ศาสนากับโลก (ตอนที่ 15) ผลแห่งการแบ่งแยกในเรื่องจริยธรรม

 

คนเหล่านี้ จึงเป็นบุคคลพิเศษ ในขณะที่คนอื่นๆ ผู้สร้างชาติต่างๆ ของมนุษย์ก็เหมือนกับลูกๆ ของครอบครัว บรรดาลูกที่ขาดสิ่งที่คนอื่นได้รับก็จะตกอยู่ภายใต้ความกดดันและทุกข์ทรมานในจิตใจ และกลายเป็นคนคิดร้าย พยาบาทในขณะที่จิตใจของผู้ที่ถูกตามใจบางคนในหมู่พวกเขากลายเป็นเด็กที่เสียคน เห็นแก่ตัว ไม่แยแส เฉี่อยชา สุรุ่ยสุร่ายและฟุ่มเฟือย ความมุ่งร้าย อิจฉาริษยา เจตนาร้าย พยาบาท ความเป็นศัตรู และความเกลียดชังได้เพิ่มโตขึ้นในกลุ่มหนึ่งในขณะที่กลุ่มอื่นๆ ไม่แยแสต่อการฟุ่มเฟือยและสุรุ่ยสุร่าย ดังนั้น เราจึงแลเห็นสภาพทั่วไปในฐานะอันเป็นผลที่เกิดจากความอยุติธรรมที่ปรากฎอยู่ในหมู่ผู้คนได้อย่างง่ายดาย

 

มีการขอ (ดุอา) ที่สำคัญของท่านศาสดาซึ่งเริ่มต้นด้วยประโยคนี้ :

 

“โอ้ พระผู้เป็นเจ้า ขอทรงมอบความกลัวพระองค์ซึ่งจะเข้าไปขัดขวางระหว่างเราและผู้ไม่ศรัทธาต่อพระองค์ให้แก่เราด้วยเถิด ”

 

การขอพรของอิสลาม เป็นสิ่งที่ดีที่สุดในบรรดาคำสอนด้วยจริยธรรมและด้านจิตใจ จิตใจอันยิ่งใหญ่และละเอียดอ่อนคิดถึงส่วนรวม ได้ระบายอะไรออกมาหรือในภาษาของการขอพร ? ในการขอพรนี้ เราได้พบประโยคที่ว่า : “และขอทรงนำเอาการแก้แค้นของเราไปสู่บรรดาผู้ที่อยุติธรรมต่อเรา ” วลีนี้มีจุดที่ละเอียดอ่อนที่ต้องอธิบาย ท่านศาสดาผู้บริสุทธิ์ไม่ได้ขอจากพระผู้เป็นเจ้าให้ได้แก้แค้นผู้กดขี่ของพวกเขา ท่านขอพระผู้เป็นเจ้าให้นำเอาความปรารถนาแก้แค้นของเราไปให้แก่ผู้ซึ่งจริงๆ แล้วได้กดขี่พวกเราต่างหาก

 

คำว่า แก้แค้น(ศาร)หรือ(คาอาร) ในที่นี้ หมายความว่า ความปรารถนาที่จะแก้แค้น ความรู้สึกแห่งการแก้แค้น ท่านศาสดาผู้บริสุทธิ์กล่าวว่า ผลอันเกิดจากการที่ตกเป็นเหยื่อแห่งความอยุติธรรม ก็คือ จิตใจของเราจะได้รับความกดดัน ทรมานและปรารถนาจะแก้แค้น เมื่อไรก็ตามที่จิตใจของเราเข้าไปสู่ภาวะเช่นนี้ และเมื่อไรก็ตามที่มันกิดขึ้นมา – ผลของมันก็จะเกิดตามมาด้วย เหมือนดังประกายไฟที่จะพุ่งออกเป็นเปลวไฟ นักจิตวิทยาและจิตแพทย์ของทุกวันนี้ได้ค้นคว้าว่าความรู้สึกในทางร้ายและการเป็นศัตรู
 

 

เมื่อเกิดมาครั้งหนึ่งในจิตใจของใครแล้วก็สามารถได้รับการกดดันได้ชั่วเวลาหนึ่ง และจะถูกผลักดันเข้าไปในส่วนลึกของจิตใจ และถูกลืมตราบเท่าท่มีสติสัมปชัญญะเข้ามาเกี่ยวข้องอยู่ แต่ในความเป็นจริงแล้วความรู้สึกนี้ไม่อาจถูกลบล้างไปอย่างแท้จริงได้

 

มันยังเป็นส่วนที่กระเหี้ยนกระหือรืออยู่ในส่วนลึกของจิตใจ ไม่เป็นที่รู้ต่อสติภายนอกจนกว่ามันจะหาทางออกมาสู่ภายนอก และปรากฎตัวเองขึ้นมาให้เห็นได้ ท่านศาสดาผู้บริสุทธิ์ ได้ขอต่อพระผู้เป็นเจ้าในทรงประทานประกายไฟอันนั้น ซึ่งอยู่ในจิตใจของเราและวันหนึ่งจะระเบิดออกเป็นเปลวไฟที่ไปเผาไหม้คนอื่น หากว่ามันจะไปเผาไหม้คนหนึ่งคนใดก็ขอให้เผาไหม้บรรดาผู้ที่ปฎิบัติต่อเราอย่างอยุติธรรมต่อบุคคลและเหตุผลและความปรารถนาของเขาก็ไม่ได้รับความยุติธรรมเช่นกันแล้วเขาก็จะแก้แค้นอย่างมีสติ เขาจะไม่แก้แค้นต่อผู้อื่นถ้าหากว่าคนฆ่าสัตว์เป็นผู้ก่ออาชญากรรมขึ้น การลงโทษก็จะไม่เกิดขึ้นกับคนขายขนมปัง อย่างไรก็ตามเมื่อบุคคลไม่ปฏิบัติตามเหตุผลอิสระของเขา แต่ปฏิบัติตามความรู้สึกที่ถลาลึกเข้าไปในก้นบึ้งแห่งจิตใจของเขาแล้ว เขาก็จะไม่เอาข้อคิดเช่นนั้นมาใคร่ครวญอีก

 

ท่านศาสดาได้ขอพรพระผู้เป็นเจ้าให้พวกเราเป็นไปในทางที่ว่า การแก้แค้นและเจตนาร้ายของเรามีอยู่แค่ที่จะทำให้ศัตรูของเราพ่ายแพ้ ขอให้หัวใจที่ถูกทรมานและความปรารถนาอันเลวร้ายแห่งการแก้แค้นอันเป็นผลมาจากความอยุติธรรมและการไม่ได้รับสิ่งที่ควรได้รับอย่าได้ปรากฏขึ้นในพวกเรา

 

 

ซึ่งในทางกลับกันจะเป็นความทุกข์และสร้างความกดดันแก่จิตใจของเรา ทาให้เราหยิ่งทะนง หัวแข็ง คิดร้ายและอยุติธรรมได้ ท่านได้ขอต่อพระผู้เป็นเจ้าอย่าทำให้เราเป็นไปในทางที่ว่าเราจะใฝ่หาความสุขสำราญด้วยการที่เราเป็นผู้อยุติธรรมและเหยียบย่ำสิทธิของคนอื่นๆ เลย


เขียนโดย ชะฮีดมุเฏาะฮะรี
แปล จรัญ มะลูลีม