ทำไมเราต้องเดินทางไปกัรบะลาในวันอัรบะอีนด้วย?

ทำไมเราต้องเดินทางไปกัรบะลาในวันอัรบะอีนด้วย?


จะขอตอบอย่างสั้นๆว่า "ก็หัวใจของเราบอกกับเราว่า เรานั้นรักและหลงไหลในอิมามฮุเซน (อ)อย่างไงล่ะ!


ผู้คนจำนวนไม่น้อยกว่า 20 ล้านคนต่างหลั่งไหลไปฮะรัมของท่านอิมามฮุเซน (อ) ณ แผ่นดินกัรบะลา ด้วยความรักอย่างสุดซึ้ง


เทศกาลอัรบะอีน หรือ 40 วันหลังเหตุการณ์อาชูรอ คือ กระบวนการปฏิวัติทางจิตวิญญาณของนักสู้ เพื่อสำแดงพลังให้เห็นว่า "ประชาชนจะยืนเคียงข้างวีรบุรุษผู้กล้าที่ไม่ยอมก้มหัวให้กับทรราช และจอมอหังการทั้งหลาย" เราจึงมีวันอัรบะอีน


แล้ว ฮุเซน ผู้นี้คือใครกันที่ชาวฟ้าและชาวดินต่างหลงไหลและมอบความรักให้กับท่าน ?

 

มีบันทึกไว้ในตำราของพี่น้องอะฮ์ลิซซุนนะฮ์ว่า


1. วันที่อิมามฮุเซน (อ) ถูกสังหารด้วยคำสั่งของยะซีด บุตร มุอาวียะฮ์ คือ วันที่ท้องฟ้าหลั่งน้ำฝนลงมาเป็นสายเลือด คือ วันที่ท้องฟ้าร่ำไห้ต่อการถูกสังหารของท่าน


عَنْ نَضْرَةَ الْأَزْدِيَّةِ قَالَتْ : لَمَّا أَنْ قُتِلَ الْحُسَيْنُ بن علي (عليهما السلام) مَطَرَتِ السَّمَاءُ دَماً فَأَصْبَحْتُ وَ كُلُّ شَيْ‏ءٍ لَنَا مَلْآنُ دَما

 

ความว่า รายงานจาก นัฏเราะฮ์ อัซดียะฮ์ ว่า

"วันที่ฮุเซน บุตรแห่งอะลี ถูกสังหาร ท้องฟ้าได้หลั่งน้ำฝนเป็นเลือด และวันนั้นเราตื่นขึ้นมาในสภาพที่ทุกสิ่งเปียกชุ่มไปด้วยเลือด


อ้างอิง

تهذيب الكمال ، المزي ، ج 6 ،  ص 433

ตะฮ์ซีบุลกะมาล อัลมัซซี เล่ม 6 หน้า 433

سير أعلام النبلاء ، الذهبي ، ج 3 ، ص 312 ، 313

ซิยัร อะลามุนนุบลา อัซซะฮาบี เล่ม 3 หน้า 312-313

الثقات ، ابن حبان ، ج 5 ، ص 487

อัษษิกอต อิบฮับบาน เล่ม 5 หน้า 487

تاريخ مدينة دمشق ، ابن عساكر ، ج 14 ، ص 227 – 228

ตารีคมะดีนะฮ์ ดิมัชก์ อิบนุ อะซากิร เล่ม 14 หน้า 227-228


ซะฮาบี ได้บันทึกไว้ว่า


لم تبك السماء على أحد بعد يحيى عليه السلام إلا على الحسين

 

หลังจากที่นบียะฮ์ยาถูกสังหารแล้ว ท้องฟ้าก็มิเคยหลั่งน้ำตาให้กับผู้ใดอีกเลย เว้นแต่(ที่หลั่งให้อีกครั้งต่อการถูกสังหารของ) ฮุเซน

 

ที่มา

سير أعلام النبلاء للذهبي، ج3، ص312

ซิยัร อะอ์ลามุนนุบะลา อัซซะฮาบี เล่ม 3 หน้า 312

تاريخ مدينة دمشق لإبن عساكر، ج14، ص225

ตารีคมะดีนะฮ์ ดิมัชก์ อิบนุ อะซากิร


2. วันที่อิมามฮุเซน (อ) ถูกสังหาร คือ วันที่ท้องฟ้ามืดดำทมิฬจนใจหายว่า จะถึงคราวันกิยามัตเสียแล้ว

 


حدثنا خلف بن خليفة ، عن أبيه ، قال : لما قتل الحسين اسودت السماء ، وظهرت الكواكب نهارا حتى رأيت الجوزاء عند العصر وسقط التراب الأحمر

 

ความว่า

ในวันที่ฮุเซนถูกสังหาร 'ท้องฟ้ามืดครึ้มสีดำ' จนเผยให้เห็นดวงดาวในช่วงบ่ายของวันนั้น

 

ที่มา

تهذيب الكمال ، المزي ، ج 6 ، ص 431 – 432

ตะฮ์ซีบุลกะมาล อัลมัซซี เล่ม 6 หน้า 431-432

تهذيب التهذيب ، ابن حجر ، ج 2 ، ص 305

ตะฮ์ซีบุตตะฮ์ซีบ อิบนุฮะญัร เล่ม 2 หน้า 305

تاريخ مدينة دمشق ، ابن عساكر ، ج 14 ، ص 226

ตารีคมะดีนะฮ์ดิมัชก์ อิบนุอะซากิร เล่ม 14 หน้า 226


3. ในวันที่อิมามฮุเซน (อ) ถูกสังหาร เลือดสดๆได้พุ่งขึ้นมาจากก้อนหินที่อยู่ใต้พื้นดิน

 


وقال  يعقوب بن سفيان ثنا سليمان ابن حرب ثنا حماد بن زيد عن معمر قال َ أَوَّلُ مَا عُرِفَ الزُّهْرِيُّ تَكَلَّمَ فِي مَجْلِسِ الْوَلِيدِ بْنِ عَبْدِ الْمَلِكِ فَقَالَ الْوَلِيدُ أَيُّكُمْ يَعْلَمُ مَا فَعَلَتْ أَحْجَارُ بَيْتِ الْمَقْدِسِ يَوْمَ قُتِلَ الْحُسَيْنُ بْنُ عَلِيٍّ فَقَالَ الزُّهْرِيُّ بَلَغَنِي أَنَّهُ لَمْ يُقْلَبْ حجرا إِلَّا وَ تَحْتَهُ دَمٌ عَبِيط

 

วะลิด บิน อับดุลมาลิก ได้ถาม ซุฮ์รี ว่า เกิดอะไรขึ้นกับก้อนหินในบัยตุลมักดิษ ในวันที่อุเซน บิตรแห่งอะลี ถูกสังหาร ซุฮ์รี ได้ตอบว่า มีผู้คนได้แจ้งข่าวว่า หินทุกก้อนที่ถูกหยิบขึ้นจากพื้นดิน ใต้หินเหล่านั้นจะมีเลือดสดๆไหล่พุ่งออกมาในวันที่ฮุเซน บุตรแห่งอะลี ถูกสังหาร


ที่มา

 

تهذيب التهذيب ، ابن حجر ، ج 2 ، ص 305

ตะฮ์ซีบุตตะฮ์ซีบ อิบนุฮะญัร เล่ม 2 หน้า 305

تهذيب الكمال ، المزي ، ج 6 ، ص 434

ตะฮ์ซีบุลกะมาล อัลมัซซี เล่ม 6 หน้า 434

سير أعلام النبلاء ، الذهبي ، ج 3 ، ص 314

ซิยัลอะอ์ลามุลนุบาลา อัซซะฮาบี เล่ม 3 หน้า 314

تاريخ الإسلام ، الذهبي ، ج 5 ، ص 16

ตารีคอัลอิสลาม อัซซะฮาบี เล่ม 5 หน้า 16

تاريخ مدينة دمشق ، ابن عساكر ، ج 14 ، ص 229

ตารีคมะดีนะฮ์ดิมัชก์ อิบนุอะซากิร เล่ม 14 หน้า 229

 

นี้คือ บางสัญลักษณ์ที่เกิดขึ้นในวันที่อิมามฮุเซน (อ) ถูกทำชะฮีด ณ แผ่นดินกัรบะลา เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงให้เห็นว่า "ทั้งหมู่มวลมลาอิกะฮ์ ทั้งท้องฟ้า และแผ่นดินต่างเสียใจ และร่ำไห้เป็นสายเลือดต่อการจากไปของบุรุษนามว่า "ฮุเซน"


เมื่อชาวฟ้าต่างเสียใจและแสดงออกเช่นนี้ แล้วเราชาวดินละ จะไม่แสดงความเสียใจบ้างดอกหรือ ?


มีริวายะฮ์บันทึกไว้ว่า ในวันที่อิมามฮุเซน (อ) ถูกทำชะฮีด หมู่มวลมลาอิกะฮ์ 3000 องค์ได้ลงมายังแผ่นดินกัรบะลา และไม่ขึ้นกลับไปยังเบื้องบนอีกเลยตราบถึงวันนี้ และพวกเขาจะขอดุอาอ์ และอิซติฆฟารให้แก่ผู้คน มุฮิบบีนอะฮ์ลุลบัยต์ ที่ได้ไปซิยาเราะห์อิมามฮุเซน ณ แผ่นดินกัรบาลา

จากสิ่งที่ปราชญ์ชาวซุนนีได้บันทึกไว้ถึงความยิ่งใหญ่ของการท่านอิมามฮุเซน (อ) ดังที่นำเสนอไปข้างต้น สิ่งนี้จะสร้างความเพียงพอแก่มุสลิมทั้งหลายว่า ณ วันนี้พวกเขาควรจะยึดมั่นตามใคร จะแสดงความรักต่อใคร และต้องแสดงความเกลียดชังต่อผู้ใด ก็น่าแปลกที่ยังคงมีมุสลิมบางกลุ่มที่ถูกเรียกว่า "กลุ่มวะฮ์ฮาบี" ได้ตั้งคำถามว่า "ใครใช้ให้ไปซิยาเราะห์อิมามฮุเซน ในวันอัรบะอีน"

จะขอตอบอย่างสั้นๆว่า "ก็หัวใจบอก หัวใจบอกเราว่า ให้เราไปหารักแท้ อันเป็นรักที่จะนำเราไปสู่ความเมตตาของอัลลอฮ์ ฉะนั้นพวกเจ้าไม่สามารถยับยั้งหัวใจที่มีความรักไม่ให้ไปหาคนรักได้หรอก โอ้วะฮ์ฮาบีเอ๋ย พูดไปพวกเจ้าจะเข้าใจอะไรได้ ในเมื่อหัวใจของพวกเจ้ายังคงปกป้องพวกยะซีดอยู่อีก


และหากชาววะฮ์ฮาบีทั้งหลายยังไม่รู้จักอิมามฮุเซน (อ) และอะฮ์ลุลบัยต์ดีพอ ก็อยากจะขอฝากฮะดีษบทนี้ทิ้งท้ายไว้เพื่อให้พวกท่านได้พินิจพิเคราะห์ เผื่อว่าสักวันพวกท่านจะทราบถึงสัจธรรม


عن جَابِرٍ الْأَنْصَارِیِّ قَالَ: سَمِعْتُ رَسُولَ اللَّهِ (ص) یَقُولُ: إِنَّ اللَّهَ عَزَّ وَ جَلَّ خَلَقَنِی وَ خَلَقَ عَلِیّاً وَ فَاطِمَةَ وَ الْحَسَنَ وَ الْحُسَیْنَ مِنْ نُورٍ وَاحِدٍ فَعَصَرَ ذَلِکَ النُّورَ عَصْرَةً فَخَرَجَ مِنْهُ شِیعَتُنَا فَسَبَّحْنَا فَسَبَّحُوا وَ قَدَّسْنَا فَقَدَّسُوا وَ هَلَّلْنَا فَهَلَّلُوا وَ مَجَّدْنَا فَمَجَّدُوا وَ وَحَّدْنَا فَوَحَّدُوا، ثُمَّ خَلَقَ اللَّهُ السَّمَاوَاتِ وَ الْأَرْضَ، وَ خَلَقَ الْمَلَائِکَة


ท่านญาบิร บิน อับดุลลอฮ์ อันซอรีย์(สาวกอาวุโสของท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลฯ) กล่าวว่า ฉันได้ยินท่านศาสนทูตแห่งอัลลอฮ์ กล่าวว่า "แท้จริงอัลลอฮ์ (ซบ.) ทรงสร้างฉัน อะลี ฟาฏิมะฮ์ ฮะซัน และ ฮุซัยน์ และอะอิมมะฮ์ท่านอื่นมาจากประกายรัศมีเดียวกัน หลังจากนั้นทรงสร้างประกายรัศมีผู้เชื่อฟังปฏิบัติตามเรา และ ...หลังจากนั้นทรงสร้างท้องฟ้าทั้งหลาย แผ่นดิน และมวลมลาอิกะฮ์"

 

(บิฮารุลอันวาร, เล่ม 26, หน้า 343, 344)

 

ฉะนั้นมนุษย์จะมีสองกลุ่ม คือ

 

กลุ่มที่เป็นที่รักของอัลลอฮ์ อันได้แก่กลุ่มคนที่รักและเชื่อฟังต่อบุคคลที่เป็นที่รักของอัลลอฮ์

 

และกลุ่มซาตาน มารร้าย ก็คือ กลุ่มที่คอยเป็นปรปักษ์ต่ออัลลอฮ์ อันได้แก่ กลุ่มบุคคลที่สนับสนุนคนที่สังหารกลุ่มบุคคลอันเป็นที่รักของอัลลอฮ์ และคอยต่อต้านการแสดงความรักต่อคนที่คู่ควรต่อการมอบความรัก

 

ขอขอบคุณ เอกภาพ ชัยศิริ