เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม

ศาสนากับโลก (ตอนที่ 16) จริยธรรมที่ยุติธรรมในสังคมที่ยุติธรรม

0 ทัศนะต่างๆ 00.0 / 5

จริยธรรมที่ดีงามนั้น ประกอบไปด้วยความยุติธรรมที่สมดุล เป็นสิ่งที่ทั้งชัดเจนและแน่นอนว่าถ้าหากสังคมไม่ยุติธรรมและไม่สมดุล

 

หากองค์การทางสังคมและกฎเกณฑ์ทางสังคมและสิทธิทางสังคมไม่ยุติธรรมและไม่สมดุลแล้ว จริยธรรมของบุคคลก็จะดำรงอยู่อย่างอยุติธรรมและไม่สมดุลเช่นกัน ผลแห่งสังคมที่ไม่ยุติธรรมนั้นไม่เพียงแต่จะพบได้ในคนทั่วไป ผู้ซึ่งขาดสิ่งที่ควรได้เท่านั้น แต่ยังรวมทั้งชนชั้นพิเศษผู้จัดสรรพรส่วนมากของพระผู้เป็นเจ้าให้แก่ตัวของพวกเขาเองด้วย คนทั่วไปเมื่อได้รับความกดดันก็จะกลายเป็นคนหวาดผวา ส่วนบางคนก็กลายเป็นคนเฉื่อยชาต้องพึ่งพาผู้อื่น อกตัญญู ไม่แยแสและฟุ่มเฟือยไป

 

เกี่ยวกับชนชั้นพิเศษนี้ ในคำสั่งอันเป็นที่รู้จักกันดีที่มีต่อมาลิก อิบนิอัชตาร ท่านอะลี (อ) ได้เขียนว่า : สาหรับผู้ครองนคร ไม่มีใครที่จะสุรุ่ยสุร่ายในยามสุขสบายไปยิ่งกว่าชนชั้นพิเศษนี้ มีการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้อื่นในคราวเดือดร้อนลำเค็ญน้อยกว่า มีความเกลียดความเสมอภาค และความยุติธรรมมากกว่า มีความคาดหมาย อกตัญญูและไม่ให้ด้วยมากกว่า และมีความอดทนในคราวคับขันน้อยกว่าชนชั้นพิเศษนี้

 

แกนของศาสนาและจุดศูนย์กลางอันแท้จริงของมุสลิมและแหล่งแห่งชัยชนะต่อศัตรูนั้นอยู่ที่คนธรรมดาสามัญ ดังนั้นความสนใจของมาลิกควรมุ่งสู่ชนธรรมดาสามัญอยู่เสมอ ไม่ใช่มุ่งไปสู่ชนชั้นพิเศษเพียงไม่กี่คน ท่านอะลี (อ) ได้อธิบายถึงจิตใจของชนชั้นพิเศษผู้ซึ่งได้รับการพะเน้าพะนอจากสังคมอย่างไม่เหมาะสมเช่นนี้ได้ดีเหลือเกิน!

 

มีแบบอย่างจากท่านศาสดาผู้ประเสริฐกล่าวว่า : “จงเท่าเทียมกันแล้วหัวใจของท่านก็จะเท่าเทียมกัน ” หมายความว่า เราควรจะมีใจกว้างและยุติธรรม และไม่ควรมีความแตกต่างกันหรือแบ่งแยกในหมู่พวกเรา เพื่อว่าจิตใจของเราจะได้ใกล้ชิดอยู่ในระดับเดียวกัน จากนี้เราจะรู้ว่าหากมีรอยแยกที่ไม่ยุติธรรมอยู่ในการรับผิดชอบ และการอำนวยพรจากพระผู้เป็นเจ้าแล้วก็จะเกิดช่องว่างเช่นเดียวกันขึ้นในหัวใจของเรา และเราก็จะไม่สามารถมีความเมตตาสงสารต่อกันและกันหรือคิดในแนวเดียวกันหรือสมานสมัครเป็นแนวร่วมอันเดียวกันได้

 

พระมหาคัมภีร์กุรอานบอกเราว่า : “จงยึดมั่นกับสายเชือกของอัลลอฮ์โดยพร้อมเพรียงกันเถิด และพวกเจ้าอย่าได้แตกแยกกัน และพวกเจ้าจงระลึกถึงความโปรดปรานของอัลลอฮ์แก่พวกเจ้า เมื่อครั้งพวกเจ้ายังเป็นศัตรูต่อกัน แล้วพระองค์ได้ทรงประสานระหว่างหัวใจของพวกเจ้า ต่อมาพวกเจ้าก็เปลี่ยนมาเป็นพี่น้องกัน ” (3: 102)

 

เป็นที่กระจ่างแจ้งอยู่แล้วว่า สาระของโองการนี้เกี่ยวกับความสามัคคีที่อิสลามนามาสู่มนุษย์ชาติ

 


เขียนโดย ชะฮีดมุเฏาะฮะรี
แปล จรัญ มะลูลีม

 

กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วย

ความคิดเห็นของผู้ใช้งานทั้งหลาย

ไม่่มีความคิดเห็น
*
*

เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม