มัจญลิสอิมามฮูเซน (อ.)ปรมัตถ์แห่งการพลี สดุดีอาชูรอ(7)

 

สะอีย์  คือ แบบฉบับของท่านหญิงฮาญัร

 

การสะอีย์ของท่านหญิงฮะญัร คือ ภาพสะท้อนอันชัดแจ้งของอิสลาม เพื่อชี้ว่า เราไม่อาจสัมผัสกับอิสลามที่แท้จริงได้ หากเราไม่ได้ทำความเข้าใจหรือทบทวนอย่างใคร่ครวญลึกซึ้งในเแบบอย่าง ที่เป็นครรลอง ที่เป็นแบบฉบับของท่านหญิงฮาญัร

 

ดังนั้น ผู้ใดที่ไม่ทำสะอีย์ ฮัจย์ของเขา ถือเป็นโมฆะ ฉะนั้น พึงเรียนรู้จิตวิญญาณ การเสียสละของผู้หญิงคนหนึ่ง ที่การวิ่งระหว่างซอฟา - มัรวะฮ์ และความเสียสละของนาง ด้วยการยอมที่จะถูกทิ้งไว้ เมื่อสามีบอกว่าอัลลอฮ(ซบ) ประสงค์ให้ทิ้งเจ้าไว้ที่นี่


ซูเราะฮ์ อิบรอฮีม โองการที่ 37


رَّبَّنَا إِنِّي أَسْكَنتُ مِن ذُرِّيَّتِي بِوَادٍ غَيْرِ ذِي زَرْعٍ عِندَ بَيْتِكَ الْمُحَرَّمِ رَبَّنَا لِيُقِيمُوا الصَّلَاةَ فَاجْعَلْ أَفْئِدَةً مِّنَ النَّاسِ تَهْوِي إِلَيْهِمْ وَارْزُقْهُم مِّنَ الثَّمَرَاتِ لَعَلَّهُمْ يَشْكُرُونَ

 

“โอ้พระเจ้าของเรา แท้จริงข้าพระองค์ได้ให้ลูกหลานของข้าพระองค์ พำนักอยู่ ณ ที่ราบลุ่มนี้โดยไม่มีพืชผลใดๆ ซึ่งอยู่ใกล้บ้านอันเป็นเขตหวงห้ามของพระองค์ โอ้พระเจ้าของเรา เพื่อให้พวกเขาดำรงการละหมาด ขอพระองค์ทรงให้จิตใจจากปวงมนุษย์ มุ่งไปยังพวกเขา และทรงประทานปัจจัยยังชีพที่เป็นพืชผลแก่พวกเขาหวังว่าพวกเขาจะขอบคุณ”

 

สาระศึกษา : ขณะที่ถูกนบีอิบรอฮีม(อ) เอาท่านหญิงฮาญัรไปวางไว้ในแผ่นดินเวิ้งว้าง ที่เต็มไปหุบเขาทะเลทราย แผ่นดินที่มีแต่ความแห้งแล้ง และแสนเปล่าเปลี่ยวไร้ผู้คนและเพื่อนบ้าน

 

และจากประโยค.....


بِوَادٍ غَيْرِ ذِي زَرْعٍ
(

บิวาดิน ฆัยริ ซี ซัรอิน

 

เป็นแผ่นดินที่ไม่มีความชื่นฉ่ำใดๆ ไม่มีแม้แต่น้ำให้กิน ไร้แหล่งเพาะปลูกพืชผัก ไร้ต้นไม้หรือร่มเงาของต้นไม้สักต้นให้พักพิงหรือหลบแดดซึ่งมีแต่โขดหินที่ร้อนผ่าวนั้น กลับพบว่า นางกลับไม่แสดงอาการสะทกสะท้านหรือหวาดกลัวภัยอันตรายที่จะเกิดกับนาง

 

นี่คือ หลักสูตรการตออัตที่ยิ่งใหญ่อันหนึ่งที่อัลลอฮฺทรงออกแบบมาเพื่อทดสอบ เพื่อชี้ว่า การตออัตต่ออัลลอฮ การตออัตต่อสามีนั้นยิ่งใหญ่ขนาดไหน

 

ดังนั้น บรรดาสตรีที่ไม่ตออัตต่อสามีนั้น พึงระวังให้มากๆ ด้วยการนำบทเรียนการตออัตของท่านหญิงฮะญัร มาทำการวิเคราะห์ ถอดรหัส ทำความเข้าใจให้มีการเปลี่ยนแปลงตนเองให้ได้อย่างสมบูรณ์

 

ตัวอย่าง การตออัตของท่านหญิงฮาญัรต่ออัลลอฮ์(ซบ)

 

เราพบว่าท่านหญิงฮาญัร ไม่มีปัจจัยยังชีพแม้แต่อย่างเดียว อีกทั้งนางต้องรับมือกับความเดียวดาย และความเงียบของท้องทุ่งในทะเลทรายที่เวิ้งว้างนั้น ครั้นเมื่อลูกหิวน้ำ ลูกจะกินน้ำที่ไหน ลูกยังไม่มีน้ำกิน ลูกยังอ่อน เนื่องจากนางคลอดลูกเพียงไม่กี่วัน ก็ถูกนำมาทิ้ง ซึ่งห่างจากบ้านเกิดเมืองนอนเป็นพันๆกิโล (จาก"คะนาอัน" ถึงมักกะฮ์ 1400 กิโลเมตร เดินทางประมาณ 80 ถึง 100 วัน)

 

จากบริบทข้างต้น ลองจินตนาการสภาวะในมักกะห์ในอดีตราว 4000 - 6000 ปีดูก็แล้วกันว่าในยุคที่ภูเขายังไม่ได้รับการพัฒนาประมาณ 6000 พันปีที่แล้ว กลับมีสตรีนางหนึ่งยอมรับความยากลำบาก พร้อมที่จะอยู่เดียวดายตรงนั้นกับลูกน้อย แม้นไม่มีน้ำกินก็จะอยู่โดยดุษฎี เพื่อให้เป็นไปตามพระประสงค์ของอัลลอฮ (ซบ)

 

แน่แท้ อัลลอฮ(ซบ) ทรงประทานรางวัลให้นางอย่างมากมาย แต่รางวัลหนึ่งที่ยิ่งใหญ่ ที่ยังคงเหลือให้มนุษยชาติ จนถึงวันนี้ ก็คือ “น้ำซัมซัม”

 

มรรคผลจากการตออัตต่อเอกองค์อัลลอฮ(ซบ)

 

อัลลอฮ์(ซบ) ทรงประทาน“น้ำซัมซัม” เป็นของขวัญให้กับท่านหญิงฮาญัร ที่เกิดจากการตออัตต่อพระองค์ และจนถึงวันนี้ ด้วยบารอกัตของ“น้ำซัมซัม” ด้วยการรางวัลนี้ จึงเป็นน้ำที่มนุษย์ทั้งโลกใฝ่หาที่จะดื่มกิน

หากจะกล่าวโดยสรุป หมายความว่า ท่านหญิงฮาญัร คือ เจ้าของบ่อน้ำซัมซัม และ “น้ำซัมซัม คือ รางวัลแห่งความอดทนของท่านหญิงฮาญัรนั่นเอง

แน่นอน กว่าจะผ่านบดทดสอบนี้ นางต้องมีความอดทนอย่างล้นเหลือ ที่ยอม ให้ทิ้งในหุบเขาที่แห้งแล้งทุรกันดาร ไม่มีแม้แต่น้ำ ทว่า เมื่อนางยอมรับคำสั่งอย่างเต็มใจ บริสุทธิ์ใจ เพียงเพื่อตออัตอัลลอฮ(ซบ)ตออัตต่อสามี นับเป็นเวลาแรมปี จนสถานการณ์ต่างๆดีขึ้น อัลลอฮ(ซบ) จึงเริ่มตอบรับด้วยน้ำซัมซัมให้กับนาง

นี่คือ สิ่งที่ท่านหญิงฮาญัรได้รับเกียรติจากอัลลอฮ(ซบ) ถึงขนาดที่เป็นใบเบิกทางนำไปสู่ความเจริญต่างๆ

 

ดังนั้น การที่อัลลอฮ(ซบ)มาบอก فِي إِبْرَاهِيمَ أُسْوَةٌ حَسَنَةٌ  (ฟีอิบรอฮีมอุสวาตุลฮาซานะฮ์) เพื่อชี้ว่า ที่เป็นแบบฉบับจริง ต้องดูแบบอย่างการพลีของอิสมาอีล ลูกในอิสลาม และภรรยาในอิสลามต้องเป็นแบบนี้

 

แบบอย่างการพลีของนบีอิสมาอีล(อ)

 

ซูเราะฮฺอัศศอฟฟาต โองการที่ 102 อัลลอฮ์ตรัสว่า

 

فَلَمَّا بَلَغَ مَعَهُ السَّعْيَ قَالَ يَا بُنَيَّ إِنِّي أَرَى فِي الْمَنَامِ أَنِّي أَذْبَحُكَ فَانظُرْ مَاذَا تَرَى قَالَ يَا أَبَتِ افْعَلْ مَا تُؤْمَرُ سَتَجِدُنِي إِن شَاء اللَّهُ مِنَ الصَّابِرِينَ

 

“ ครั้นเมื่อเขา(อิสมาอีล)เติบโตขึ้น ไปไหนมาไหนกับเขา(อิบรอฮีม)ได้แล้ว อิบรอฮีมได้กล่าวขึ้นว่า โอ้ลูกเอ๋ย แท้จริงพ่อได้เห็นในขณะฝันว่าพ่อได้เชือดเจ้า จงคิดดูซิว่าเจ้าจะเห็นเป็นอย่างไร เขากล่าวว่า โอ้พ่อจ๋า พ่อจงปฏิบัติตามที่พ่อได้ถูกบัญชามาเถิด หากอัลลอฮฺทรงประสงค์ พ่อจะเห็นฉันว่า ฉันอยู่ในหมู่ผู้มีความอดทน”

 

คำอธิบาย : ในขณะที่นบีอิสมาอีล(อ) ยังเป็นเด็กน้อย “يَا بُنَيَّ إِنِّي أَرَى فِي الْمَنَامِ أَنِّي أَذْبَحُكَ”  (ยาบุนัยยะ อินนี อะรอ ฟีล มะนะมิ อันนี อัซบะฮุกะ)

 

ท่านนบีอิบรอฮีม(อ) ได้กล่าวว่า โอ้ลูกเอ๋ย พ่อได้เห็นในฝัน มันคือ คำสั่งว่าพ่อจะต้องเชือดเจ้า เพื่อพลี เพื่อพิสูจน์รักต่ออัลลอฮฺ(ซบ) จงคิดดูเจ้าจะเห็นเป็นเช่นไร ในที่พระองค์ประสงค์ ให้พ่อพิสูจน์รัก ด้วยการเชือดเจ้าเป็นพลี

 

เมื่อลูกได้ยิน จึงตอบว่า “يَا أَبَتِ افْعَلْ مَا تُؤْمَرُ” (ยาอับบะติฟ อัลมา ตุมัร ) โอ้พ่อจ๋า จงปฏิบัติตามที่พ่อได้รับคำสั่งมาเถิด พร้อมกล่าวอีกประโยคว่า

سَتَجِدُنِي إِن شَاء اللَّهُ مِنَ الصَّابِرِينَ” (สะตะญิดุนี อินชาอัลลอฮู มินัศศอบิรีน)และพ่อก็จะพบว่า ฉันนั้นเป็นผู้ที่ศอบัร ฉันนั้นเป็นผู้อดทนอย่างแน่นอน

 

บทสรุป ครั้นเมื่อทั้งสอง(พ่อและลูก)ได้ยอมมอบตนแด่อัลลอฮ(ซบ) เป็นที่ประจักษ์แล้วว่า ในใจของนบีอิบรอฮีม(อ)ไม่มีสิ่งใดเหนือกว่าพระองค์ เอาลูกมาฆ่าเพื่ออัลลอฮฺนั้นเชือดให้ มีใครที่ไหนในประชาคมโลกเหมือนท่านนบีอิบรอฮีม(อ) พร้อมที่จะถวายทุกสิ่งทุกอย่างให้แก่พระองค์แม้กระทั่งลูก

 

เห็นได้ว่าการทดสอบของท่านนบีอิบรอฮีม (อ) คือ การทดสอบที่แท้จริงอย่างแน่นอน เป็นการทดสอบให้สามี ภรรยาและลูกได้แสดงอีหม่าน ดังกล่าวนี้ อัลลอฮ์(ซบ) จึงทรงพึงพอใจในคำพูดและการกระทำ ของสามพ่อลูกนี้มาก (ท่านนบีอิบรอฮีม ท่านหญิงฮาญัร ท่านนบีอิสมาอีล) และเรื่องราวของท่านที่แสดงในวันนั้น จึงได้ถูกบันทึก ให้เป็นต้นแบบของมุสลิม เป็นต้นแบบของอุมมัตของท่านนบีมุฮัมมัด(ศ็อลฯ)ตลอดกาล

 

ถึงแม้ว่าเราอยู่ในอุมมัตของท่านนบีมูฮัมมัด(ศ็อลฯ) ก็ตาม ทว่าอิบาดัตที่อัลลอฮ์(ซบ) ทรงเลือก คือ อิบาดัตที่อิบรอฮีมเคยปฏิบัติ ดังนั้น รางวัลความยิ่งใหญ่ของผู้ที่ยอมรับความลำบาก ความทุกข์โศก ที่อัลลอฮ(ซบ)ทรงมอบให้กับเขา ในที่นี้ หมายถึง เรื่องราวของนบีอิบรอฮีม(อ)จะเป็นที่ถูกกล่าวขาน เมื่อมีการเสียสละการต่อสู้ การอดทนคราใดเกิดขึ้น ประชาชาติทั้งหมดจะกล่าวขานถึงเขาชั่วกัลปาวสาน

 

คำถาม : ขบวนการต่อสู้ในลักษณะนี้ยังมีอีกหรือไม่ ?


คำตอบ : แบบฉบับของท่านนบีอิบรอฮีม(อ)เป็นแบบฉบับเบื้องต้นที่ถูกนำเสนอเพียงเท่านั้น ทว่ายังมีแบบฉบับที่ยิ่งใหญ่กว่านี้ ที่ตามมาด้วยแบบฉบับการต่อสู้ที่สมบูรณ์ทั้งระบบ

 

และผู้ที่ปูทางการต่อสู้นี้ ให้เกิดขบวนการการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่กว่าแบบฉบับของนบีอิบรอฮีม(อ) คือ ท่านนบีมูฮัมหมัด(ศ็อลฯ)

ด้วยกับเหตุการณ์กัรบาลาอ์ถูกบอก ถูกร้อยเรียงโดยท่านนบีมูฮัมมัด(ศ็อลฯ)

 ท่านนบีมูฮัมมัด(ศ็อลฯ)คือ ผู้ที่เตรียมการพลีอันยิ่งใหญ่

 ท่านนบีมูฮัมมัด(ศ็อลฯ) คือ ผู้ที่เตรียมการให้เกิดฮัจย์แห่งกัรบาลาอฺ์ (เป็นโวหาร)

 

คำอธิบาย : ฮัจย์แห่งกัรบาลาอฺได้ถูกเตรียมการ โดยลูกหลานของอิบรอฮีมได้สำแดงแบบอันยิ่งใหญ่ บางคนอาจมีข้อสงสัย เหตุใดอัลลอฮฺไม่ให้นบีอิสมาอีล(อ) และท่านหญิงฮาญัร อดน้ำ ทำไมพระองค์ให้มีน้ำซัมซัม

 

คำตอบ เพราะเหตุการณ์ตรงนั้น คือ ต้นแบบแห่งการเริ่มต้นของการพลี ให้เห็นว่าพร้อม ตรงนี้ขออธิบายเสริมสักเล็กน้อย เป้าหมายเพื่อจะมีอีกแบบฉบับหนึ่งที่จำเป็นต้องเกิดขึ้น ให้เป็นบทเรียนอีกบทหนึ่งให้กับมนุษย์ ว่า มันไม่มีน้ำซัมซัมที่กัรบาลาอ์

 

คำถามต่อมา ทำไมอัลลอฮ(ซบ)ไม่ต้องการให้นบีอิบรอฮีม(อ)พิสูจน์ความรัก ด้วยการเชือดนบีอิสมาอีล(อ) ซึ่งศึกษาได้จาก เมื่อนบีอิสมาอีล(อ) ในขณะถูกเชือด อัลลอฮ(ซบ)กลับทำให้มีดนั้น ไม่สามารถเชือดเฉือนคอหอยของอิสมาอีล

 

คำตอบ : เพราะอัลลอฮ์ยอมรับการเชือดนี้ และยอมรับในความภักดีของท่านนบีอิบรอฮีม(อ)แล้ว

 

ดังนั้น เมื่อพระองค์พึงพอใจในนบีอิบรอฮีม(อ)แล้ว จึงยังไม่จำเป็นที่จะต้องเชือดจริง ทว่าพระองค์ทรงถ่ายถอนการเชือดที่ยิ่งใหญ่ที่จะเกิดขึ้น ที่เป็นการเชือดที่จะต้องเกิดขึ้นจริง ด้วยกับคมมีดที่จะต้องเชือดเฉือน ไปยังลูกหลานของท่านนบีอิบรอฮีม(อ)ในภายภาคหน้า ให้เป็นผู้รับแทนการเชือดเฉือนอันนี้นั่นเอง

 

สาระศึกษา : ในเบื้องต้นท่านหญิงฮาญัรตอบรับเสียงเรียกของอัลลอฮฺ ท่านยอมรับความทุกข์ยากลำบาก ซึ่งไม่ได้นานนัก เพียงท่านนบีอิบรอฮีม(อ)จากไปได้สักระยะเวลาหนึ่ง ท่านนบีอิสมาอีลก็ร้องไห้ขอน้ำ

 

และการวิ่งไประหว่างซอฟาและมัรวะฮ์ 7 รอบ ด้วยความอดทน โดยนางไม่บ่น ไม่เสียใจ และไม่คิดว่า มันคือความผิดที่รับคำสั่งนี้มา กลับกันนางยังเชื่อมั่นว่า ณ สถานที่ที่พระองค์สั่งให้นบีอิบรอฮีม (อ) กระทำต่อนางนั้นคือ สิ่งที่ดีที่สุด

 

และด้วยความตออัตนี้ อัลลอฮ์(ซบ) จึงทรงประทานน้ำซัมซัมให้และเทิดท่านหญิงฮาญัร ให้เป็นหนึ่งในสตรีแห่งสากลจักรวาล และเมื่อท่านหญิงฮาญัรได้รับตำแหน่งสตรีในสากลจักรวาลด้วยวีรกรรมอันนี้

 

เช่นนี้แล้วท่านหญิงซัยหนับ(อ)เล่า วีรกรรมของวีรสตรีแห่งกัรบาลาอฺ ผู้ที่ร่วมขบวนการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่อันนี้กับพี่ชาย ทั้งหมดนั้น ถามว่าความเจ็บปวด ความเหน็ดเหนื่อย ระหว่างท่านหญิงฮาญัรกับท่านหญิงซัยหนับ(อ)ใครกันที่มากกว่า.....

 

‎السلام عليك يا ابا عبد الله
‎اللهم صل علی محمد وآل محمد جل فرجهم

 

บรรยายโดย ฮุจญตุลอิสลาม ซัยยิดสุไลมาน ฮูซัยนี

เรียบเรียงโดย Wanyamilah S


โปรดติดตามตอนต่อไป

มัจญลิสอิมามฮูเซน (อ.)ปรมัตถ์แห่งการพลี สดุดีอาชูรอ(6)