เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม

ชีวประวัติท่านหญิงซัยนับ อัลกุบรอ ตอนที่ 3

0 ทัศนะต่างๆ 00.0 / 5

 


ชีวิตในวัยสาวของท่านหญิงซัยนับ

 


เมื่อย่างเข้าสู่วัยสาว ท่านหญิงซัยนับก็มีผู้หมายปองในตัวท่านมากมาย หนึ่งในนั้นคือ อะซารบุตรของกอยส์ ผู้นำที่เข้มแข็งคนหนึ่งของชาวอาหรับ ท่านอิมามอะลีก็ไม่เห็นชอบและยินยอม เพราะท่านมีผู้ที่หมายมั่นไว้ในใจอยู่แล้ว คือ อับดุลลอฮ์ หลานชายของท่าน บุตรของญะอ์ฟัร ฏอยยัร ขณะที่ท่านศาสดาก็ได้เคยหมายมั่นไว้ด้วยเช่นกัน เมื่อท่านเฝ้ามองอับดุลลอฮ์และท่านหญิงซัยนับตั้งแต่ยังเยาว์ เมื่ออับดุลลอฮ์อายุ 22ปี จึงมาสู่ขอท่านหญิง ซึ่งอิมามอะลีก็ยินดี และเตรียมการจัดพิธีสมรสขึ้น ในขณะนั้นท่านหญิงซัยนับอายุเพียง 11 ปี พิธีได้จัดขึ้นในปี ฮ.ศ. ที่ 16


สิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ที่เป็นเหตุผลหนึ่งของท่านศาสดา ในการเลือกอับดุลลอฮ์ให้กับท่านหญิงซัยนับ ก็เพราะท่านคือ บุตรของท่านญะอ์ฟัร บุตรของอบูฏอลิบ พี่ชายของท่านอิมามอะลี ซึ่งรู้จักกันในนาม‘ญะอ์ฟัร ฏอยยัร’ ท่านเป็นมุสลิมกลุ่มแรกที่ออกเดินทางไปเผยแผ่ศาสนาในอบิสซีเนียเพื่อประกาศสัจธรรม


 ‘นมาซญะอ์ฟัร ฏอยยัร’ เป็นนมาซที่ท่านศาสดาสอนให้ท่าน ซึ่งจะได้รับการตอบรับอย่างรวดเร็ว และ เป็นการขออภัยโทษในบาปใหญ่ ท่านถูกสังหารในสงคราม ‘มูตะฮ์’ โดยแขนของท่านถูกตัดจนขาดทั้งสองข้าง ท่านศาสดาร่ำไห้ต่อการสูญเสีย ในครั้งนี้อย่างมาก แต่ท่านก็ได้รับการบอกข่าวดีจากญิบรออีลว่า


ท่านญะอ์ฟัรได้รับปีกทั้งสองข้างแล้ว และจะโบยบินไปพร้อมๆ กับบรรดามะลาอิกะฮ์บนสวนสวรรค์


ท่านศาสดาจึงรุดไปปลอบโยนครอบครัวของผู้กล้าหาญ ท่านลูบที่ศีรษะสมาชิกในครอบครัวทุกคนพร้อมกับอุ้มอับดุลลอฮ์ไว้บนตัก และขอพรต่ออัลลอฮ์ให้คุ้มครองดูแลครอบครัวของญะอ์ฟัร พร้อมกับให้พรอับดุลลอฮ์ในการดำรงชีวิตท่านศาสดารักอับดุลลอฮ์ และเคยนำไปมัสยิดกับท่าน


 ด้วยเหตุนี้ไม่น่าประหลาดใจว่า เหตุใดท่านจึงเลือกอับดุลลอฮ์ให้กับท่านหญิงซัยนับ


ครั้งหนึ่ง เมื่ออับดุลลอฮ์ลงทุนซื้อฝูงแกะ ท่านศาสดาได้ขอพรต่ออัลลอฮ์ให้ประทานความสำเร็จให้ท่าน ตั้งแต่นั้นมา อับดุลลอฮ์ก็มีฐานะมั่งคั่ง เจริญรุ่งเรือง ท่านมาจากตระกูลบนีฮาชิม เป็นคนใจบุญเอื้อเฟื้อ เป็นที่รู้จักกันในนาม “บะฮ์รุลญูด” ท่านเป็นคนสง่างาม นิสัยดี รูปร่างของท่านคล้ายคลึงกับอับดุลลอฮ์บิดาของท่านศาสดา จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ชื่อนี้ถูกเลือกไว้สำหรับท่าน


เมื่อท่านอิมามอะลี ย้ายไปยังเมืองกูฟะฮ์ และสถาปนาเป็นเมืองหลวงของท่าน หลังจากต้อนรับตำแหน่งคอลีฟะฮ์ อับดุลลอฮ์และท่านหญิงซัยนับ จึงติดตามไปด้วยและพักอยู่ที่นั่น จนกระทั่งท่านอิมามอะลี ถูกสังหาร ท่านทั้งสองจึงย้ายกลับมาอยู่ที่มะดีนะฮ์ด้วยหัวใจที่แตกสลาย อิมามอะลีมีความพึงพอใจในตัวของอับดุลลอฮ์มาก ซึ่งท่านจะมาเยี่ยมเยือนพบปะพูดคุยกับอิมามอะลีจนเป็นกิจวัตร เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับคำสอนของอิสลาม เพราะท่านเคยได้ยินท่านศาสดากล่าวว่า “ฉันคือนครแห่งความรู้ และอะลีคือประตูของมัน”

 

อับดุลลอฮ์ เคยเป็นแม่ทัพที่มีทหารใต้บังคับบัญชาถึง 10,000 คนในสงครามญะมัล (อูฐ) และเคยถูกส่งไปสู้รบในสงครามซิฟฟีน มุอาวิยะฮ์เคยชักชวนให้อับดุลลอฮ์มาเข้าร่วมกับเขา แต่มันเป็นไปไม่ได้


แม้แต่จะคิดเกี่ยวกับข้อเสนอนี้ เพราะท่านคิดเสมอว่า มุอาวิยะฮ์ คือ ศัตรูตัวฉกาจของอิสลาม หลังจากสิ้นท่านอิมามอะลี ท่านก็ยอมรับอิมามฮาซัน เป็นอิมามของท่าน หลังจากนั้นก็อยู่กับท่านอิมามฮูเซน ท่านได้ส่งบุตรชายทั้งสองคือ อูนและมุฮัมมัดไปเพื่อช่วยเหลืออิมามฮูเซน ที่กัรบะลา และเมื่อข่าวการสละชีพของบุตรทั้งสองมาถึง ท่านได้ยกมือขึ้นและขอบคุณต่ออัลลอฮ์ ท่านเสียชีวิตเมื่ออายุ 88 ปี


ท่านศาสดา นับรวมท่านไว้เป็นหนึ่งในสมาชิกครอบครัว ด้วยเหตุนี้ จึงควรที่จะมอบความเคารพนับถืออย่างสูงให้กับท่าน และผู้หนึ่งควรจะคิดว่า ท่านก็เป็นหนึ่งในครอบครัวของท่านศาสดา

 

ที่มา หนังสือ ซัยนับ วีรสตรีแห่งอิสลาม
เขียนโดย ยูซุฟ เอ็น ลาลล์ญี

 

กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วย

ความคิดเห็นของผู้ใช้งานทั้งหลาย

ไม่่มีความคิดเห็น
*
*

เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม