เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม

อิมามมะฮ์ดี (อ.) ในทัศนะคำรายงาน

0 ทัศนะต่างๆ 00.0 / 5

อิมามมะฮ์ดี (อ.) ในทัศนะคำรายงาน

 

ประเด็นเกี่ยวกับ อิมามมะฮ์ดี (อ.) เป็นประเด็นที่มีคำรายงานจำนวนมากมายกล่าวถึง ซึ่งสามารถแบ่งคำรายงานเป็นขั้นตอนตั้งแต่เริ่มประสูติ วัยเด็ก ช่วงการเร้นกายในระยะสั้นและระยะยาว สัญลักษณ์ของการปรากฏกาย ช่วงการปรากฏกาย และการปกครอง มีรายงานจากท่านศาสดา (ซ็อล ฯ) และบรรดาอิมามผู้บริสุทธิ์กล่าวอธิบายไว้อย่างละเอียด ทั้งในเรื่องคุณสมบัติพิเศษภายนอก จริยธรรมของท่านอิมาม คุณสมบัติต่าง ๆ ในช่วงการเร้นกาย ความประเสริฐ รางวัลของผู้รอคอยการปรากฏกาย และยังมีรายงานที่มีคุณค่ายิ่งในแง่มุมอื่นอีกมากมาย แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นคือ รายงานเหล่านี้มีบันทึกอยู่ในตำราอ้างอิงทั้งฝ่ายซุนนีและชีอะฮ์ ซึ่งรายงานส่วนใหญ่เป็นรายงานที่เชื่อถือได้ (มุตะวาติร) กล่าวว่า สิ่งพิเศษเกี่ยวกับอิมามมะฮ์ดี (อ.) ที่ควรพิจารณาคือ บรรดาอิมามผู้บริสุทธิ์ทุกท่านกล่าวถึงประเด็นนี้ไว้ทั้งในแง่วิชาการและในมุมมองอื่น ๆ แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ การกล่าวถึงการยืนหยัดของอิมามในยุคสุดท้าย เพื่อเรียกร้องสัจธรรมและทำให้โลกเปี่ยมล้นไปด้วยความยุติธรรม ดั่งที่โลกเคยเปี่ยมล้นด้วยความอยุติธรรมมาก่อนหน้านี้ ณ ที่นี้จึงขอนำเสนอรายงานจากท่านศาสดา (ซ็อล ฯ) และบรรดาอิมามแต่ละท่าน ดังนี้

 

ท่านศาสดา (ซ็อล ฯ) กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีแก่ผู้ที่ได้เห็นมะฮ์ดี ขอแสดงความยินดีแก่ผู้ที่รักมะฮ์ดี และขอแสดงความยินดีแก่ผู้เชื่อมั่นในตำแหน่งอิมามะฮ์ของมะฮ์ดี[1]

 

อิมามอะลี (อ.) กล่าวว่า จงรอคอยการปรากฏกายของอาลิมุฮัมมัดเถิด และจงอย่าหมดหวังในเมตตาของพระเจ้า แน่นอน สิ่งที่เป็นที่รักยิ่ง ณ พระองค์คือการรอคอยการปรากฏกายของมะฮ์ดี[2]

 

ท่านหญิงฟาฏิมะฮ์ (อ.) กล่าวไว้ในลุฮูฟของท่าน[7] ว่า ดังนั้น เพื่อแผ่เมตตาแก่ประชาโลก พระองค์ได้แต่งตั้งตัวแทนของพระองค์ ซึ่งจะสมบูรณ์ด้วยการมีอยู่แห่งบุตรของฮะซัน อัลอัสกะรีย์ (อ.) บุคคลที่ความสมบูรณ์ของมูซา ความรุ่งเรืองของอีซา และความอดทนของอัยยูบอยู่ในตัว[3]

 

อิมามฮะซัน อัลมุจญ์ตะบา (อ.) กล่าวในรายงานหนึ่ง หลังจากกล่าวถึงปัญหาบางประการหลังจากท่านศาสดา (ซ็อล ฯ) จากไปว่า พระเจ้าทรงให้ชายคนหนึ่งปรากฏออกมาในยุคสุดท้าย พระองค์จะสนับสนุนเขาด้วยเหล่าบรรดามลาอิกะฮ์ของพระองค์ พระองค์จะปกป้องมวลมิตรสหายของเขา พระองค์จะให้เขาสร้างความประหลาดใจแก่ประชาโลกทั้งหลาย เขาจะทำให้โลกเปี่ยมล้นด้วยความยุติธรรมและเหตุผลที่แจ่มแจ้ง ขอแสดงความยินดีต่อผู้ที่ได้อยู่ในยุคของเขาและได้ฟังสุนทรพจน์จากเขา[4]

 

อิมามฮุเซน (อ.) กล่าวว่า พระเจ้าทรงให้ชีวิตชีวาแก่โลกโดยผ่านมะฮ์ดี หลังจากที่แห้งแล้งมาอย่างยาวนาน พระองค์จะให้เขาประกาศศาสนาอันเที่ยงธรรมให้มีชัยเหนือศาสนาทั้งหลายบนโลก แม้ว่ามวลผู้ปฏิเสธจะไม่ปรารถนาก็ตาม เขาจะเร้นกายซึ่งเป็นเหตุให้คนกลุ่มหนึ่งหันเหออกจากศาสนา และอีกกลุ่มหนึ่งยึดมั่นต่อศาสนาอย่างมั่นคง ดังนั้น ผู้อยู่ในช่วงการเร้นกายถ้าต่อสู้กับอธรรมการกดขี่ และความมุสาทั้งหลายบนโลก ประหนึ่งเขาได้จับดาบญิฮาดในสมัยของท่านศาสดา (ซ็อล ฯ)[5]

 

อิมามอะลี บิน ฮุเซน อัซซัจญาด (อ.) กล่าวว่า บุคคลที่ยึดมั่นในความรักที่มีต่อเราในยุคการเร้นกายของมะฮ์ดี พระเจ้าจะประทานรางวัล 1,000 ชะฮีดจากสงครามอุฮุดและสงครามบะดัรแก่เขา [6]

 

อิมามมุฮัมมัด อัลบากิร (อ.) กล่าวว่า ช่วงเวลาหนึ่งจะมาถึงประชาชาติ ซึ่งอิมามของเขาจะเร้นกาย ดังนั้น ขอแสดงความยินดีกับบุคคลที่ยึดมั่นในวิลายะฮ์ของเราในช่วงการเร้นกายของเขา[7]

 

อิมามญะอ์ฟัร อัศศอดิก (อ.) กล่าวว่า สำหรับกออิม จะมีการเร้นกาย 2 ครั้งกล่าวคือ ระยะสั้นและระยะยาว [8]

 

อิมามมูซา อัลกาซิม (อ.) กล่าวว่า อิมามมะฮ์ดีจะเร้นกายหายไปจากสายตาของประชาชน แต่หัวใจของมวลผู้ศรัทธาจะไม่มีวันลืมเลือนท่าน[9]

 

อิมามอะลี อัรริฎอ (อ.) กล่าวว่า เมื่ออิมามมะฮ์ดีลุกขึ้นยืนหยัด แผ่นดินจะสว่างไสวไปด้วยรัศมี (การมีอยู่) ของท่าน อิมามจะสร้างความยุติธรรมในหมู่ประชาชน และโลกจะเปี่ยมไปด้วยความยุติธรรม ดังนั้น จะไม่มีผู้ใดบนโลกกดขี่กันและกัน[10]

 

อิมามมุฮัมมัด อัลญะวาด (อ.) กล่าวว่า กออิมของเรา คือ ผู้ที่ประชาชนต่างรอคอยการปรากฏกายของเขาในช่วงที่เขาเร้นกาย และเมื่อเขายืนหยัดต่อสู้ทุกคนจะต่อสู้ตามคำสั่งของเขา[11]

 

อิมามอะลี อัลฮาดีย์ (อ.) กล่าวว่า อิมามหลังจากฉัน คือ ฮะซันบุตรของฉัน และอิมามหลังจากเขา คือ กออิม บุตรชายของเขาผู้ที่จะทำให้โลกเปี่ยมล้นไปด้วยความยุติธรรม ดั่งที่โลกเปี่ยมล้นด้วยความอยุติธรรม[12]

 

อิมามฮะซัน อัสกะรีย์ (อ.) กล่าวว่า ขอขอบคุณพระเจ้าที่มิได้ให้เราจากโลกไปจนกระทั่งพระองค์ได้แสดงผู้แทนของเรา ให้เราเห็นเขาเป็นผู้มีความคล้ายเหมือนท่านศาสดา (ซ็อล ฯ) ทั้งหน้าตาและกริยามารยาท[13]

 

แหล่งอ้างอิง


[1] บิฮารุลอันวาร เล่มที่ 52 หน้าที่ 309

[2 เล่มเดิม หน้าที่ 123

[3] ในรายงานดังกล่าว ๆ ว่า ญาบิร อันศอรีย์ กล่าวว่า ในสมัยของท่านศาสดา (ซ็อล ฯ) เราได้ไปที่บ้านของท่านหญิงฟาฏิมะฮ์ (อ.) เพื่อกล่าวแสดงความยินดีเนื่องจากการประสูติของท่านอิมามฮุเซน(อ.) ที่ประตูหน้าบ้านของท่านหญิงเราเห็นซุฮูฟสีเขียวฉบับหนึ่ง ซึ่งบันทึกนั้นเปล่งรัศมีประดุจดังแสงอาทิตย์ เราถามว่าซูฮูฟนี้คืออะไร ท่านหญิงกล่าวว่า เป็นของขวัญที่พระเจ้าทรงมอบแด่ท่านศาสดา (ซ็อล ฯ) ซึ่งภายในได้บันทึกนามของบิดาของฉัน สามีของฉัน บุตรชายทั้งสองของฉัน และนามของตัวแทนของบุตชายของฉัน ท่านศษสดา (ซ็อล ฯ) ได้มอบซุฮูฟนี้แก่ฉันเพื่อให้ฉันมีความสุข

[4] กะมาลุดดีน เเล่ม 1 หมวดที่ 28 ฮะดีษที่ 1 หน้าที่ 569

[5] อิฮ์ติยาฏ เล่ม 2 หน้าที่ 70

[6] กะมาลุดดีน เล่มที่ 1 หมวดที่ 30 ฮะดีษที่ 3 หน้าที่ 584

[7] อ้างแล้ว  เล่มที่ 1 หมวดที่ 31 หน้าที่ 592

[8] อ้างแล้ว เล่มที่ 1 หมวดที่ 32 ฮะดีษที่ 15 หน้าที่ 602

[9] ฆอยบัตนุอ์มานีย์ หมวดที่ 10  บทที่ 4 ฮะดีษที่ 5 หน้าที่ 176

[10] อ้างแล้ว เล่มเดิม หมวดที่ 34 ฮะดีษที่ 6 หน้าที่ 57

[15] อ้างแล้วเล่มเดิม หมวดที่ 35 ฮะดีษที่ 5 หน้าที่ 60

[11] อ้างแล้วเล่มเดิม หมวดที่ 36 ฮะดีษที่ 1 หน้าที่ 70

[12] อ้างแล้วเล่มเดิม หมวดที่ 37 ฮะดีษที่ 10 หน้าที่ 79

[13] อ้างแล้วเล่มเดิม หมวดที่ 38 ฮะดีษที่ 7 หน้าที่ 118


ขอขอบคุณเว็บไซต์อัชชีอะฮ์

 

 

กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วย

ความคิดเห็นของผู้ใช้งานทั้งหลาย

ไม่่มีความคิดเห็น
*
*

เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม