยและตลาดต่อหน้าสายตาของประชาชน พร้อมกับตีกองร้องเป่า และป่าวประกาศว่า “โอ้ประชาชนเอ๋ย! จงสังหารบุคคลเหล่านี้ พวกเขาไม่มีเกียรติใดๆ ในอิสลามเลย"

 

      พวกเขาได้ผูกมัดพวกเราด้วยเชือกและนำพาพวกเราเดินผ่านบ้านของชาวยิวและชาวคริสต์ และบอกกับพวกเขาว่า "คนเหล่านี้แหละที่สังหารบรรพบุรุษของพวกท่าน (ในสงครามค็อยบัรและ.... ) และทำลายบ้านเรือนต่างๆ ของพวกเขา วันนี้พวกท่านจงแก้แค้นแทนพวกเขาเถิด” พวกเหล่านั้นก็จะกระทำสิ่งที่พวกเขาต้องการ บ้างก็ขว้างดิน ก้อนหินและไม้ใส่พวกเรา และหญิงชราชาวยิวคนหนึ่งได้ปาก้อนหินไปที่ศีรษะของท่านอิมามฮุเซน (อ.)

 

      พวกเขานำพวกเราไปยังตลาดค้าขายทาส และต้องการที่จะขายพวกเราไปเป็นทาสและทาสี แต่ทว่ากำหนดการของพระผู้เป็นเจ้าได้เป็นอย่างอื่น

 

      พวกเขาให้พวกเราพักอาศัยอยู่ในสถานที่ที่ไม่มีหลังคา ในเวลากลางวันเราต้องเผชิญกับความร้อน และเวลากลางคืนพวกเราต้องเผชิญกับความหนาวเย็น และตลอดเวลาเราต้องอยู่ในสภาพของความวิตกกังวลต่อความหิวกระหายและหวั่นเกรงต่อความตาย

 

      อิมามอะลี ซัยนุลอาบิดีน  (อ.) เป็นอิมามท่านที่สี่แห่งอะฮ์ลุลบัยต์ เป็นบุตรชายของท่านอิมามฮูเซน (อ.) หลานของท่านอิมามอะลี อิบนิ อะบีฏอลิบ (อ.) มารดาของท่านมีนามว่า "ท่านหญิงชะฮ์ริบานู" ฉายานามที่โด่งดังของท่านคือ "ซัยนุลอาบิดีน" หมายถึง เครื่องประดับแห่งบรรดาผู้ภักดี และ "อัซซัจญาด" หมายถึง ผู้ที่ทำการซัจญะดะฮ์(กราบ)ต่อพระผู้เป็นเจ้า อย่างมากมาย

 

     อิมามซัยนุลอาบิดีน (อ.) ประสูติในปีฮิจเราะฮ์ศักราชที่ 38 ท่านใช้ชีวิตในช่วงวัยเด็กของท่านที่ นครมะดีนะฮ์ มุเนาวะเราะฮ์ และท่านอิมาม (อ.) ได้ใช้ชีวิตส่วนใหญ่ของท่านอยู่ในช่วงการปกครองของอิมามอะลี (อ)ประมาณ สองปี

 

     นับเป็นเวลาสิบปีที่ท่านได้เห็นเหตุการณ์ต่างๆ ในยุคการเป็นอิมามของลุงของท่าน คือท่านอิมามฮะซัน อัลมุจญตะบา (อ.) และท่านอิมามอัซซัจญาด (อ.) ได้ใช้ชีวิตในยุคการเป็นอิมามของท่านอิมามฮูเซน (อ.) ผู้เป็นบิดาของท่านเองอีกสิบปี ซึ่งเป็นช่วงเรืองอำนาจของมุอาวิยะฮ์ อิบนิ อะบีซุฟยาน

 

     ในปีฮิจเราะฮ์ศักราชที่ 61 ณ. ผืนแผ่นดินกัรบะลาอ์ ท่านอิมามอัซซัจญาด (อ.) ก็เป็นผู้หนึ่งที่ร่วมอยู่ในเหตุการณ์วันนั้น (เหตุการณ์วันอาชูรอ เดือนมุฮัรรอม) และภายหลังจากการเป็นชะฮีด (เสียชีวิตในหนทางของพระองค์) ของบิดาของท่าน คือ อิมามฮูเซน (อ.) ท่านได้ร่วมเดินทางไปกับบรรดาเชลยศึก จากท้องทุ่งกัรบะลาอ์ ยังเมืองกูฟะฮ์ และเมืองชาม หรือซีเรียในปัจจุบัน

 

    การเดินทางในครั้งนั้นท่านได้ทำหน้าที่เป็นผู้ดูแล และเป็นที่พึ่งพิงของบรรดาเชลย ที่ตกอยู่ในความโศรกเศร้า และความทุกข์ระทม ในการเดินทางครั้งนั้นท่านได้กล่าวคำปราศรัยอย่างดุเดือด เปิดโปงความชั่วร้ายของยะซีด และการปกครองของยะซีดอย่างมากมาย

 

    การใช้ชีวิตอย่างสงบ และเรียบง่ายของท่านอิมาม (อ) ไม่เป็นที่พอใจของราชวงศ์อุมัยยะฮ์ที่โหดเหี้ยม พวกเขารู้สึกว่าท่านอิมาม (อ.) กำลังประสบความสำเร็จในการเผยแพร่สาส์นของอิมามฮุเซน (อ.) วาลิด อิบนฺ อับดุลมาลิก ราชวงศ์แห่งซีเรีย จึงได้ลอบวางยาพิษท่านอิมามซัยนุลอาบิดีน (อ) ในที่สุดท่านได้เสียชีวิตในหนทางของพระองค์ (ชะฮีด)ในวันที่ 25 มุฮัรรอม ปีฮิจเราะฮ์ศักราชที่ 94  บางรายงานบันทึกว่า ในปีฮิจเราะฮ์ศักราชที่ 95 และศพของท่านถูกฝังอยู่ ณ สุสานบะเกียะอ์ ใกล้ๆ กับหลุมฝังศพของท่านอิมามฮะซัน (อ.) ผู้เป็นลุงของท่าน

 

แหล่งอ้างอิง :

 

- กิซเซะฮ์ กัรบะลา, หน้าที่ 481

 

- อุนวานุ้ลกะลาม ฟิชาริกีย์ หน้าที่ 118

 

- ริยาฎุลอะห์ซาน หน้าที่ 108

 

- ตัซกิรอตุชชุฮะดาอ์ หน้าที่ 412

 

บทความโดย :  เชคมุฮัมมัดนาอีม ประดับญาติ